คุยกันนักลงทุนท่านหนึ่ง; "อ๋อ เอาเงินที่บ้านมาลงทุน... blah...blah..."
สมองเรา shut down ทันทีที่เขาบอกว่าเขาเอาเงินจากที่บ้านมาลงทุน ไม่ผิดนะครับที่เขามีใครปูทางมาให้แล้ว เอาเงินจากที่บ้านมา นั่น นี่ โน่น เราดีใจด้วย ไม่อิจฉาหรืออะไรใด ๆ ทั้งสิ้น แค่คลื่นความถี่เราไม่ตรงกันแค่นั้นเอง จริตคนละแบบ พูดกันคนละภาษา เพราะเราคือ self-made อย่างแท้ทรู เพราะเราสร้างทุกอย่างของเรามาเอง จากสมองและสองมือที่มี เราคิดว่าวิธีคิดเราคงต่างกัน คือเขาไม่ได้เริ่มจาก 0 เหมือนเรา ฟังเขาพูดไปก็เท่านั้น เสียเวลา เอาเงินพ่อเงินแม่มาลงทุน ง่ายเสมอ ความอึดของคนที่เริ่มจาก 0 กับความอึดของคนที่ที่บ้านปูทางมาให้แล้วนั้นต่างกัน As of today; 12 January 2025 เรามีหุ้นใน ASX 9 ตัว
- LIC; Listed Investment Company x 4 - อสังหา x 3 - private hospital x 1 - ธนาคาร x 1 (ไม่ใช่ big 4) ใครชอบแบบไหน อะไร อย่างไร ศึกษากันเอาเองนะครับ อย่าไปอ่านอะไรตาม webboard หรือ forum ต่าง ๆ ใน internet คนที่รวยแล้วเขาไม่มานั่งเขียนอะไรใน webboard ในพวก pantip หรอกครับ เสียเวลา 1. ส่วนมากเราอ่านจากหนังสือ 2. ลองผิดลองถูกด้วยเงินก้อนเล็ก ๆ ก่อน เราลองผิดลองถูกมาแล้วจากตลาดหลักทรัพย์ที่สิงคโปร์ 3. ดูบทสัมภาษณ์ต่าง ๆ ใน YouTube บ้าง ไม่เยอะ (บทสัมภาษณ์นะครับ ไม่ใช่พวกขาย course การลงทุน) เรามีหุ้นใน ASX อยู่แล้ว 8 ตัว
ส่วนมากก็จะเป็น: - LIC; Listed Investment Company - อสังหา - private hospital x 1 จริง ๆ 8 ตัวนี้ OK แล้ว เรา go deep, not go wide แต่อีกใจหนึ่งก็อยากซื้อหุ้นของธนาคารด้วยที่เป็นธนาคารเล็ก ๆ ไม่ใช่ Big 4 แต่มันก็ overpriced เหลือเกิน อ๊ะ... Steve Jobs ยังเคยมีหุ้นของ Apple ของตัวเอง $1 US เลยเพื่อที่จะได้อ่าน company report งั้นเราเอาบ้างก็แล้วกัน เพื่อที่จะได้คอยดูเวลาหุ้นขึ้นลงบ้าง โอ๊ววว ปรากฎว่าจะซื้อหุ้นใน ASX ต้องซื้ออย่างต่ำ $500 AUD อ๊ะ จัดไปกร้อมแกร้ม ไม่เยอะมาก ไม่ถึงพัน ตอนนี้ก็เลยมีหุ้นใน ASX 9 ตัว พอแล้วนะ อย่างที่บอก เราต้องการ go deep, not wide. การลงทุนของเรา ไม่ได้ซื้อมาขายไป ไม่ได้ trade เราลงทุนเพื่อเก็บ เพื่อรอปันผล เพื่อเป็น passive income เพื่อเกษียณแบบไม่ต้องคิดอะไรมากเรื่องเงิน หลังจาก settlement บ้านที่ SA ไปเมื่อวันที่ 02 September 2024 เราก็อยากจะ slow down แล้วกับการซื้อบ้านเพื่อการลงทุน ยังคงซื้ออยู่แต่แบบไม่เร่งรีบ จะยังคงซื้อไปเรื่อย ๆ ตราบเท่าที่กำลังในการซื้อเรามี แต่จะต้องไม่เร่งรีบเหมือนที่ผ่านมา
ในช่วงที่เร่งรีบ เราเคยซื้อมาแล้วครับ 1 ปี 7 หลัง (2022) พอแล้ว แบบนั้นมันเหนื่อยมาก Project ต่อไปก็คือหาซื้อ apartment ใน Sydney หรือใกล้ ๆ Sydney ให้ลูกลิง 2 ตัวได้เป็นที่พักพิงหลังจากเรียนจบ หรือเวลาพวกเรามีธุระเข้าไปทำที่ Sydney ก็ไม่จำเป็นต้องรีบขับรถกลับ แต่ก็นั่นแหละ apartment 2 ห้องนอนใน Sydney ก็ใช่ว่าจะถูก ก็ต้องซื้อ off-the-plan จะได้มีเวลาเก็บเงิน ก็ต้องซื้อเผื่อ settlement โน่นแหละปี 2026 อะไรก็ว่าไป ถึงตอนนั้นลูกลิงตัวโตก็น่าจะจบ UNSW แล้ว ก็จะได้มีที่อยู่กัน ไม่ต้องไปเช่า เราคุยกับลูกน้อง 2 คนว่า: 1. บ้านที่เป็น family home ที่ Wollongong ก็จะตกเป็นของลูกทั้ง 2 คน ต่อให้เขาออกไปโบยบิน ออกไปใช้ชีวิตที่ไหน ในวันที่เหนื่อยให้กลับ "บ้าน" ในวันที่เกิดอะไรขึ้นกลับชีวิต บ้านหลังนี้จะเป็น safe zone ให้กับเขาทั้ง 2 บ้านหลังนี้ ห้องนอนของพวกเขาจะเก็บไว้เหมือนเดิม ไม่ว่าเขาจะอยู่หรือไม่อยู่ก็ตาม บ้านหลังนี้ปลอด home loan ปลอด mortgage ดังนั้นลูก ๆ ไม่มีอะไรที่ต้อง worry daddy ทำงานหนักเพื่อลูก ๆ แล้ว 2. บ้านหลังนี้ ถ้าในวันที่ daddy กับ mummy ไม่อยู่แล้ว เราก็ไม่อยากให้ขาย ก็ให้มันสืบทอดต่อ ๆ กันไป ทุกอย่างเราซื้อในนามบริษัทและ trust อยู่แล้ว ไม่ต้องมีพินัยกรรมให้วุ่นวาย ลูกลิงทั้ง 2 ไม่ต้องแย่งกัน เรามีอีกหลายหลังที่เป็น investment properties แต่หลังนี้ขอเก็บเอาไว้ นี่คือบทสนทนาที่เราคุยกับลูกทั้ง 2 (คนเล็กอยู่ high school แล้วครับ year 11 แล้ว ละเราก็คุยเรื่องนี้กับลูก ๆ แล้ว คุณพ่อคุณแม่ท่านไหนมีลูกในวัยนี้ ก็คุยกับลูกได้นะครับ ลูก ๆ เข้าใจและเขาก็จะ feel reassurance ในเรื่องของชีวิตเขาว่าพ่อแม่จัดหาเอาไว้ให้แล้ว) 3. apartment ที่กำลังมองหากันใน Sydney (หรือใกล้เคียง) อันนี้ก็คงต้องผ่อน ต้องกู้ ซึ่งเราก็ยังไม่รู้ว่าเมื่อลูกลิง (ลูกชายคนโต) เรียนจบแล้ว เขาจะทำงานอยู่ที่ Sydney หรือเปล่า หรือจะไปอยู่ที่ไหน อะไร ใด ๆ มี apartment ที่ Sydney ถ้าไม่อยู่เอง ก็ปล่อยให้คนเช่าได้ แต่อย่างน้อยเราก็อยากมี backup plan ให้กับลูก ๆ 4. ถ้าซื้อ apartment ที่ Sydney เสร็จ เราก็คงจะเปิดบริษัท "J Migration Team PTE LTD" ที่สิงคโปร์ เพราะภาษีที่โน่นถูกกว่า operation ยังอยู่ที่ออสเตรเลีย แค่ย้ายบริษัทไปที่โน่น เพื่อประโยชน์ของภาษี ถ้าไม่ต้องเร่งซื้อบ้าน เราก็ไม่ต้องทำยอดขายของบริษัทที่ประเทศออสเตรเลียแล้ว เราเป็น Singaporean PR เราเปิดบริษัทที่โน่นได้ง่าย อะไร ใด ๆ ทุกอย่างคือการ plan การวางแผน มันอาจจะเกิดขึ้นหรือไม่เกิดขึ้นก็ได้ แต่อย่างน้อยมันก็เป็นความเข้าใจตรงกันระหว่างทุกคนในครอบครัว โดยเฉพาะภรรยาเราแล้ว อะไรที่เราทำเพื่อลูกนะ นางเอาหมด แต่ถ้าซื้อบ้านก็การลงทุน เราก็ต้องทำ proposal ไปเสนอเขา ถ้าเขาไม่ approve ก็คือจบ คนนี้ COE ตัวจริง... คนหาห้ามออกสิทธิ์ออกเสียง เรามีหน้าที่หา เราคือ "มดงาน" จร้า แต่เป็นแบบนี้แหละดีแล้ว ชีวิตคู่มันอยู่ด้วยกันได้ยาว คนหนึ่งบู๊ คนหนึ่งบุ๋น พอดีเลย หยินกับหยาง ทั้งหมดที่เราทำไปก็เพื่อครอบครัวและลูกน้อย 2 คน ชีวิตเรากับภรรยาลอยลำแล้วหละ เดี๋ยวลูกลิงตัวเล็กจบ high school ปีหน้า เรา 2 คนก็โบยบินแล้ว ไป ๆ มา ๆ ระหว่าง 3 ประเทศ - ยังทำงานเหมือนเดิม แต่ทำเป็น remotely - ยังทำ face-to-face consultation เหมือนเดิมเวลาบินกลับมาที่ออสเตรเลีย ยังไงฐานลูกค้า onshore ของเราก็เยอะกว่าฐานลูกค้า offshore ก็ได้แต่หวังว่าทุกอย่างจะออกมาตามที่ plan เอาไว้ บันทึกไว้เป็นความทรงจำ
02 September 2024; เรา settlement บ้านที่ South Australia บ้านเหล่านี้ที่ซื้อผ่าน buyer agent มีคนเช่าอยู่แล้วเพราะเราจะ specific ไปเลยว่าเราเอาเฉพาะบ้านที่มีคนเช่าอยู่แล้วเท่านั้น หลังนี้เราซื้อเงินสด (ไม่แนะนำนะครับ) เราเทหมดหน้าตัก เหลือเงินในบัญชีส่วนตัว $576 ตัวเลขนี้จำขึ้นใจ ใจจริงแล้วเราก็ไม่อยากจะซื้อเงินสดหรอกครับ แต่เนื่องด้วยเรากู้ค่อนข้างเยอะแล้ว Home Loan Broker ก็บอกอย่างหนึ่ง บอกว่า borrowing power ได้เท่านั้นเท่านี้ ซึ่งก็เยอะอยู่ แต่พอเรื่องไปถึงธนาคารเขาก็ขอเอกสารค่อนข้างเยอะเป็น Company เป็น Trust มันหลาย company หลาย trust มาก และต้องขอเอกสารทุก company ทุก trust เราไม่อยากพลาดโอกาสในการซื้อ เพราะคนขายก็รอไม่ได้ เราก็ตัดสินใจซื้อสด ก็เลยเป็นที่มาของการเหลือเงินในบัญชีส่วนตัวแค่ $576 ไม่เกี่ยวกับบัญชีของภรรยาเรา อันนี้ก็ไม่แนะนำนะครับ ถ้าเราสามารถกู้ได้ก็ควรกู้ เราจะได้เหลือเงินเอาไว้ทำอะไรอย่างอื่นด้วย แต่ของเราก็โชคดีหน่อย งานเราค่อนข้าง OK ก็เลยซื้อสดได้ สรุปการซื้อสด: 1. 11 Oct 2018: apartment 2 ห้องนอน; NSW 2. 16 Sep 2022: studio apartment; QLD (Brisbane) 3. 02 Sep 2024: บ้าน 2 ห้องนอน; SA คิดว่าไม่น่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรแบบนี้อีกแล้ว ที่ต้องซื้อสด เพราะเราหมดโควต้าในการซื้อแบบเร่งรีบแล้ว อยากจะ slow down แล้ว ที่ผ่านมาเราเหนื่อยมาก (แต่คุ้มและ happy มากสุด ๆ เช่นเดียวกัน) คือเรายังซื้อยู่เรื่อย ๆ แต่ไม่ต้องรีบแล้ว ที่มีอยู่ตอนนี้ก็ "OK" แล้ว เพราะถ้าเรายังมีศักยภาพอยู่ ก็ซื้อไปเรื่อย ๆ ก็แค่นั้นเอง ลงทุนกันไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะหมดแรง... ก็แค่นั้นเอง ณ ตอนนี้ วันนี้ 17/03/2024
- ASX: หุ้นในตลาดหลักทรัพย์ออสเตรเลีย 8 ตัว - SET: หุ้นในตลาดหลักทรัพย์เมืองไทย 4 ตัว - สิงคโปร์: Oops!!! ไม่รู้ จำไม่ได้ แต่ยังมีอยู่ 1. ของเมืองไทย; SET เพิ่งเริ่มซื้อปีนี้; 2024 2. ของออสเตรเลีย; ASX 8 ตัวกำลังดี ก็ยังซื้อเพิ่มเรื่อย ๆ ภายใน 8 ตัวนี้แหละ เน้น - บริษัทอสังหา - บริษัท healthcare, private hospital - บริษัทที่เอาเงินเราไปลงทุน investment companies 3. เราซื้อเพื่อเก็บ ไม่ขาย, เน้น passiveincome 4. Dividend ของ ASX; 5 บริษัทเป็น re-invest อีก 3 เป็นส่งเงินปันผลเข้าบัญชี 5. ของ ASX เราเก็บเงินทุกเดือน เดือนละ $1K, พอครบ $10K ค่อยซื้อ จะได้ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมบ่อย 6. ของไทย; SET เราซื้อทีละ 100K THB, ยังไม่มี strategy ที่แน่นอน ของเราเน้น ASX... ก่อนซื้อทุกครั้ง CEO (ภรรยา) ต้อง approve!!! ทุกอย่างสร้างได้ จากสมองและสองมือที่มี ใครมีประสบการณ์แบบไหน inbox หรือ comment เล่าสู่กันฟังได้นะครับ Note: ตั้งแต่จบ ป.ตรี ทุกอย่างต้องดิ้นรนเอง $$$ (ขอ... แต่คุณอาไม่ให้... oops!!!) Disclaimer: อันนี้คือบันทึกส่วนตัวของเรา ไม่ใช่คำแนะนำทางการเงินหรือการลงทุน "Home Loan Broker"
เหตุผลหลักในการเลือกใช้ Home Loan Broker ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ไม่มีถูก ไม่มีผิด จริตใคร จริตมัน แต่หลักของเราคือ: 1. privacy & 2. confidentiality เราไม่ได้สนใจเรื่อง interest rate หรือ valuation อะไรมาก จะกู้ได้มากน้อย เราไม่ได้สนใจอะไรมาก เรามี backup เรื่องนั้นอยู่แล้ว เราเน้นแค่ 2 อย่างจริง ๆ ในการเลือกใช้ Home Loan Broker คือ privacy & confidentiality เพราะ Home Loan อะไรต่าง ๆ product มันก็เหมือนกันแหละ เพียงแต่ว่าเราอยากใช้ broker คนไหนแค่นั้นเอง และเรา emphasize เรื่องไหนแค่นั้นเอง ของเรา เรา emphasize เรื่อง privacy & confidentiality ไม่มีอะไรปิดบัง แค่อยากอยู่เงียบ ๆ แล้วใช้เงิน enjoy ชีวิตของเราไป ...ก็แค่นั้นเอง... อสังหา ยังน่าลงทุนอยู่ไหม... ในช่วงดอกเบี้ยสูงแบบนี้
แต่ละคน สถานการณ์ ไม่เหมือนกัน ไม่มีถูก ไม่มีผิด สำหรับเราแล้ว เรายังคง continue ลงทุนต่อไปเรื่อย ๆ เพราะ 1. เราซื้อเฉพาะ existing home ที่มีคนเช่าอยู่แล้ว (มี off the plan บ้าง แต่มีแค่ 3 หลัง) 2. ทุกหลังที่เราซื้อ เป็น positive cashflow income ตั้งแต่วันแรก ไม่มีการควักเนื้อ ดังนั้น... ซื้อเสร็จ เราก็เตรียมตัวหาซื้อหลังต่อไปเลยทันที ปั่นงาน หาเงิน deposit ต่อไป หรือหลังไหน equity เพิ่มขึ้น ก็ดึง equity ออกมา 3. เราเน้น passive income ไม่เน้น equity (เช่นเดียวกัน ไม่มีถูก ไม่มีผิด เงินใครเงินมัน) 4. เราไม่ทำ negative gearing ถ้าคิดจะ Retire Young, Retire Rich ทุกอย่างต้องเป็น positive gearing สิ... คณิตคิดง่าย ๆ เราไม่เห็นด้วยกับ negative gearing แต่เราไม่ก้าวก่าใคร ตังค์ใครตังค์มัน สำหรับเราแล้ว เราจะไม่มานั่งหลังขดหลังแข็งหาเงินมาโปะ mortgage แน่นอน ชีวิตมีอะไรให้ทำอีกตั้งเยอะ income จากค่าเช่าต้อง cover everything from day 1 5. ดอกเบี้ยทำอะไรเราไม่ได้ ก่อนลงทุน ก่อนซื้อ เราดูที่ rental yield ก่อนเลย ตัวเลขไม่เคยโกหก 6. อยากได้อะไรแบบไหน บอก specification ไปกับ buyer agent ไม่ต้องไปวิ่งหาเอง เราซื้อหลายหลังแล้วที่ WA ก็ไม่ต้องบินไป inspect สะหน่อย เราซื้อหลายหลังแล้วที่ QLD ก็ไม่ต้องบินไป inspect เองสะหน่อย (ที่ QLD, inspects เองแค่หลังเดียว เพราะไปทำธุระพอดี ส่วนใหญ่ซื้อผ่าน buyer agent) 7. ของเราซื้อเพื่อเก็บ Buy, Rent, Keep ไม่มีขาย ของเราไม่ได้เน้น equity ห่านออกไข่เป็นทองคำทุก ๆ week ทำไมต้องขายด้วยหละ บางคนบอกว่าก็ขายห่านตัวเล็ก ๆ แล้วไปซื้อห่านตัวใหญ่ ๆ ไง hmmm... แล้วแต่นะครับ อย่างที่บอกนะครับ ทุกอย่างไม่มีถูก ไม่มีผิด เงินใครเงินมัน สะดวกแบบไหนเอาแบบนั้น เราไม่จำเป็นต้องมีห่านตัวใหญ่ ๆ ฟาร์มของเรา อาจจะมีจะห่านตัวเล็ก ๆ หลาย ๆ ตัว ออกไข่เป็นทองคำก็ได้ เราซื้อห่าน ออกไข่เป็นทองคำ แล้วเก็บไข่ ไม่ได้ซื้อห่าน เพื่ออวดใคร อย่างที่บอก "สะดวก" แบบไหน เอาแบบนั้น แต่ละคน "สะดวก" ไม่เหมือนกัน สำหรับเรา เรา "สะดวก" แบบนี้ Note: buyer agent ไม่ฟรีนะครับ ของเราที่เราใช้ $9,000/หลัง มีลดให้นิดหน่อย เพราะซื้อกับบริษัทนี้หลายหลังแล้ว ทุกสิ่งอย่าง ไม่มีถูกไม่มีผิดนะครับ แล้วแต่สถานการณ์ใครมัน มองมากกว่าที่ตาเห็น ฟังมากกว่าที่เคยได้ยิน Passive Income สามารถทำได้หลายทาง หลายวิธีนะครับ
การลงทุนในอสังหาไม่ใช่วิธีเดียวในการสร้าง passive income มันยังมี tools และ vehicle ตัวอื่นที่สามารถใช้ในการสร้าง passive income ได้ หนึ่งใน vehicles นั้นก็คือ stock market ครับ เราลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศออสเตรเลีย; ASX (Australian Securities Exchange) ณ ตอนนี้เราซื้อเอาไว้อยู่ 7 ตัว เน้นพวก investment companies และมีหุ้นของบริษัทอสังหา (REITs) อยู่บ้าง 2 ตัว วันนี้ซื้อเพิ่ม REIT อีกหนึ่งตัว หลังจากนี้เราก็น่าจะมีหุ้นใน ASX 8 ตัวละ 8 ตัวน่าจะพอแล้ว ไม่น่าจะซื้ออะไรเพิ่มแล้ว หุ้นทุกตัวใน ASX ของเรา เราซื้อเพื่อเก็บ เราเป็น Value Investor (VI) ที่ซื้อเพื่อเก็บ ไม่ได้มีการซื้อมา-ขายไป แบบ trader หรือพวกเก็งกำไร เราซื้อหุ้นในนามของบริษัท ไม่ได้ซื้อในนามของบุคคล ดังนั้น ๆ ลูก ๆ ก็รับช่วงต่อได้ การลงทุนใน ASX ของเราถึง goal ที่เราวางเอาไว้ตั้งแต่ Dec 2019 แล้ว ทุกวันนี้ที่ยังลงทุนต่อมาเรื่อย ๆ ก็เหมือนเป็นเงินเก็บ เป็น extra saving มากกว่า เก็บไว้ในธนาคารมันก็ทำอะไรมากไม่ได้ นอกจากเอาไว้ลงทุนในอสังหา แต่ส่วนของการลงทุนในอสังหา เราก็แยกต่างหากอยู่แล้ว อันนี้คือ main investment (passive income) ส่วน ASX ก็เป็นลูุกเมียน้อย เป็น secondary investment (value investor; passive income) Dividend คือเงินปันผล หุ้นทั้งหมดตอนนี้ 7 ตัว: - เรา fully reinvest 5 ตัว - รับ dividend เป็นเงิน 2 ตัว พอมีเงินกร้อมแกร้มเข้ามาในบัญชีบ้าง ค่าขนม เดี๋ยวเราซื้ออีก 1 ตัว ก็คงกลายเป็นรับ dividents เป็นเงิน 3 ตัว 1. Reinvest 5 ตัว คิดว่าพอแล้ว อยู่ตัวแล้ว 5 ตัวนี้ ส่วนมากเป็น investment companies 2. ที่รับ dividend 3 ตัว ก็จะเป็น REIT บริษัทอสังหา; GPT, MirVac และ Stock Land Note: เราไม่ได้แนะนำให้ใครไปซื้อหุ้นของบริษัทไหน อะไร ยังไงนะครับ แต่ละคนมีความชอบหรือ strategy ที่แตกต่างกัน เราชอบบริษัทเหล่านี้ เราก็ซื้อบริษัทเหล่านี้ แค่นี้เองเลยจริง ๆ เราซื้อหุ้นใน ASX ค่อนข้าง agressive ในช่วงปี 2018 - 2019 ซึ่งมันก็ถึง goal ที่ตั้งเอาไว้แล้ว ก็ 6 หลัก AUD พอ Jan 2020 - ปัจจุบัน เราก็ซื้อเป็นเหมือนเป็นเงินเก็บมากกว่าคือ: - หยอดกระปุกเดือนละ $1,000 - พอครบ $10,000 แล้วค่อยซื้อทีเดียว เราไม่ได้ซื้อหยิบย่อย และไม่ได้สนใจว่า ณ ตอนนั้นราคาหุ้นจะอยู่ที่เท่าไหร่ พอเก็บตังค์ครบ $10K ก็ซื้อเลย เพราะจะได้ไม่ต้องเสียค่าบริการของ broker บ่อย (SelfWealth ก็ $9.50/transaction) Disclaimer: เราเขียนบอกเล่าเก้าสิบ เล่าเรื่องของเราไปเรื่อยเปื่อยจากประสบการณ์ตรง เราไม่ใช่ financial planner หรือ financial advisor อะไรใด ๆ ทั้งสิ้น ทุกอย่างไม่มีถูกไม่มีผิด จริตของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ชีวิตคนไทยในต่างแดน ก็ไม่ต้องการอะไรมากมายในชีวิตหรอกครับ
ก็แค่ต้องการความมั่นคงในชีวิต จะได้ใช้ชีวิตที่เหลือแบบไม่ต้องเครียดหรืออะไรมาก ตอนนี้มีความเป็น Victorian แล้ว ได้รับจดหมายจาก town council ใน VIC มีความเป็นคน local แล้ว ตอนนี้อสังหาของเรามีอยู่ 4 รัฐ; NSW, QLD, VIC, WA แค่นี้ก็คิดว่าตัวเองมาไกลมากพอแล้วครับ จากมดตัวน้อย ๆ ตัวหนึ่งที่ Wollongong ใครที่ตอนนี้ doubt yourself ก็ให้ออกมาจาก comfort zone ของตัวเองดูนะครับ แน่นอนทุกอย่าง through hard work จากการทำงานหนัก ซื่อสัตย์ สุจริต เงยหน้าไม่อายฟ้า ก้มหน้าไม่อายดิน หากเรามีความตั้งใจจริง ทุกอย่างมันทำได้หมดแหละ ใจสู้หรือเปล่าแค่นั้นเอง!!! ...ใ จ สู้ ห รื อ เ ป ล่ า... |
บันทึกชีวิตการลงทุน เล็ก ๆ น้อย ๆ เริ่มจากจุดเล็ก ๆ Archives
January 2025
|