กลับมาอีกครั้งกับการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ของออสเตรเลีย; Australian Securities Exchange (ASX) หลังจากที่เราห่างหายไปจากการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ที่นี่ ด้วยเหตุผลง่าย ๆ คือ เราต้องเก็บตังค์เอาไว้ซื้อบ้าน บ้านที่จะอยู่เอง ที่ไม่ใช่บ้านเพื่อการลงทุน เราก็เลยหยุดการลงทุนกับตลาดหุ้นไป 1 ปีเต็ม ๆ ; July 2020 - July 2021
จริง ๆ แล้วการลงทุนใน ASX ของเรา เราถึง target ที่เราตั้งเอาไว้แล้วตั้งแต่ Dec 2019 เราก็มีตัวเลขที่เราตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่าอยากจะมีเงินลงทุนใน ASX เท่าไหร่ ก็เป็นตัวเลข 6 หลักอยู่ AUD เราก็พอใจแล้วในระดับหนึ่ง ไม่ได้คิดว่าต้องมีเงินใน ASX เป็นตัวเลข 7 หลักหรือว่าอะไร โดยส่วนตัวแล้วเราชอบลงทุนในอสิงหาริมทรัพย์มากกว่า ตาม footstep ของ Robert Kiyosaki ทุกสิ่งอย่าง (แนะนำให้อ่าน Retire Young, Retire Rich) ปีที่แล้วช่วงที่หุ้นลงเพราะ COVID เราก็กลับมาซื้อเอาไว้บ้าง ก่อน July 2020 ก็ได้มาเยอะพอสมควร เราก็พอใจในระดับหนึ่ง พอ July 2020 เราก็หยุดการซื้อหุ้นทุกสิ่งอย่างเลย เราก็ concentrate กับการเก็บเงิน และการทำบัญชีเพื่อที่จะซื้อบ้านที่นี่ ตอนนี้เงินเก็บอะไรต่าง ๆ นานาในการซื้อบ้านก็พร้อมแล้ว เราก็กลับมาดูเรื่องการลงทุนที่เมืองไทยต่อ และการลงทุนในตลาดหุ้นต่อ ลงทุนแบบ long term ระยะยาว passive income เพื่อการ semi-retire อีกภายในไม่กี่ปี (เมื่อลูกลิงตัวเล็กจบ high school) เราซื้อหุ้นเพื่อการลงทุนในระยะยาว เป็น passive income เป็น VI (Value Investor) เราซื้อเพื่อเก็บ เราไม่ขาย เราไม่ใช่ Trader ที่ซื้อมาขายไป เราซื้อหุ้นในรูปแบบของบริษัท เราไม่ได้ซื้อในชื่อของเรา และบริษัทก็อยู่ในรูปแบบของ family trust อยู่แล้ว ดังนั้นเราไม่ต้องเขียนพินัยกรรมอะไรให้มันปวดหัววุ่นวาย ในวันที่แก่ตัวมา หุ้นพวกนี้ก็จะตกไปเป็นของลูกลิง 2 ตัวอยู่แล้ว เพราะเราซื้อในนามของบริษัท เหมือนกันกับการซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่นี่ ที่เราซื้อในรูปแบบของบริษัท ไม่ได้ใช้ชื่อเราซื้อ มะนก็ง่ายต่อการจัดการ การซื้อหุ้นของเราอาจจะไม่เหมือนการซื้อหุ้นของคนอื่น หลาย ๆ คนที่อ่านก็ต้องนำเอาไปประยุกต์เองนะครับ ของเราคือจะซื้อสะสมไปเรื่อย ๆ ไม่ว่าหุ้นจะขึ้นหรือลง เพราะยังไงเราก็ไม่ขาย ดังนั้นเราไม่ได้รอที่ซื้อตอนที่หุ้นขาลงอย่างเดียว เราไม่ได้เก็งกำไรอะไรแบบนั้น เราเก็บเล็กผสมน้อยของเราไปเรื่อย ตามที่กำลังมดตัวเล็ก ๆ ตัวหนึ่งพอจะทำได้ เราใช้ SelfWealth ในการซื้อหุ้น แต่ก่อนก็จ่ายแค่ $9 ต่อ transaction ตอนนี้ transaction fee ก็ขึ้นมาเป็น $9.50 แต่ก็ยังถูกกว่าที่อื่น ๆ การซื้อหุ้นของเรา เราไม่ได้ไปซื้อเป็นรายบริษัท เราซื้อพวก index fund พวก investment company ซึ่งก็จะเหมือน Unit Trust หรือ Mutual Fund แต่จะซื้อขายในตลาดหุ้นและเราไม่ต้องไปเสียเปรียบตรงที่ต้องจ่าย fund manager เหมือน Mutual Fund บริษัทพวกนี้เรียกว่า LIC; Listed Investment Company เราเคยเขียน blog เรื่องนี้ไปแล้ว ลองอ่านดูที่ http://johnpaopeng.com/investment นะครับ เราคิดว่าที่ ASX มี LIC แค่ 3 บริษัทนะ และเราก็ซื้อหุ้นทั้ง 3 LIC เอาไว้หมดแล้ว ก็มีความอุ่นใจบ้างเล็กน้อย หลัก ๆ เราก็เน้น 3 LIC นี้แหละ ส่วนจะ branch out ไป sector อื่นหรือเปล่านั้น เดี๋ยวค่อยว่ากัน การลงทุนในตลาดหุ้น ในตลาดหลักทรัพย์เป็นอะไรที่ต้องศึกษาเอง ฟังจากคนอื่นอย่างเดียวไม่พอ เราต้องลองมาลงมาเล่นเองถึงจะรู้ว่ามันเป็นยังไง ถ้าใครยังไม่เคย ก็ลองเล็ก ๆ น้อย ๆ ก่อนเพื่อให้รู้ระบบและกลไกของตลาด อยากรู้เรื่องอะไรก็หาหนังสือมาอ่าน อย่าไปฟัง guru คนนั้นที คนนี้ให้มาก การอ่านคือการเบิกเนตรที่ดีที่สุด การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ของเรา: 1. เราเก็บตังค์ เก็บเล็กผสมน้อยทุก ๆ เดือน (เก็บก่อนใช้จ่าย) 2. เมื่อตังค์ที่เราเก็บเล็กผสมน้อยได้ครบ $10,000 แล้วเราถึงซื้อหุ้น ซื้อ ณ ราคานั้น ๆ ไม่ว่าหุ้นจะขึ้นหรือลงก็ตาม 3. เราซื้อ lot ทีละ $10,000 เพราะไม่อยากจะเสีย $9.50 ค่า transaction fee บ่อย และตัวเลข $10,000 มันก็เป็นตัวเลขกลม ๆ จำง่าย หากวันนี้ใครรู้สึกท้อ รู้สึกเหนื่อย เราขอเป็นกำลังใจให้ มีอะไรก็ทักมาใน inbox ชีวิตเราเริ่มจากสมองและสองมือที่มี ไม่ได้เกิดมาบนกองเงินกองทอง ไม่ได้มีต้นทุนชีวิตอะไร แต่เป็นคนรักเรียน ขยันเรียน ชีวิตก็เลยมีวันนี้ได้ ถ้าหากเราทำได้ คนอื่นก็ทำได้เช่นเดียวกันครับ Disclaimer: เราเขียนจากประสบการณ์ของตัวเอง เขียนบันทุกเอาไว้เป็นความทรงจำ เราไม่ได้เป็น financial advisor อ่านแล้วก็นำเอาไปประยุกต์กันเองนะครับ Comments are closed.
|
บันทึกชีวิตการลงทุน เล็ก ๆ น้อย ๆ เริ่มจากจุดเล็ก ๆ Archives
September 2024
|