กับบางสถานการณ์ ทุกสิ่งอย่างเกิดขึ้นเร็วมากพร้อม ๆ กัน
งานก็ต้องทำ การลงทุนก็ต้องมีการวางแผนเพื่ออนาคต เพราะเราเองก็ไม่อยากมานั่งหลังขดหลังแข็งนั่งทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ตลอดไปจนแก่ การลงทุนก็ต้องมีการวางแผน ไม่ใช่ปล่อยชีวิตหายใจทิ้งไปวัน ๆ investment strategy ของเราก็จะเน้นไปที่ passive income การวางแผนเพื่ออนาคต ตอนนี้ passive income ของเราค่อนข้าง OK เราสามารถอยู่ได้แบบไม่เดือดร้อน แต่มันก็ยังสามารถต่อยอดได้ไปอีกเรื่อย ๆ เราก็ไม่คิดจะหยุดอยู่แค่นี้ การลงทุนของเรา หลัก ๆ ก็คือ: - การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ซื้อให้คนเช่า ซื้อเก็บไปเรื่อย ๆ ไม่ขาย ไม่ได้หวังผลในเรื่องของ capital gain, เราหวังผลแค่เรื่อง passive income ล้วน ๆ (บางคนก็ขายพวก non-performance ออกไปแล้วไปซื้อใหม่ แต่เราไม่ทำจ๊ะ ปวดหัว เราเลือกที่จะทำงาน เก็บเงิน แล้วซื้อเพิ่มไปเลย) - การลงทุนในตลาดหุ้น อันนี้ก็ซื้อเพื่อเก็บ ไม่ได้กะขาย เราไม่ใช่พวกซื้อมา ขายไป (trader) เราเป็น Value Investor (VI) คือซื้อเพื่อเก็บ ส่วนเงินปันผลเราก็ไม่เอา เราก็ทำเป็น "fully reinvestment" ก็คือเอาเงินปันผลกลับคืนมาในรูปแบบของจำนวนแชร์ เราไม่ได้รับเงินปันผลเป็นเงินสด เพราะเงินสด เราก็ยังทำงานอยู่ ก็ยังมี active income เราก็ได้กลับคืนมาในจำนวนของหุ้นที่มันมากขึ้นเรื่อย ๆ สภาพคล่องของเราค่อนข้าง OK equity ของเราค่อนข้าง OK บ้านที่เป็น family home, equity ค่อนข้างเยอะ เนื้อที่ 516 ตารางเมตร ซื้อมาเมือ Oct 2021 ราคาตอนนี้ก็น่าจะขึ้นแล้วหละ Home Lender (RAMS) ก็บอกว่าเราสามารถดึง equity ออกมาได้ แต่เราเลือกที่จะไม่ดึง equity ออกมา ปล่อยมันไว้อย่างนั้นแหละ สภาพคล่องเขาค่อนข้าง OK ในระดับหนึ่ง ยังไม่จำเป็นต้องไปดึงอะไรออกมาตอนนี้ เมื่อสภาพคล่องเรา OK เมื่อเราคุยกับ RAMS แล้ว, RAMS บอกว่าเราสามารกู้ได้อีกเยอะ น้ำขึ้นต้องรีบตัก เราก็ actively มองหาอสังหาริมทรัพย์ที่ WA เลยทันที (4 hr จากสิงคโปร์ ภรรยาเราค่อนข้างชอบ) พอเริ่ม actively looking for the properties in WA เราก็เข้าไปที่ realestate.com.au ทันที ราคาบ้านที่ WA ค่อนข้างจับต้องได้ เมื่อเปรียบเทียบกับ NSW หรือ VIC พอเข้าไปที่ realestate.com.au แล้วทำการ search และตั้งค่า notification เอาไว้ เราได้รับ notification เยอะมาก ตกเย็นมาก็นั่งไล่ดู listing ต่าง ๆ แถว Perth WA เนื่องด้วย WA เป็นอะไรที่ใหม่สำหรับเรา เราต้องศึกษาเรื่อง area และอะไรต่าง ๆ นานาค่อนข้างเยอะ เราเองก็คงไม่อยากจะไปซื้อบ้านหรือ apartment ให้ถิ่นที่มันมีปัญหาเรื่องอาชญกรรมหรือยาเสพติด ก็ต้องศึกษากันเยอะนิดหนึง วันหนึ่งมันก็มีแค่ 24 hr งานก็ต้องทำ ลูกก็ต้องรับส่ง ทั้งที่โรงเรียนและ dance studio ภรรยาก็ต้องรับส่งเวลาไปโรงพยาบาล นั่น นี่ โน่น (คลีนิค follow up หยิบย่อยเขาก็ขับรถของเขาไปเอง) พออะไรหลาย ๆ อย่างมันเกิดขึ้นพร้อม ๆ กัน บางทีเราก็ต้อง step back ไม่ต้องเร่ง ไม่ต้องรีบบ้างก็ได้ "การทำธุรกิจ ต้องกินแต่พอดีคำ" ฉันใด การลงทุนเองก็เหมือนกัน ก็ต้อง "กินแต่พอดีคำ" ฉันนั้น WA มี potential เยอะจริง เราก็ "พยายาม" บอกตัวเองว่า "ไม่เป็นไรนะ ถ้าพลาดหลังนี้ ก็รอหลังต่อไปก็ได้" มันทำยากแหละ ก็คนมัน "อยากได้ อยากมี อยากเป็น" แต่ก็ต้องพูดกับตัวเองบ่อย ๆ เดี๋ยวมันก็ซึมซับเข้าไปเป็น subconcious เอง เพราะถ้าไม่อย่างนั้นแล้วมันจะกระทบกับงานที่เราทำแน่นอน ลูกค้าก็เร่งเอ๊าเร่งเอา Anyway, งานหลักก็ต้องมาก่อน ยังไง active income ก็ยังต้อทำ ส่วน passive income ก็ต้องทำไปตอนว่าง หลังเลิกงานเอย เสาร์-อาทิตย์เอย ชีวิตไม่ง่าย ก็ต้องจัด priority ให้ดี ๆ ไม่งั้นทุกอย่างจะพังเป็น domino ตอนนี้ก็เลยต้อง step back นิดหนึง และตัดสินใจใช้ buyer agent ในการลงทุน "buyer agent" คืออะไร เดี๋ยรอ post ต่อไปนะครับ ที่เขียนมาทั้งหมดก็แค่อยากจะบอกว่า ทุกอย่าต้องเดินทางสายกลาง อย่าหย่อนเกินไป อย่าตึงเกินไป ทำธุรกิจต้องกินแต่พอดีคำ การลงทุนก็เหมือนกัน ก็ต้องกินแต่พอดีคำด้วยเช่นเดียวกัน ชีวิตแต่ละวัน อย่าลืม "Smell the roses along the way" Disclaimer: เราไม่ใช่ financial advisor ที่เขียนมาทั้งหมดก็แค่เป็น "อริยทรัพย์" Comments are closed.
|
บันทึกชีวิตการลงทุน เล็ก ๆ น้อย ๆ เริ่มจากจุดเล็ก ๆ Archives
September 2024
|