การทำธุรกิจทุกอย่าง
มันก็ต้องมี “เป้า” ยอดขาย หรือ target ที่เราต้องการทำในปีนั้น ๆ ซึ่งก็อาจจะรวมไปถึงการทำ content marketing ด้วย อย่างเช่น เมื่อปีที่แล้ว เรา set target เอาไว้ว่า เราจะโพสวีดีโอคลิปให้ได้ 100 คลิปใน YouTube ภายในวันที่ 31 Dec 2017 ซึ่งเราก็จำไม่ได้เหมือนกันว่า เราทำได้ถึง 100 คลิปหรือเปล่า เราคิดว่าคงไม่ถึง รู้สึกว่าเราทำได้แค่ 97 คลิปเท่านั้นภายในวันที่ 31 Dec 2017 ซึ่งเราก็ถือว่าใกล้เคียงกับ target ที่เราวางเอาไว้ เพราะการทำ Content Marketing มันจะต้องเน้นที่คุณภาพของ Content ด้วย ไม่ใช่เน้นที่ปริมาณอย่างเดียว ขาดไปแค่ 3 คลิป ก็คงไม่เป็นไรนะ เพราะเราก็ทำคลิปต่อหลังจากนั้น ตอนนี้ มันก็คือ 100 คลิปมาแล้ว เกินมาเยอะแล้วด้วย นั่นมันเรื่องของปีที่แล้ว ตอนนี้เราไม่มีเป้าหรือ target ของยอดวีดีโอคลิปที่เราต้องทำแล้ว ปีนี้ เราไม่มี target ในการทำ วีดีโอคลิป Content Marketing เท่าไหร่ เพราะเราคิดว่าทุกอย่างเริ่มอยู่ตัวแล้ว แต่ก็ยั ทำเรื่อย ๆ อย่างสม่ำเสมอ จันทร์ พุธ ศุกร์ ส่วนเรื่องของยอดขาย แน่นอน “เป้า” หรือ target ตัวนี้จะสำคัญมากกว่า target ในการทำ Content Marketing เพราะเป้าของยอดขายมันหมายถึงรายได้ที่เข้ามา จับจ่ายใช้สอยในชีวิตประจำวัน และเก็บออมเอาไว้เพื่อไปใช้กับการลงทุนอะไรอย่างอื่นด้วย passive income คือเป้าหมายในชีวิตของการทำงานที่แท้จริงของเรา เพราะเราไม่ต้องการทำงานไปจนแก่เฒ่าจ้ะ เนื่องด้วยงานที่เราทำของ “J Migration Team” มันก็จะเกี่ยวข้องกับกฎหมาย Immigration ของประเทศออสเตรเลีย ซึ่งก็มีการเปลี่ยนแปลงบ่อย ดังนั้นการวาง “เป้า” หรือ target ของแต่ละปีมันก็ต้องอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง บนพื้นฐานของการเปลี่ยนแปลงด้วย การทำงานของเราเราจะวาง “เป้า” หรือ target ที่เราต้องการเฉพาะการทำ case ใหญ่ ๆ เท่านั้น พวก case เล็ก ๆ เราจะไม่มีการวางเป้าหมายหรือ target ในเรื่องของยอดขาย เพราะ case เล็กๆ นั่นหมายถึงค่าบริการที่ถูก แต่ถ้าเผื่อเป็น case ใหญ่ เราก็จะคิดในอีกระดับหนึ่ง เคสเล็ก ๆ อย่างเช่น วีซ่าท่องเที่ยว วีซ่านักเรียน การขอ Citizen และก็อะไรต่าง ๆ นานา เราถือว่าเป็น case เล็ก ๆ ซึ่งเราก็ยังทำแล้วก็รับงานตามปกติ แต่ว่าจะไม่ได้เน้นตรงจุดนี้มากเท่าไหร่ เรื่องการให้คำปรึกษาแบบ face-to-face consultation นี่ไม่ต้องพูดถึงเลย เราไม่มี target อยู่แล้ว เพราะมันเป็นอะไรที่ไม่คุ้มกับการทำธุรกิจอยู่แล้ว รายได้ของเราที่ได้เข้ามาหลัก ๆ แล้วก็จะได้มาจากการทำเคสใหญ่ๆ อย่างเช่น
ปีนี้เราก็มี target อยู่ในใจว่า เราต้องทำ case ของ Partner Visa ให้ได้กี่ case ภายในปีนี้ ก่อนวันที่ 31 Dec 2018 ซึ่งเป้าหรือ target ตัวนั้น ณ วันนี้ เราทำยอดได้แล้ว เราทำถึงเป้าที่เราต้องการ นี่แค่ October เอง ยังไม่ถึง December ด้วยซ้ำ นี่คือผลลัพธ์ของการทำงานหนัก ใส่ใจในงานที่ทำ อยากให้ผลลัพธ์ออกมาดี Celebrates small wins along the way. Pat myself on the back. เมื่อตอนนี้เราทำยอดขายถึงเป้าหรือ target ที่เราต้องการแล้ว ตอนนี้เราก็มีทางเลือกสองทางคือ
การวาง “เป้า” target หรือยอดขายในการทำธุรกิจ เราไม่ต้องไปแข่งขันอะไรกับใครทั้งสิ้น เราแข่งกับตัวเราเองนี่แหละ ว่าวันนี้เราทำดีที่สุดแล้วหรือยัง Be your best self แล้วหรือยัง การแข่งกับตัวเอง มันสนุก มันมีความสุข และเราก็ได้เรียนรู้อะไรเยอะแยะมากมาย เมื่องานมันสนุก เมื่อเรามีความสุข ทุกคนที่อยู่รอบข้างก็จะมีความสุขไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัว หรือว่าทีมงานเราเอง ที่ “J Migration Team” เราดูแลทีมงานเราก่อน ก่อนที่จะดูแลลูกค้า…. เสมอ ปรัชญาในการทำงานของเรา ปรัชญาในการทำธุรกิจของเราอาจจะแตกต่างจากคนอื่น ก็ไม่เป็นไร เราเคารพในความคิดเห็นต่าง แต่ก็แค่อยากจะแบ่งปัน และให้หลาย ๆ คนลองนำเอาไปประยุกต์ดู ประยุกต์ให้เข้ากับสิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของหน้าที่ การงาน และการทำธุรกิจ อย่าลืมนะครับ ชีวิตเรามันมีอะไรที่สำคัญมากกว่านี้ มากกว่าการทำงาน มากกว่าการทำธุรกิจ สิ่งเหล่านั้นก็คือ คนรอบข้าง คนในครอบครัว และเมื่อไหร่ที่เรากินอิ่มแล้ว กินพอแล้ว เราก็อย่าลืมแบ่งปันอะไรให้กับสังคม ให้กับโลกใบนี้ด้วยนะครับ |
AuthorJohn Paopeng Archives
January 2025
Categories |