เมื่อหุ้นลง

โดยส่วนตัวแล้ว เราชอบการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์มากกว่า มันเป็นอะไรที่ long-term
มันเป็นอะไรที่เป็น passive income ได้จริง ๆ 
มันเหมาะกับปรัชญาการใช้ชิวิตของเราหลาย ๆ อย่าง

เมื่อวันนั้นมาถึง (เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น) เราก็ไม่ต้องการที่จะมานั่งทำงานหลังขดหลังแข็งอยู่แบบนี้อีกต่อไป

นอกจากการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์แล้ว เราก็ยังมีการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศออสเตรเลียด้วย เราใช้ platform ของ SelfWeath ในการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ของออสเตรเลีย; ASX
​
ของเราก็ซื้ออย่างเดียว เราซื้อแล้วเก็บ
ไม่ได้ขายออกเลย
จะเป็นพวก Value Investor (VI)

ทุก ๆ weekend เราจะได้รับ email summary ว่า portfolio ของเรา perform เป็นยังไงบ้าง
ขึ้นกี่เปอร์เซ็นต์ ลงกี่เปอร์เซ็นต์
ปรกติเราก็ไม่ได้สนใจมาก เพราะไม่คิดที่จะขายอยู่แล้ว เพราะหุ้นพวกนี้เราซื้อเพื่อเก็บ
เพื่อ long-term investment เพื่อ passive income

หุ้นที่เราซื้อก็มีแค่ 3 ตัว 3 บริษัท เป็น LIC; Listed Investment Companies
เราก็ไม่ได้ห่วงมาก เราก็ซื้อแล้วก็ปล่อยไป ไม่ได้สนใจอะไรมาก เพราะปีนี้ ปี 2020 เราก็ไม่ได้กะจะซื้ออะไรเพิ่มมากมาย เพราะปีที่แล้ว ปี 2019 เราลงทุนไปเยอะแล้ว เราก็คิดว่าอาจจะไม่ลงทุนอะไรเพิ่ม เพราะปีนี้เราคิดว่าจะเอาตังค์ไปทำอะไรอย่างอื่น ไปซื้อบ้านหลังที่ 4 ซึ่งจะเป็นบ้านที่ครอบครัวจะอยู่กันเอง จะเรียกว่า family home อย่างแท้จริง ซื้อบ้านคราวนี้ก็คงจะอยู่ยาวเลย ไม่ย้ายอีกแล้ว หลังที่เราอยู่ปัจจุบันก็อยู่มาตั้งแต่ปี 2008 แล้ว

การซื้อหุ้นมันก็ต้องมีการใช้ตังค์

เราเชื่อเสมอว่า "Part of my earning is for me to keep" (The Richest Man in Babylon; George Samuel Clason)
​
ซึ่งก็หมายความว่า ทุกครั้งที่เรามีรายรับเข้ามา เราจะแยกเอามาเก็บออมก่อน ก่อนที่จะนำไปใช้ หรือจับจ่ายใช้สอยอะไรอย่างอื่น เราก็มีการจัดสรรแยกออกเป็นคนละบัญชีอยู่แล้ว

รายได้ของเราทุกเดือน เราแบ่งเอาไว้ลงทุนและเก็บออมก่อนเสมอ ก่อนที่เข้าบัญชีใช้จ่าย ซึ่งรายจ่ายของเราแทบจะไม่ค่อยมีเลย เพราะเราก็ใช้ชีวิตอยู่น้อยกินน้อยของเราไปตามปรกติ ชีวิตไม่ได้ติดหรู ไม่ใช้ของ brand name ไม่หลอกตัวเอง

ปี 2020 เราก็กะว่าจะไม่ลงทุนในตลาดหุ้นอะไรเพิ่มมาก เพราะปีที่แล้ว เราพอใจกับโควต้าที่เราซื้อไป เราก็คิดว่าน่าจะพอแล้วกับการลงทุนในตลาดหุ้นของออสเตรเลีย ในการลงทุนใน LIC ซึ่งทั้งหมดก็เป็นตัวเลข 6 หลัก (AUD$)

ถ้าเราจะซื้อหุ้นในปี 2020 เราก็อาจจะเลือกซื้อเป็นตัว ๆ ไป ซื้อของบริษัทที่เราสนใจเป็นพิเศษ ไม่ได้ซื้อผ่าน LIC

LIC คือบริษัทที่เอาตังค์เราไปลงทุนอีกต่อหนึ่ง คล้าย ๆ กับ mutual fund นั่นแหละ แต่ค่า fee เขาก็ถูกว่า

เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว แฟนเราก็บอกว่าเราตอนนี้ตลาดหุ้นทั่วโลกอยู่ในช่วงขาลง เพราะ Corona Virus และตอนนี้ก็กลายเป็นปัญหากันไปทั่วโลก เป็น global problem เลย และมันก็ hit the stock market hard มันก็จะคล้าย ๆ กับ GFC (Global Financial Crisis) เมื่อปี 2008

เนื่องด้วยเราเป็นคนไม่ดูข่าว ไม่ดูทีวี เราก็เลยไม่ค่อยได้ติดตามเรื่องนี้
แฟนเราบอกว่า มีนักลงทุนบางคนสูญเสียเงินไปจำนวนมาก แค่เพียงชั่วข้ามคืน
เราก็เลยบอกไปว่า เห็นมั้ย การลงทุนเราก็ต้องลงทุนหลาย ๆ ที่ด้วย
เราลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ เพราะยังไงคนก็ต้องการที่อยู่อาศัย เพราะมันคือหนึ่งในปัจจัย 4 ที่คนเราต้องมี

ไหน ๆ อาทิตย์ก่อนหุ้นมันก็ลงนิดหนึง เราก็ไปช้อนซื้อเอาไว้บ้างเล็กน้อย พอหอมปากหอมคอ

กับการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ ถ้าเรามีเงินเย็น มันก็น่าลงทุนนะครับ
ดังนั้นจึงสำคัญมากที่รายได้ของเราทุก ๆ เดือนเราแบ่งสำรองเอาไว้เพื่อลงทุนหรือเก็บออม อย่าเอาไปจับจ่ายใช้สอยหมด เมื่อโอกาสมาถึงเราก็สามารถซื้อหุ้นตัวที่เราอยากซื้อได้ในราคาที่ถูกกว่าปรกติ เพราะหลาย ๆ คนก็ panic sell

panic sell มา
เราก็ซื้อเก็บเอาไว้สิจ๊ะ
​จะรออะไร

blog ของเรา เราเขียนเพื่อแชร์ประสบการณ์
และเป็นการบันทึกส่วนตัวของเรา
เราไม่ได้ยุยงหรือส่งเสริมใครให้ทำอะไรใด ๆ ทั้งสิ้น
โปรดใช้วิจารณาณในการอ่านและเสพสื่อนะครับ

...รัก...