ถ้าใครคิดจะทำธุรกิจอะไรนะ
เราคิดว่าการที่เราสินค้าเป็น brand ของตัวเองจะดีที่สุด ดีกว่าการนำเข้าสินค้า brand ของคนอื่นแล้วมาขายต่อ อะไรประมาณนี้ เพราะสินค้า brand ของคนอื่นเขาควบคุมอะไรแทบจะไม่ได้เลย ส่งของช้าบ้าง เร็วบ้าง แต่ก็นั่นแหละถ้าเราขายสินค้าของคนอื่น เราก็ต้องขึ้นอยู่กับคนอื่น แต่มันก็ง่ายไง ซื้อมาขายไป สำหรับใครที่พอจะมี personal branding อยู่บ้าง (ดังนั้นการสร้างตัวตนบนโลก online เป็นอะไรที่สำคัญจ๊ะ) เราก็คิดว่าทำสินค้าเป็น brand ของเราเลยจะดีกว่านะ มันก็ปวดหัวเฉพาะช่วงแรก ๆ ช่วงทำ OEM ก็แค่นั้นเอง มีสินค้าเป็นของตัวเอง เราก็ควบคุมเรื่อง logistic ได้ง่ายกว่า แต่ก็นั่นแหละ การมีสินค้าเป็นของตัวเองก็ไม่ได้เหมาะสำหรับกับทุกคน มันก็อาจจะเหมาะสำหรับคนที่เขาพอจะมีตัวตนบ้างแล้ว ไม่ว่าจะโลก online หรือ offline ที่เราตัดสินใจทำสินค้า brand "J. Dok Jig" ก็เพราะอยากจะลองดูซักตั้ง ก็แค่นั้นเอง เพราะเราก็ดูต้นทุนของการทำ OEM แล้ว ก็พอสู้ได้ เราเองก็ไม่ได้ทุบกระปุกมาทำ เราก็พอเงินเก็บ มีเงินสำรองมาทำตรงจุดนี้อยู่บ้าง เราก็แค่อยากจะ diversify การทำธุรกิจของเราก็แค่นั้นเอง อันนี้ก็เป็น project ช่วงเสาร์-อาทติย์ ก็จะไม่ให้ไปกระทบกันงานหลักแน่นอน เพราะระบบอะไรต่าง ๆ เราก็คิดว่าเราจะ automate ให้มากที่สุด (รออ่าน post หน้า) แล้วทำไมต้องน้ำปลาร้าด้วยหละ จุดประกายมาจาก "พิมรี่พาย" ล้วน ๆ เลยจ๊ะ เพราะเราชอบ "พิมรี่พาย" เป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว เราก็คิดว่า เฮ้ย คนธรรมคนหนึ่ง ลุกขึ้นมาทำธุรกิจออนไลน์แล้วเก่งมากเลย และตอนนี้เขาก็แตก line สินค้าเยอะมาก เขาทำได้ เราก็น่าจะทำได้นะ ในแบบของเรา ในเวอร์ชั่นของเรา เราก็พอมีฐาน fan base อยู่บ้าง เราก็พอน่าที่จะ leverage อะไรตรงนี้ได้ ในเรื่องของ personal branding การที่เราจะไปทำอะไรคล้าย ๆ ใคร ไม่ผิดจ๊ะ idea ทางธุรกิจอะไรต่าง ๆ พวกเราก็ copy มาจากที่อื่นกันทั้งนั้นแหละ ไม่ว่าจะเอา idea มาจาก Uni, มาจากหนังสือที่อ่าน เราเป็นคนไม่คิดอะไรนาน คิดแล้วทำ ทำทันที เราคิดง่าย ๆ แค่ว่า ถ้า ไมค์ ภิรมย์พร, หมั่ม จ๊กมก, น้อย โพธิ์งาม และ สุนารี มีน้ำปลาร้าเป็นของตัวเองได้ แล้วเราจะมีไม่ได้เลยเหรอ และเงินทำ OEM เราก็พอมี เราไม่ได้ทุบกระปุกมา งั้น OK แหละ แค่นี้เองเลยจริง ๆ เราก็ไม่ได้คิดที่จะขายให้ใครอื่นไกล แค่ขายให้ฐาน fan base ของเราก็พอแล้ว ถ้าขายได้ก็ดี ถ้าขายไม่ได้ ก็แจกเป็นของฝากก็ได้ ก็ไม่เห็นเป็นไร ส่วนเรื่องระบบการขาย อะไร นั้น นี่น โน่น เราก็วางแผนเอาไว้แล้ว เป็น project ที่ไม่รีบจ๊ะ เพราะงานหลักเราก็มีอยู่แล้ว ก็เป็น weekend project ของเราไป ทำเล่น ๆ ไป OK แหละ แต่เราก็เชื่อ power of online ว่าสิ่งที่เราทำเล่น ๆ นี่แหละ ถ้าทำให้ดี ๆ นะ ผลลัพธ์และกำไรก็ไม่เล่น ๆ นะ ก็ต้องวางระบบอะไรต่าง ๆ ให้ดี ๆ หนะจ๊ะ โปรดติดตามสินค้าของ "J. Dok Jig" ด้วยละกันนะครับ ถ้า work ก็ไปต่อ ถ้าไม่ work ก็เลิก แค่นั้นเอง ไม่คิดอะไรมาก อย่างน้อยเราก็ได้ลงมือทำ ดีกว่าที่จะมานั่งรำพึงรำพันทีหลังว่า "ไม่ได้ทำ" การลงมือทำ จะทำให้เรารู้ว่าสำเร็จหรือไม่สำเร็จ แต่การไม่ลงมือทำมีคำตอบเดียวคือ “ไม่สำเร็จ” แน่นอน This weekend, เริ่มจากการเปลี่ยน logo ก่อนละกัน LINE: @jdokjig คนเรา ก็ต้องมีบ้างก็จะต้องก้าวข้าม comfort zone ของเรา ไม่งั้นเราก็จะย่ำอยู่กับที่ ไม่เติบโต
ไม่ต้องห่วงจ๊ะ "J Dok Jig" จะไม่กระทบกับงานหลักเราแน่นอน เรามี strategy ของเราอยู่ ขอฝาก "J Dok Jig" ไว้ในอ้อมกอดของทุกคนด้วยนะครับ ขอบคุณน้อง "someone" ที่ช่วยออกแบบ logo ให้ เดี๋ยวคงจะ tweak กันนิดหนึ่งก็คงได้แหละ เราจะใช้อันนี้เป็นหลักแหละ สินค้าของเราทุกสิ่งอย่างจะทำให้ถูกต้องตามกฎหมายของประเทศออสเตรเลียครับ |
AuthorJohn Paopeng Archives
December 2024
Categories |