ในช่วงเศรษฐกิจของประเทศออสเตรเลียที่ย่ำแย่ ณ ตอนนี้ ค่าสกุลเงินของออสเตรเลียอ่อนตัวมาก
จริง ๆ แล้วปีนี้เราอยากจะซื้อ condo เพิ่มอีกสักห้องที่กรุงเทพ หรือไม่ก็ซื้อบ้าน townhome ที่เกาะสมุย (เพราะมีน้องช่วยดูแลอยู่ที่นั่น) แต่ทุกอย่างที่ต้องชะลอลงไปเพราะค่าเงินสกุลของออสเตรเลียตอนนี้อ่อนตัวมาก อัตราแลกเปลี่ยนของวันนี้อยู่ที่ 22.9326 บาท (rate จาก xe.com); 30 Dec 2018 ซึ่งเราคิดว่าไม่คุ้มกับการที่เราต้องโอนตังค์ไปซื้อ condo หรือบ้านที่เมืองไทย สรุป ปีนี้เราก็ไม่ได้ซื้ออะไรที่เมืองไทยเลย ไม่ได้ตามเป้าหรือ quota ที่เราตั้งใจเอาไว้ แต่เราก็คิดว่าไม่เป็นไร เพราะการลงทุนมันมีปัจจัยอะไรหลาย ๆ อย่างเข้ามาข้องเกี่ยว ตอนนี้เราก็ตั้งใจเอาไว้แล้วว่าถ้าอัตราแลกเปลี่ยนขึ้นมาที่ 25 บาทเมื่อไหร่ เราก็คงจะได้ทำการโอนตังค์ไปเก็บเอาไว้ที่เมืองไทย และพร้อมซื้ออสังหาที่เมืองไทยเลยทันที ถ้ามีโครงการอะไรที่น่าสนใจ ตอนนี้สิ่งที่เราทำได้ก็คงแค่ดู ๆ และก็ศึกษาทำเลและที่ตั้งของโครงการต่าง ๆ ที่เราสนใจ หลานเราก็ช่วย ๆ ดูและก็คอยส่งข้อมูลมาให้เราดูอยู่เรื่อย ๆ การลงทุนเป็นอะไรที่ต้องรอจังหวะที่พอดีพอควร ไม่งั้นมันก็จะไม่คุ้มค่ากับเงินที่เราลงทุนไป ถ้าถามว่าจะซื้อ condo ได้มั้ยวันนี้ ในอัตราการแลกเปลี่ยนที่ 22.9326 บาท จริง ๆ แล้วก็ซื้อได้ แต่เราคิดว่าเป็นอะไรที่คุ้ม บางสิ่งบางอย่าง บางทีมันก็ต้องรอ และใจเย็น ๆ การลงทุน จะทำอะไรแบบรีบร้อนไม่ได้ ไม่อย่างงั้นแล้วมันจะกลายเป็นได้ไม่คุ้มเสีย มีตังค์เราก็ต้องฉลาดใช้ ฉลาดลงทุนด้วย ไม่ใช่นึกอยากจะซื้ออะไรก็ซื้อ นึกอยากจะลงทุนก็ลงทุน มันต้องอาศัย critical thinking และก็ logical thinking เข้ายุ่งเกี่ยวด้วย รอ ใจเย็น ๆ ไม่รีบร้อน อะไรที่มันจะเป็นของเรา มันก็คงจะเป็นของเราอยู่วันยังค่ำ การลงทุนมันต้องอาศัยเหตุและผล จะใช้เฉพาะอารมณ์และความรู้สึกไม่ได้ :) การซื้อขายบ้านแต่ละทีมันก็ต้องมี conveyancing lawyer หรือทนายความซื้อขายบ้าน เข้ามาช่วย ดูแลในเรื่องสัญญาอะไรต่าง ๆ นานา Conveyancing lawyer fee ไม่ถูก ๆ เราคิดว่าบริษัททั่ว ๆ ไปก็น่าจะ charge หลักพัน dollar นะ แต่ทนายของเรา charge แค่ ครั้งและ $480 เอง ถูกมา เหมือนทำให้ฟรี ๆ ใช่ เหมือนทำให้ฟรี ๆ เพราะทนายคนที่เราใช้ เรารู้จักกันมานานแล้ว ตั้งแต่ปี 2003 และเขาก็เหมือนเป็นทนายส่วนตัวของเรา เรื่องราวอะไรต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับกฎหมาย ยกเว้นกฎหมายอิมมิเกรชั่น เราก็ให้ทนายคนนี้เป็นคนจัดการ เขาชื่อ Andrew Lee จาก Andrew Lee Lawyers ตั้งอยู่ที่ 1st Floor, 90 Broomfield Street, Cabramatta NSW 2166 Telephone : 02 9755 0088 | Facsimile : 02 9755 5007 Andrew กับเรารู้จักและดูแลซึ่งกันและกันมานาน ลูกค้าของ "J Migration Team" ถ้าต้องการคำปรึกษาอะไรที่นอกเหนือจากกฎหมายอิมมิเกรชั่น เราก็จะส่งให้ Andrew ตลอด Andrew เป็นทั้งเพื่อนและทนายส่วนตัวที่ดี มีหลายครั้งที่เขาทำอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้เราฟรี ทุกครั้งที่เราให้ Andrew จัดการเรื่องสัญญาหรือว่าอะไรต่าง ๆ เราบอก Andrew เลยว่า ทำมาเลย แล้วส่ง invoice มาเลย เราไม่เคยถามราคาค่าบริการของ Andrew เพราะทุกครั้งที่ได้ invoice จากเขา เรารู้เลยเขาแทบจะไม่ได้กำไรหรือว่าอะไรจากเราเลย เขา charge เราน้อยมาก ถูกมาก Andrew อยากตอบแทนน้ำใจที่เราคอยส่งลูกค้าให้เขามากกว่า โดยเฉพาะ 4-5 ปีที่ผ่านมา มันเป็นช่วง peak ของ "J Migration Team" ซึ่งก็หมายความว่าลูกค้าของ Andrew ก็ต้องเยอะตามไปด้วย หลาย ๆ ครั้งที่ Andrew ต้องการส่งของ นั่น นี่ โน่น มาให้ เราบอกเขาว่าไม่ต้องส่งมาหรอก เราช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เขาก็ช่วยเหลือเราในเรื่องของกฎหมายอะไรต่าง ๆ ดูแลชีวิตเราในเรื่องของสัญญาและตัวบทกฎหมาย มันก็ทำให้เราได้ concentrate กับงานอิมมิเกรชั่นของเรา มันเป็นอะไรที่ Win-Win แต่ถึงกระนั้น Andrew ก็ไม่วายที่จะส่งพวก gift card อะไรต่าง ๆ มา เราชอบและประทับใจการทำงานของ Andrew และลูกน้องของเขา เราใช้บริการของ Andrew ตั้งแต่ปี 2003 ตั้งแต่เขาเป็นลูกน้องของทนายคนอื่น และเขาก็ออกมาเปิดบริษัทของเขาเอง ซึ่งเราก็ตามมาใช้บริการของเขาด้วย เราใช้บริการของ Andrew ตั้งแต่เขาทำงานแค่คนเดียว จนถึงตอนนี้เขามีลูกน้อง มีทีมงามพวก junior lawyers ดูเหมือนว่าเราทั้ง 2 คน 2 บริษัทเติบโตไปด้วยกัน พวกเราเป็น "น้ำพี่งเรือ เสือพึ่งป่า" จริง ๆ การซื้อ apartment ของเราทั้ง 2 ครั้งที่ผ่านมา เราก็ใช้บริการของ Andrew $480 ถือว่าถูกมาก เหมือนทำให้ฟรี ๆ เรารู้ว่าเขาไม่ได้อะไรหรอก ถ้า charge เราแค่นี้ แต่มันก็แสดงออกถึงน้ำใจที่เขามีให้ต่อเรา สิ่งที่อยากจะบอกก็คือ ถ้าเราเจอทนายคนไหนที่เราชอบ ก็ให้เรา stick และอยู่กับเขาไปตลอด เราก็อยู่กับ Andrew มาตั้งแต่ปี 2003 ไม่เคยเปลี่ยนไปไหน และ Andrew เขาก็ดูแลเรา every aspect of my life เลยจริง ๆ สำหรับใครที่ซื้อขายบ้าน เราก็ขอให้เจอ conveyancing lawyer ที่ดี ๆ นะครับ งานเราเริ่มลงตัว ไม่ได้ยุ่งแบบ crazy เหมือนแต่ก่อน เราพอมีเวลาเข้ไปดู listing ของ property อะไรต่าง ๆ ที่ Domain.com.au และก็ Realestate.com.au แบบจริง ๆ จัง ๆ มากขึ้น
ปรกติ Domain.com.au ก็จะมี notification เข้า email ของเราอยู่แล้วแต่เราก็ดูผ่าน ๆ เพราะหลาย ๆ อันไม่ match กับ profile ของเรา วันอาทิตย์ที่แล้ว เราเห็น listing ของ unit นี้ที่ Nowra น่าสนใจดี 2 bedroom มีคนเช่าอยู่แล้ว; $275/week 118 ตารางเมตร ราคา $250,000 - $280,000 เราก็ email ไปหา realestage agent วันพุธที่แล้ว เพื่อขอไป inspect บ้าน วันเสาร์ที่ 22 Dec 2018 (เมื่อวาน) แต่ สิ่งที่ได้รับ email ตอบกลับมาก็คือ agent บอกว่าบ้านมีปัญหา แล้วก็ส่ง strata report มา 142 หน้า เราก็ตอบกลับไปว่า you ส่ง report มาให้ฉันอ่าน 142 หน้า ฉันไม่มีเวลาอ่านหรอกนะ บอกมาเลยได้มั้ยว่าปัญหา อะไร ยังไง มันอยู่ส่วนไหนของ strata report แต่เราก็ไม่ได้รับ email ตอบกลับมาจาก agent นั้นเลย สรุปเมื่อวาน; 22 Dec 2018 เราก็เลยไม่ได้ไป inspect บ้านหรือว่าอะไร ยังไง ที่ไหน หลาย ๆ คนอาจจะงงว่า เฮ้ย strata report 142 หน้า เนี๊ยะ มันพูดถึงปัญหาถึง 142 หน้าหมดเลยเหรอ เปล่าครับ ใน 142 หน้านั้น มันก็จะมีพวก financial report นั่น นี่ โน่น เยอะแยะมากมาย แต่ใครจะมีเวลาอ่านหละ 142 หน้า ถ้าบอกเรามาซะหน่อยว่าต้องอ่านจากหน้าไหน ถึงหน้าไหน มันก็น่าจะง่ายกว่า หรือบอกมาเลยว่าตึกมันมีปัญหาอะไร แต่เราก็ไม่ได้รับการตอบกลับจาก agent นั้นเลย สงสัยเขาไม่อยากขายของมั้ง ไม่เป็นไร ไม่อยากขาย เราก็ไม่ซื้อ เราก็หาดูที่ใหม่ได้ เพราะอาทิตย์ที่แล้ว มันก็ 2 listings ที่ match กับ property profile ที่เราต้องการ ที่แรกก็คือที่นี่ที่ Nowra อีกที่ก็คือที่ Queanbeyan เราก็อุตส์ติดต่อไปที่ Nowra ก่อนเพราะว่าอยู่ใกล้ Wollongong ขับรถไป 45 นาที ถ้าจะขับรถไป Queanbeyan มันก็ 2.5 ชั่วโมง ซึ่งไกลกว่ากันมาก เราก็กะว่า เดี๋ยวรอเราไปทำงานที่ Canberra ก่อน แล้วค่อยนัดเข้าไป inspect บ้านหรือ unit ที่ Queanbeyan สรุปเราก็คงจะตัด choice ของ Nowra ออกไป แล้วเราจะได้ติดต่อกับ agent ที่ Queanbeyan เพื่อเข้าไป inspect ไกลหน่อย แต่ถ้าทุกอย่างลงตัว มันก็น่าจะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า blog นี้ก็แค่อยากจะบอกว่า realestate agent ต้องใส่ใจลูกค้ามากกว่านี้ เพราะนี่คือการซื้อขายบ้าน ราคาก็ตามที่เห็น นี่ไม่ใช่การซื้อขนมข้างทาง... ไม่เป็นไรจ๊ะ ตอนนี้เธออาจจะยังไม่รู้จักเรา ขอเวลาหน่อยละกัน "รอก่อน"... I'll show it to you... :) เรามี accountant ประจำตัวอยู่แล้ว เป็นคนลาว อยู่ที่ Cabramatta & Fairfield ซึ่งเขาก็ดูแลเราทุกอย่างมาตั้งแต่ปี 2003 แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ business tax หรือพวก personal income tax ด้วย
สรุปคือ อะไรทุก ๆ อย่างเราปล่อยให้ accountant คนนี้เป็นคนจัดการหมด ง่ายดี One stop shop แต่ตอนนี้เมื่อธุรกิจมันมีการขยายตัว เราเริ่มมีการลงทุนพวกอสังหาริมทรัพย์เข้ายุ่งเกี่ยวด้วย เราคิดว่าถ้าเราจะหาที่ปรึกษาอีกคนเพิ่ม ก็คงไม่เสียหาย ตอนนี้ก็แอบ ๆ มอง someone เอาไว้แล้วแหละ แต่ช่วงนี้เป็นช่วง Christmas & New Year เดี๋ยวรอหลังปีใหม่ เราคงจะได้ make appointment เข้าไปพูดคุยในเรื่องของ strategy การลงทุนอะไรต่าง ๆ นานา มีที่ปรึกษาเรื่องการเงิน เรื่องภาษี มี 2-3 คนเอาไว้ ไม่เสียหายครับ แต่เราก็คิดว่าจะยังคง stick อยู่กับ accountant คนเดิม เพราะเขาก็ดูแลเรามานาน มีอะไรเรา email คุยกันตลอด ไม่ต้องเข้าไปที่ office เสียเวลา ชีวิตการทำงาน ชีวิตการลงทุน เราไม่ต้องเก่งไปซะทุกเรื่องครับ เราไม่จำเป็นต้องรู้ไปหมดซะทุกเรื่อง อะไร อันไหนที่เราไม่รู้ ที่เราไม่ถนัด เราก็ต้องหาที่ปรึกษามาดูแลแทนนะครับ ชีวิตมันก็ต้องมีการวางแผนนะครับ If you fail you plan, you're plan to fail. หลังจากที่ apartment ที่ Queanbeyan ได้ทำงาน settlement ไปเมื่อวันที่ 30 Nov 2018 ก็แสดงว่า Home Loan ก็เริ่ม actiivate แล้วก็เริ่มคิดดอกเบี้ยแล้ว
ดอกเบี้ยของธนาคารเป็นศรัตรูกับเราจ๊ะ เราไม่ชอบจะต้องเห็นเงินสูญหายไปอะไรแบบนั้น ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ แล้วเงินที่เรากู้มาซื้อ apartment ที่ Queanbeyan มันก็ไม่ใช่เงินเรานะ มันเป็นเงินที่เรากู้มาจากธนาคาร มันเป็น OPM (Other People Money) แต่เอาเถอะ เราคิดว่า "Money Save is Money Earn" ก็แล้วกัน ก็อยากจะประหยัดไปตรงนี้ และถ้าผ่อน Home Loan ของ Queanbeyan ได้เสร็จไว มันก็ดี แต่ก่อนที่เราบอก realestate agent ให้โอนค่าเช่าให้บัญชีเรา วันนี้ก็เลยได้ฤกษ์ส่ง email ไปเปลี่ยนให้ agent โอนค่าเช่าทั้งที่ของบ้านชายโสด และของที่ Queabeyan ที่เพิ่ง settlement ไป เพราะแต่ก่อนหน้าวัน settlement เราจะไม่รู้หมายเลขบัญชีของ Home Loan ตอนนี้รู้แล้ว ก็เลยต้องแจ้งไปทาง agent ให้เขาโอนเงินค่าเช่าของ apartment ทั้ง 2 หลัง (หลังหักค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ) มาที่บัญชีของ Home Loan เราก็จะได้ไม่ต้อง worries คอยโอนตังค์จากบัญชีเราให้เสียเวลา ก็ set ทุกอย่างให้มัน automatic ไปเลย จบ ง่ายดี ส่วน job เล็ก ๆ ที่เรารับทำ consult นั่น นี่ โน่น จากแต่ก่อนให้จ่ายเป็น Bpay เข้าไปที่ HECS ตอนนี้ก็ขอเปลี่ยนมาเป็นเข้าบัญชีของ Home Loan แทนละกัน ก็เอาเป็นว่าให้มีเงินเข้ามา 3 ทาง ช่วย ๆ กันโปะตัวบัญชีของ Home Loan ตัวนี้ ของเรา อะไร ยังไง ก็ได้ ตัวนี้ไม่รีบจ่าย ขอให้การลงทุนมันเป็น positive cashflow income ก็พอแล้ว happy แล้ว มีความสุขแล้ว การเดินทางของเรา มันเป็นก้าวเล็ก ๆ ช้า ๆ เราทำเองทุกอย่าง เราหาเองทุกบาททุกสตางค์ จากสมองและสองมือที่มี เราไม่ได้มีมรดกจากพ่อแม่ เราไม่ได้เกิดมาบนกองเงินกองทอง ถ้าเราทำได้ คนอื่นก็ทำได้ครับ ชีวิตของการลงทุน
ชีวิตของการที่เราอยากมี passive income ชีวิตที่เราต้องการ semi-retire ด้วยอายุเท่านั้น เท่านี้ ทุกอย่างต้องมี time line ที่ชัดเจน การลงทุนทุกปี ก็ต้องมี time line, target และเป้าหมายของทุกปีด้วย วันศุกร์ที่ผ่านมา; 30 Nov 2018 apartment ที่เราซื้อเอาไว้เพื่อการลงทุนที่ Queanbeyan ก็ได้มีการ settlement กันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราก็ต้องเริ่มจ่าย mortgage แล้วสินะ แต่ก็ไม่เป็นไร บวกลบคูณหารแล้ว มันก็ยังเป็น positive cash-flow income อยู่ ไม่เข้าเนื้อ ไม่ต้องควักเงินในกระเป๋า จริง ๆ แล้วในระหว่างที่เรารอการ settlement apartment หลังนี้ มันก็มี new listing ที่ Queanbeyan ด้วย ซึ่งมันก็ตรงกับ profile ของ apartment ที่เราต้องการคือ: - 2 ห้องนอน - 60 ตารางเมตร (อย่างน้อย) - มีคนเช่าอยู่แล้ว - ราคาพอสู้ได้ สมเหตุสมผล ก็ติดตรงที่เรายังไม่มีเวลาไป inspect แค่นั้นแหละ เพราะช่วงปลายปีเรางานก็เยอะ เราก็ยังติดนั่น นี่ โน่น ตลอด เราก็กะว่า หลังจากที่กลับมาจากเมืองไทย ถ้า apartment หลังนี้ยังอยู่ ยังไม่มีคนซื้อ เราก็คงจะแวะเข้าไปดู เข้าไป inspect เราก็ไม่ได้คิดอะไรมากแล้วสำหรับปีนี้ เราก็คิดว่าถ้ามันจะเป็นของเรา มันก็คงเป็นของเรา ถ้าไม่ใช่มันก็คงไม่ใช่ และปีนี้เราก็ซื้อมาแล้ว 2 unit ซึ่งก็มีความรู้สึกที่อยากจะพักด้วย และไม่ต้องการซื้อ apartment 2 ที่ในเวลาเดียวกัน เราก็เลยรอให้เรา settlement อันเก่าให้เสร็จก่อนไปชิ้นไปอันไป (ซึ่งจริง ๆ แล้วก็ไม่จำเป็น ถ้าทำได้หลาย ๆ ที่ภายในเวลาเดียวกัน มันก็น่าจะดี จะได้ไม่เสียโอกาส) เราก็คิดว่าปีหน้า เราก็อาจจะ aggressive มากกว่านี้ ถ้าเจอที่ไหนที่ match กับ profile ที่เราต้องการ ถ้ามันจะต้องซื้อหลาย ๆ ที่ภายในเวลาเดียวกัน เราก็คงจะต้องทำ เพราะเราไม่ต้องการที่จะ procrastinate อะไร แต่ปีนี้ขอ clear งานอะไรต่าง ๆ ก่อน ปีหน้าเมื่อระบบงานเข้ารูปเข้ารอยมากกว่านี้ เราก็คงจะได้มีเวลาไป inspect บ้าน ไป inspect apartment ที่ Queanbeyan กันมากขึ้น ยังไงเสีย Queanbeyan กับ Nowra ก็จะยังเป็น area ที่เราอยากจะลงทุนอยู่ เราก็ยังไม่พร้อมที่จะไปเล่นอะไรใหญ่ ๆ ราคาแพง ๆ ที่อื่น เราต้องเริ่มหัดเดินก่อนที่จะวิ่งจ๊ะ ส่วนการลงทุนที่เมืองไทย ก็สรุปว่าปีนี้ไม่ได้เป็นไปตามที่คาดหวังเอาไว้ ที่เมืองไทยเราก็มีเป้าหมายและ target ในการลงทุนอยู่เหมือนกันว่าแต่ละปีเราต้องการที่จะซื้อบ้านหรือ condo ให้คนเช่า แบบไหน อะไร ยังไง ปีหนึงจะเอากี่ที่ สาเหตุก็เพราะว่าเรื่องอัตตราการแลกเปลี่ยนเงินที่ไม่ค่อยเป็นใจเท่าไหร่ ปีนี้เราก็เลยต้อง postpone ไป แต่เราก็คิดว่าถ้าอัตตราการแลกเปลี่ยนกลับมาอยู่ที่ AUD 1 = 25 THB เราก็คงจะซื้อ condo หรือบ้านที่เมืองไทยด้วย condo ก็น่าจะเป็นที่กรุงเทพ เพราะเราก็มีคนช่วยดูแลให้ บ้านหรือ townhome, townhouse ก็น่าจะเป็นที่เกาะสมุยเพราะเราก็คนช่วยดูแลให้ ช่วยเลือกโครงการ และที่สมุยเองมันก็มีพวก realestate agent ที่เขาดูแลพวกนี้อยู่แล้ว เราไม่ต้องวุ่นวายอะไรมาก สรุปที่เมืองไทยปีนี้ เราก็เลยไม่ได้ซื้ออะไรเลย ซึ่งจริง ๆ เราก็อยากจะซื้อเพิ่มอีกสักหน่อย ตอนนี้ก็คงต้องรออัตตราการแลกเปลี่ยนของเงินก่อน เราก็แอบเสียดายอยู่บ้างเล็กน้อยที่ปีนี้ไม่ได้ซื้ออะไรที่เมืองไทยเอาไว้เลย แต่บางทีเราก็ต้อง flexible ไปตามสถานการณ์เพราะค่าเงิน AUD ตอนนี้อ่อนตัวจริง อะไรจริง อหังสาทุกชิ้นที่เมืองไทย เราซื้อสดจ๊ะ... ก็เลยต้องคิดนาน คิดหนักนิดหนึง ตอนนี้ก็ต้องทำตัว flexible ไปตามสถานการณ์ไปก่อน |
บันทึกชีวิตการลงทุน เล็ก ๆ น้อย ๆ เริ่มจากจุดเล็ก ๆ Archives
January 2025
|