ชีวิตการลงทุน: ตัดปัญหาพวกนั้นออกไป

2011: 9 ปีที่แล้ว เราซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่เมืองไทย ที่กรุงเทพเอาไว้
ด้วยความที่ว่า 9 ปีที่แล้ว เราก็ยังเบี้ยน้อยหอยน้อยอยู่ เราก็ต้องซื้ออะไรที่เท่าที่กำลังเรามี
คนเราต้องหัดเดินก่อนจ๊ะ ก่อนที่จะวิ่ง

จริง ๆ เราก็ไม่ได้อยากได้อสังหาชิ้นนี้เท่าไหร่
เพราะมันคือ แฟลตปลาทอง ตรงเมืองทองธานี
ถ้าใครเป็นเด็กยุค '80 อาจจะได้เคยเห็นโฆษณาของแฟลตปลาทองที่บอกว่า "คุ้มจริง ๆ ยิ่งกว่าคุ้ม คุ้มทุกสิ่ง คุ้มที่แฟลตปลาทอง" 

hmmm... อยากจะบอกว่า "ไม่คุ้มเลย"

เพราะแฟลตปลาทองตอนนี้กลายเป็นเมืองร้างมาก (ในความคิดเรานะ) ตอนที่ซื้อเราก็ไม่ได้ไปดูหรอก ซื้อแล้วค่อยไปดู รู้แต่ว่ามีคนเช่าอยู่ก็ OK แต่มันก็เป็นตลาดล่างหนะ ล่างจริง ๆ แต่ก็อย่างที่บอก คนเรามันต้องมีจุดเริ่มต้น มันต้องหัดเดินก่อน ก่อนที่จะวิ่ง และเราก็ซื้อมาด้วยความบังเอิญมาก คือน้าเราเป็นข้าราชการทหารอยู่ที่กองทัพบก ก็มีคนมายืมเงินน้า แล้วเขาไม่มีเงินจ่าย เขาก็เลยจะขายแฟลตนี้ให้ เราก็เลยมาซื้อให้เขา ก็แค่นั้นเอง เราก็อยากจะช่วยน้าเราด้วย เพราะน้าเราจะได้ตังค์คืน เราก็ซื้อมาด้วยราคา 200,000 บาท เป็นแฟลต 1 ห้องนอน ค่าเช่าราคาถูกมาก อยู่ที่ 1,600 ตอนนั้น เปลี่ยนคนเช่ามาแล้ว 3 คน คนล่าสุดค่าเช่าอยู่ที่ 1,800 บาทต่อเดือน

เนื่องด้วยแฟลตนี้เราซื้อมาเพราะน้าเราเป็นคนแนะนำ เราก็เลยให้น้าเราช่วยดูแลและประสานงานเรื่องคนเช่า นั่น นี่ โน่น แต่น้าเราก็เป็นข้าราชการ ตอนนั้นน้าก็ใกล้เกษียณแล้ว อายุ 50 กว่า ๆ ไม่ได้เก่งเรื่อง technology หรือเล่น Internet ประกาศหาคนเช่าอะไร นั่น นี่ โน่น

มันแตกต่างจากการลงทุนของ condo ที่เราซื้อเอาไว้ เพราะ condo คนเช่าก็จะเป็นอีกกลุ่มลูกค้า และลูกพี่ลูกน้องเราที่ช่วยดูแลให้ เขาก็อยู่ condo เดียวกัน ห้องติดกัน เด็กยุคใหม่ 5G ใช้ internet เป็น หาคนเช่า ประกาศอะไรก็ง่ายไปหมด มันคนละ generation กันจริง ๆ 

วกกลับมาที่เรื่องของแฟลตปลาทอง
OK แหละค่าเช่ามันไม่ได้เยอะมาก เราก็ปล่อยเอาไว้อย่างนั้น อย่างน้อย ๆ เราก็มีเงินเข้าบัญชีเราที่เมืองไทยทุก ๆ เดือน เวลากลับเมืองไทยเราก็ไม่ต้องถือบัตร ATM ของที่นี่ไปด้วย อะไรประมาณนี้ คิดแบบนี้จริง ๆ คือเอาง่ายไว้ก่อน

คนเช่าคนแรก ก็ OK ไม่มีปัญหา โอนเงินเข้าบัญชีทุกเดือน
คนเช่าคนที่ 2 ก็ OK ไม่มีปัญหา โอนเงินเข้าบัญชีทุกเดือน
จะเริ่มมีปัญหาก็คนเช่าคนที่ 3 นี่แหละ ค่าเช่าเดือนละ 1,800 บาทเองนะ แต่ต้องทวงตลอดตั้งแต่เช่าช่วงแรก ๆ เลย เรื่องของเรื่องก็คือคนเช่าเขาก็เปิดร้านซ่อมมอเตอร์ไซค์อยู่ข้าง ๆ ห้องนั้นก็เป็นร้านซ่อม แล้วเขาก็มาเช่าห้องของเรา เพื่อเป็นที่อยู่อาศัย

ถ้าเจาะตลาดล่างก็ต้องทำใจหนะจ๊ะ
จ่ายหนะจ่ายนะ แต่ต้องคอยเตือนคอยทวง คนทวง (น้าเรา) ก็เหนื่อยและเบื่อที่จะทวงค่าเช่าทุก ๆ เดือน มันน่าเบื่อมาก ซึ่งจะแตกต่างจากคนที่เช่า condo เรามาก

เราก็เลยตัดปัญหา ประกาศขายออกไปให้จบ ๆ 
เราประกาศตอนประมาณปลายปีที่แล้ว

และแล้ววันนี้ก็มาถึง
หลังจาก Covid-19 ที่เมืองไทยเริ่มคลี่คลาย ก็มีนายหน้าติดต่อเข้ามา
เรียบร้อย เสร็จสรรพ ขายไปแล้วจ๊ะ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา 19 Jun 2020

ขายไปแค่ 170,000 บาท
นายหน้าบวกไปอีก 10,000 บาท
คนซื้อจ่าย 180,000 บาท

เออ ช่างมันเถอะ ซื้อมา 9 ปี จบสิ้นกันที กับการทวงค่าเช่า
ถ้าจะให้คนเช่าคนนี้ออก แล้วเก็บห้องเอาใว้ก็ได้นะ
แต่เราก็อยากปล่อย ๆ ออกไปให้มันจบ ๆ 
ตัดเนื้อร้ายออกไปจากชีวิต มา concentrate การลงทุนของ  condo มากกว่า และอสังหา  condo ลูกพี่ลูกน้องเราช่วยดูแลให้ เด็กยุคใหม่ 5G มันทำอะไรรวดเร็วกว่าที่จะให้น้าอายุ 50-60 มาดูแลให้

ตัดแฟลตตัวนี้ออกไป เราก็จะได้ไป concentrate กับ condo อย่างเต็มที่
ชีวิตการลงทุน บางทีคนเราก็ต้องตัดตัวถ่วงในชีวิตออกไปนะครับ :)

โควต้าของการซื้อ condo ของเรา ปีนี้ OK แล้ว ไม่มีอะไรต้อง worries
ตอนนี้ก็นั่ง plan สำหรับโควต้าของปีหน้า เพื่อที่จะ speed up โควต้าในการซื้อด้วย จะได้มีจำนวนห้องตามที่เราต้องการเร็ว ๆ เมื่อได้ถึงตามโควต้าที่เราวางเอาไว้ นั่นก็คือการ semi-retire ของเรา

Retire Young, Retire Rich สามารถทำได้
ถ้ามีการวางแผนที่ดี 

ทุกชีวิตมีการเริ่มต้นเสมอ
เราเริ่มหัดเดินก่อน ก่อนที่เราจะวิ่ง
อะไรที่เป็นปัญหาก็ค่อยแก้ ๆ กันไป
ตัดปัญหาออกไป ตัดเนื้อร้ายออกไป แล้วเราจะได้ concentrate กับอะไรที่ make profit ที่สามารถสร้าง passive income ได้อย่างแท้จริง

เรื่องการเงิน เรื่องการลงทุน เราต้องศึกษาจ๊ะ
ถ้าอะไรที่มันมีคนทำได้มาก่อน แสดงว่าจริง ๆ มันก็ทำได้
สำหรับใครบางคนก็อาจจะอ้อมหน่อย บางคนก็มาสายตรงเลยก็มี
เอาเท่าที่เราพร้อม เริ่มเท่าที่เรามี

เหนื่อยได้
ท้อได้
พักได้
​แต่อย่าหยุด

เราขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคน