|
หลังจากที่ผ่อนบ้านหลังที่ 2 ที่ Queanbeyan เสร็จไปเมื่อวันที่ 21 June 2019
RAMS Home Loan ก็ส่งจดหมายมาบอกว่า home loan interest (ดอกเบี้ย) ลดลง เอ่อ... เธอไม่ได้กินฉันหรอก ฉันไม่ได้เป็นหนี้เธอแล้วจ๊ะ มันเป็นความรู้สึกที่สบายใจ โล่ง ปลอดโปร่ง เสร็จแล้วเราก็ email หา real estate agent ของบ้านทั้ง 2 หลังว่าต่อไปให้โอนเงินเข้าบัญชี ING Savings Maximiser ของเรา (2.55% interest) OK ดอกเบี้ยไม่ได้เยอะมาก แต่ก็ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย OK... in search for number 3 นะ ถ้าได้ investment property ที่ประเทศออสเตรเลียอีกหลัง เราก็คงไม่โหมงานเหมือนตอนที่เป็นอยู่ตอนนี้แล้วหละ ชีวิตเรามีอะไรที่อยากจะทำอีกเยอะแยะ project อะไรต่าง ๆ กำลังจะคลอด เมื่อถึงเวลาอันควร ทุกคนคงจะได้เห็น :)  หนังสือเป็น passive income อีกอย่างหนึ่ง
เราจะสังเกตุได้ว่า หลาย ๆ คนที่เขียนหนังสือ เขาไม่เห็นเขียนแค่เล่มเดียว เขาจะมีออกมาเป็น series องค์ความรู้อะไรต่าง ๆ มันสามารถต่อยอดได้ พี่สาวเราเริ่มเขียนหนังสือเป็นรูปเล่ม เป็น self-publishing คือพิมพ์ขายเองผ่าน website และผ่าน Facebook page แน่นอน เขาก็ต้องฐานแฟน ฐาน base ของเขา พี่สาวเรามีคนติดตามแฟน page ของเขาประมาณ 200,000 กว่า ซึ่งถือว่าเยอะมาก นี่คือเริ่มจากคนที่บอกว่า "Facebook page คืออะไร" จากคนที่ไม่รู้ จากคนที่ไม่เก่งเรื่องคอมพิวเตอร์ ตอนนี้เขาคล่องมากเรื่อง online marketing และ social media marketing ทุกสิ่งอย่างในชีวิต เราสามารถเรียนรู้กันได้ เรากับพี่สาวเรามีการทำงานที่แตกต่าง แต่ละคนถนัดคนละแบบ พี่สาวเราจะถนัดทำหนังสือเป็นรูปเล่ม เราจะถนัดทำเป็น ebook เพราะเป็นเด็ก IT อยู่แล้ว แต่ละอย่างมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่าง แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะทั้ง 2 รูปแบบ ถ้าทำดี ๆ ก็สามารถสร้างเป็น passive income ได้ คนเราสมัยนี้ ทำงานก็อย่ามัวแต่คิดเรื่อง active income นะครับ คิดและวางแผนเรื่องของ passive income ด้วย จะ retire เมื่อไหร่ จะใช้ชีวิตยังไง retire ตอนอายุ 60 เหรอ สมัยมันเชยไปแล้วหละ คนเราจะต้องมีอิสระภาพทางการเงิน financial freedom คือเราจะไม่เป็นภาระของใครทั้งสิ้น passive income ต้องสามารถ generate income หรือสร้างรายได้ให้เราสามารถ maintain lifestyle ของเราได้ หนังสือและงานเขียนก็สามารถเป็น passive income ให้เราได้ หนังสือที่เป็นรูปเล่ม ที่วางขายตามร้านขายหนังสือต่าง ๆ คนเขียนจะได้ค่าลิขสิทธิ์แค่ 10%-20% แต่เราก็ได้ความดัง คือคนรู้จักเรามากขึ้น เราก็สามารถใช้ชื่อเสียงและตัวตนของเราไปต่อยอดธุรกิจอย่างอื่น หรือเขียนหนังสือเล่มอื่นได้ เราได้ตังค์น้อย แต่คนรู้จักเราเยอะ หนังสือที่เป็นรูปเล่ม เป็น self-publishing พิมพ์เอง ขายเอง เราก็ได้ของเราทั้งหมด ไม่ต้องแบ่งใคร แต่คนก็จะไม่รู้จักเราในวงกว้าง เราได้ตังค์เยอะกว่า หนังสือที่เป็นรูปเล่มที่วางขายตามร้านหนังสือ แต่เราก็ต้องจัดพิพม์เอง และจัดส่งเอง (ก็ไม่ได้วุ่นวายมากนะ เพราะเมืองไทยก็มี Kerry Express) หนังสือที่เป็น e-book ต้นทุนต่ำมาก แทบจะไม่มีอะไรเลย ต้นทุนจริง ๆ แล้วคือ "เวลา" ในการเขียนนี่แหละ แต่หนังสือทุกรูปแบบมันก็ต้องเขียนอยู่แล้ว รายได้จากหนังสือ e-book จะอยู่ที่ 80%-85% ของราคาขาย ซึ่งถือว่าสูงมาก แต่มันก็เข้าถึงคนได้ไม่เยอะ เพราะคนที่ซื้อ e-book ได้ก็ต้องมี app ในการอ่าน โดยส่วนตัวแล้ว เราก็ชอบ e-book นี่แหละ เพราะจะแก้ไขอะไร เราก็ upload หนังสือฉบับแก้ของเราเข้าไปในระบบเลย บาง website ก็ update เลยทันที บาง website ก็ต้องรอ 2-3 วัน ซึ่งก็ไม่เป็นไร ทุกคนมีดีเสมอ งัดมันออกมา งัดมันออกมาเสนอองค์ความรู้ที่เรามี ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบของ facebook fanpage, blog หรืออะไรต่าง ๆ เพราะทุกสิ่งอย่างเหล่านี้ วันหนึ่ง มันสามารถรวบรวมเป็นรูปเล่มได้  Investment property หลังที่ 2 เราผ่อนหมดแล้ว ภายใน 7 เดือน
ราคา $***,***.** Settlement 30 Nov 2018 ผ่อนหมด 21 Jun 2019 ศุกที่แล้ว ตอนที่ทำงานอยู่ที่ Melbourne เบ็ดเสร็จ ผ่อนทั้งหมด 7 เดือน ไม่ต้องรอ 29 ปี 30 ปีหรอกจ๊ะ เงินค่าเช่า หลังจากนี้ คือเราได้เต็ม ๆ ทุก week ไม่ต้องโดนหักดอกเบี้ยไป ก็จ่ายแค่ค่า management fee ให้กับ real estate agent ค่า body corporation (strata management fee) และค่า นั่น นี่ โน่น ไม่เยอะ OK จ่าย ๆ ให้มันหมด ๆ จบ ๆ กันไป เราจะได้ไม่ต้องมาคิดเรื่องนี้อีก เราจะได้เอาหัวสมองไปคิดอะไรเรื่องอื่น ทุกสิ่งอย่างในชีวิต หากเรามีเป้าหมายและจุดหมายในชีวิตที่แน่นอนและชัดเจน อะไรก็เกิดขึ้นได้ คิดแล้วทำ ทำทันที วันนี้วันที่ 23 June 2019; เรามาบอกลาคุณพ่อเป็นครั้งสุดท้าย ก็แค่อยากจะบอกคุณพ่อว่า "ลูกทำได้"  01 Jun 2019 เราก็เห็น statement ของ Home Loan เดือนที่แล้ว; May 2019
ดอกเบี้ยของเดือนที่แล้วอยู่ที่ $174.26 ลดลงมาเยอะ จากเดือนก่อน $271.27 และเดือนแรก Dec 2018; $644.71 เราเห็นตัวเลขยอดที่เหลือแล้ว เราจับยาม 3 ตราแล้ว เราคาดว่าเราจะจ่าย Home Loan ของบ้านหลังที่ 2 ให้หมดภายใน 30 June 2019 ไปเลย ให้มันเสร็จ ๆ ไปเลยเดือนนี้ มันจะได้จบ ๆ ไป ทีแรกเรากะว่าจะจ่ายให้หมดเดือนหน้า แต่พอตัวเลขมันเริ่มลดลง เราก็มีกำลังใจมากขึ้นในการทำงาน และการทำอะไรหลาย ๆ อย่าง เราก็เลยตั้งใจจัดการให้มันจบ ๆ ไปเลยละกัน ภายในเดือนนี้ เราก็จะได้หมดภาระตรงจุดนี้ไป เริ่ม 01 July 2019 ค่าเช่าทุก ๆ อาทิตย์ก็จะได้เก็บได้เลย 100% หลังจากที่หักค่าใช้จ่าย ค่า management fee ของ strata และก็ของ real eastate agent มันก็จะได้ไม่ต้องสูญหายไปกับค่าดอกเบี้ยของ Home Loan ถ้าจัดการทุกอย่างได้ภายในเดือนนี้ ก็แสดงว่าบ้านหลังที่สอง เราก็จ่าย Home Loan อะไรเสร็จสรรพภายใน 7 เดือน มันก็เป็นอีกหนึ่งของความภูมใจ ของน้ำพักน้ำแรงของการทำงานหนัก การที่เราทำงานหนัก มันต้องเห็นผลลัพธ์ นี่ก็คือผลลัพธ์ของการมุ่งมั่นทำงานหนัก ทำงานเยอะกว่าชาวบ้าวเขา เราก็จะได้ปล่อยให้บ้าน 2 หลังนี้มันทำงานของมันไป เราก็จะได้ concentrate กับการหาบ้านหลังที่ 3 ด้วย |
บันทึกชีวิตการลงทุน เล็ก ๆ น้อย ๆ เริ่มจากจุดเล็ก ๆ Archives
September 2024
|
RSS Feed