ครบแล้ว 5 วัน
ค่ายสุขภาพและพระไตรปิฎก ของหมอเขียว หลังจากนี้จะมีค่ายพระไตรปิฎกล้วน ๆ ต่ออีก 9 วัน แต่เราคิดว่า ทำได้แค่นี้ก็ดีหนักหนา... วันนี้กลับบ้านคุณน้าแล้ว พร้อมออกเดินทางกลับ #ออสเตรเลีย พรุ่งนี้ครับ ได้หมู่มิตรดี ได้หมู่มิตรใหม่ คุณอาก็ไปด้วย ลูกพี่ลูกน้องก็ไปด้วย สุขใจกันถ้วนหน้า ครอบครัวเรานัดไปเจอกันที่ค่ายสุขภาพหมอเขียวเลย อึกหนึ่งจุดนัดพบของครอบครัวเรา พรุ่งนี้เช้าคงจะได้ทยอยตอบ inbox & LINE ของ J Migration Team ทีมงานที่เบื้องหลัง "Team J" ก็ทำงานหนักกันทุกคน ทั้งมือซ้ายและมือขวา รักเสมอ ทุกคนในทีมคือคนในครอบครัว ออกจากค่าย หมอเขียว มันก็คงจะทำให้เรามีสติในการดูแลตัวเองมากขึ้น ทำเท่าที่ทำได้ เราก็ได้เรียนรู้พระไตรปิฎกไปหลายเล่ม เล่มนะนิด ๆ หน่อย ๆ แต่ก็ถือว่าได้เรียนรู้ ได้เป็นประสบการณ์ที่ดี เพียงพอกับชีวิตนี้ อิ่ม มีความสุข ไม่ต้องการอะไปมากกว่านี้ เรามาตัวเปล่า เราก็ไปตัวเปล่า ทุกสิ่งอย่างที่มีอยู่ ณ ตอนนี้คือกำไร สุขที่สุด ณ จุดที่เป็น อาหารรสธรรมชาติ
อาหารรสจืด ใช้เกลือปรุงรส ไร้สาร ข้าวต้ม ผัก + ผลไม้ปั่น ผัดวุ้นเส้นใส่ผัก รสจืดจริง อะไรจริง ไม่มีสารเคมีปรุงแต่งรสชาติ ลด ละ กิเลส ลด ละ ความสุขสบาย นอนกับพื้นกระดานไม้ ไม่ยึดติด อาหารคือยา อาหารคือสมุนไพร #เราคือหมอที่ดีที่สุดในโลก 5 วันแห่งการเรียนรู้ 5 วันแห่งการเปิดโลกทัศน์ 5 วันแห่งกับสิ่งแปลกใหม่ เปิดใจ เรียนรู้ เดินทางไกลมาเพื่อสิ่งนี้ ชีวิตที่เหลือ #รักตัวเอง รักคนรอบข้าง แบ่งปัน ทำอะไรเพื่อคนอื่น ทำอะไรเพื่อสังคม ลดอัตตา ไม่มีตัวตน ก็ไม่มีทุกข์ ไหวนะ... ไหวสิ ฉันมาไกล... :) ...หล่อเลย... #หมอเขียว #จอห์นเผ่าเพ็ง #เพราะฉะนั้น ฉันกับ “แก” เราเป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่สมัยเรียนอยู่ที่เมืองไทย
เราเจอกันตัวเป็น ๆ ครั้งล่าสุด ก็น่าจะ 19 ปีที่แล้ว ทุกครั้งที่ฉันกลับเมืองไทย เวลาเราก็ไม่ค่อยตรงกัน และแกก็ย้ายไปทำงานทำการอยู่ที่อื่นแล้ว แต่ฉันก็ยังแวะเวียนเข้าไปไหว้คุณพ่อคุณแม่ของแกเสมอ เพราะคุณพ่อคุณแม่ของแก ก็เหมือนพ่อของฉันแม่ของฉัน เพราะฉันก็เรียกคุณพ่อของแกว่า “พ่อ” และเรียกคุณแม่ของแกว่า “แม่” มาตลอดตั้งแต่เด็ก ๆ ที่เราเรียนหนังสือด้วยกัน แกเป็นคน “เยอะ” แกไม่เล่นโซเซียล แกเล่น LINE ที่มีเอาไว้คุยกันเฉย ๆ ซึ่งนาน ๆ ทีเราจะคุยกัน เพราะต่างคนก็ต่างยุ่ง ถ้าไม่ได้ติดต่อกันในโซเซียล เราก็ไม่ค่อยรู้ความเป็นไปของกันและกัน เราก็เลยติดต่อกันยาก ฉันไม่รู้ความเป็นไปของแก แต่แกรู้ความเป็นไปของฉัน เพราะฉันก็โพสต์อะไรใน Timeline ของฉันตลอด ปรกติแล้วฉันเป็นที่คนนอนแล้วหลับสนิท ฉันเป็นคนที่ไม่เคยฝัน ๆ นาน ๆ ทีถึงจะฝันที อาจจะปีละครั้งก็ว่าได้ ไม่รู้สิ ฉันก็ชอบชีวิตของฉันแบบนี้ คือนอนหลับสนิท ไม่ต้องฝัน เพราะนอนแล้วฝัน ฉันก็คิดว่ามันเป็นการเสียพลังงานในการนอน ในช่วงเวลาที่ฉันเขียนตอนนี้ เพื่อนของแฟนฉันก็เพิ่งสูญเสียเสาหลักในครอบครัว สามีเขาเสียชีวิตทั้ง ๆ ที่อายุยังไม่เยอะ มันเป็นอะไรที่น่าใจหาย เพราะช่วงนี้ที่ประเทศออสเตรเลีย มันเป็นช่วงปิดเทอม มันเป็น school holidays ที่เด็ก ๆ และทุกคนในครอบครัวใช้ชีวิตวันหยุดกันอย่างมีความสุข แต่เด็ก ๆ ครอบครัวนี้สูญเสียคุณพ่อ ภรรยาสูญเสียสามี ฉันกับแฟนพอได้ข่าว เราสองคนก็เป็นห่วงเขา เพราะแฟนฉันก็สนิทกับครอบครัวนี้มาก เราก็เป็นห่วงว่าพวกเขาจะอยู่กันยังไง แม่ 1 ลูก 2 และลูกก็กำลังอยู่ในวัยเรียนทั้ง 2 คน มันจะมีผลกระทบต่อจิตใจของเด็ก ๆ มากขนาดไหนที่ต้องสูญเสียคุณพ่อในช่วงปิดเทอม มันคงเป็นช่วงปิดเทอมที่เลวร้ายที่สุดของพวกเขาเลยก็ว่าได้ เพื่อน ๆ หลายคนที่เมืองไทย เราก็พอมีโซเซียลของกันและกัน พวกเราก็ยังพอเห็นข่าวสารและการเคลื่อนไหวของแต่ละคน ถึงแม้จะไม่ได้คุยกัน แต่ก็ยังส่องโซเซียลของกันและกัน นาน ๆ ก็จะคอมเมนท์ให้กันที ยกเว้นแกนี่แหละ ที่แตกพวกออกมา เพราะแกเป็นคน “เยอะ” สงสัยฉันต้อง reach out ติดต่อหาแกแล้วหละ เพราะชีวิตมันช่างเปราะบางเหลือเกิน วันไหนจะเกิดอะไรขึ้นเราก็ยังไม่รู้ คนเราสมัยนี้ ยังหนุ่มยังแน่นก็เสียชีวิตกันได้ มีเยอะแยะมากมาย คนเรา ต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยความไม่ประมาท คนใกล้ตัว คนไกลตัวอาจจะไปเมื่อไหร่ก็ได้ เราต้องไม่ทำตัวห่างเหิน เราต้องไม่ “ยุ่ง” มากซะเกินไป จนไม่มีติดต่อหาคนรอบข้าง เริ่มเลยวันนี้ ไม่ต้องรอตอนเกษียณแล้วค่อยติดต่อเพื่อน ๆ หรือคนรอบข้าง ถึงตอนนั้นมันอาจจะสายเกินไปแล้ว หรือถึงตอนนั้นความสนิทสนมมันอาจจะไม่เหมือนเดิม มันอาจจะต่อไม่ติดแล้วก็ได้ ความสัมพันธ์ของมนุษย์เป็นเรื่องเปราะบาง ชีวิตของคนเราเป็นเรื่องเปราะบาง วันนี้เราบอกรักใครสักคนแล้วหรือยัง วันนี้เรา reach out หาคนที่เราไม่ได้ติดต่อมาเป็นระยะเวลานานแล้วหรือยัง ไม่ต้องรอให้ถึงพรุ่งนี้ “พรุ่งนี้” ไม่เคยมาถึงซะที มันมีเฉพาะวันนี้ เดี๋ยวนี้ วินาทีนี้ คิดแล้วทำ ทำทันที อย่าคิดนาน อย่าคิดเยอะ |
AuthorJohn Paopeng Archives
September 2024
Categories |