ช่วงนี้โรงเรียนที่ NSW ปิดเทอม มันก็ต้องมีบ้างที่เรากับครอบครัวพากันไปพักผ่อนหย่อนใจบ้าง อะไรบ้าง Jervis Bay เป็นอะไรที่เราทุกคนในครอบครัวชอบไปกัน พวกเรามาครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 4 แล้ว ปี 2016 เรามากัน 3 ครั้ง แสดงว่าชอบจริง อะไรจริง ปี 2017 เราไม่ได้มา แต่พวกเราก็ไปที่อื่นกัน ปี 2018 ก็เลยพากันมาซะเลย เพราะทีแรกก็เลือกระหว่าง Gold Coast กับ Jervis Bay ถ้าเราไป Gold Coast เราก็คงจะไปทำงาน face-to-face consultation ที่นั่นของเราด้วย แต่ลูกค้าที่ Gold Coast ก็บอกว่า October เป็นช่วงพายุเข้า คงไปเที่ยวไม่สนุก พวกเราก็เลยเลือกมาที่นี่กัน ที่ Jervis Bay สำหรับเราแล้ว ชีวิตการทำงาน และการเที่ยวมันต้อง integrate เข้าด้วยกัน เพราะเราทำงาน Mon-Sat ลูกค้าก็ยังต้องติดต่อได้ตามปรกติ เราก็ยังต้องทำงานเหมือนเดิม นั่งทำ case ไป นั่งเขียน blog ไป นั่งคุยกับทีมงานไป สำหรับเราแล้ว มันก็เหมือนแค่เป็นการเปลี่ยนที่ทำงานก็แค่นั้นเอง เพราะเราไปไหนมาไหน เราต้องมี laptop และ pocket WiFi อยู่แล้ว เราต้องทำงานได้ตลอด ทำได้ทุกที่ และ Jervis Bay เราก็มากันบ่อยแล้ว เราก็แค่อยากให้ลูกลิงและภรรยาได้เปลี่ยนบรรยากาศในการพักผ่อนบ้าง และที่พักปีนี้ แตกต่างจาก 2 ที่แล้วมาก ดูเหมือนว่า Internet และ WiFi น่าจะเร็วขึ้น Internet เขาแรงมาก ต่างจาก 2 ปีที่แล้ว เราก็เลยทำงานได้สบายหน่อย เรามากันที่นี่ 4 ครั้งแล้ว เราก็พักที่เดิมตลอด เพราะชอบตรงที่มันอยู่ตรงแม่น้ำพอดี อยู่ตรง lake เราก็สามารถนั่งทำงานได้ตรงระเบียง ลูกลิงก็ออกไปเล่นพายเรืออะไรของเขาไปเรื่อย ปรัชญาในการทำงานของเราก็คือ ไม่ว่าเราจะทำงานที่ไหนก็ช่าง ลูกค้าต้องสามารถติดต่อเราได้ตลอด ยกเว้นพวก general enquiries ซึ่งพวกนั้น เราถือว่าเป็น 2nd priority สำหรับเราแล้ว ลูกค้าที่ทำ case กับเรา ลูกค้าที่จ่ายตังค์กับเรา เราต้องดูแลพวกเขาเป็นอย่างดี เขาต้องติดต่อเราได้ตลอดเวลา ไม่ว่าเราจะไปที่ไหนก็ช่าง เราก็โชคดีตรงที่ว่าเราเองก็สามารถทำงานได้จากที่ไหนก็ได้ เพราะทุกอย่างเราวางระบบไว้หมดแล้ว มันก็เลยง่ายหน่อย แต่กว่าเราจะมาถึงจุดนี้ได้ เราก็ทำงานหนักนะ ก่อนที่เราจะเป็นผู้รับ เราก็ต้องผู้ให้ก่อน อยากให้หลาย ๆ คนลองอ่านหนังสือของ Gary Vee ดูนะครับ - The Thank You Economy และก็ - Jab Jab Jab Right Hook คือเราก็ต้องให้ก่อน ก่อนที่จะเป็นผู้รับ ให้ข้อมูล ให้ความรู้ ที่เหลือทุกอย่างมันจะตามมาเอง เราจะกลายเป็น brand ที่ไม่ต้องโฆษณา ไม่ต้องอะไรมาก แต่ทุกอย่างเราต้องเริ่มจากการให้ก่อน ให้อย่างจริงใจ ให้แบบไม่ต้องหวังอะไรกลับมา ถ้าคนเราทำความดีซะอย่าง คนอื่นไม่เห็นไม่เป็นไร แต่เราเห็น เราสัมผัสได้ แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว ที่เหลือมันก็คือผลพลอยได้ มันคือ bonus มันคือผลการทำงานหนัก ทุ่มเททั้งกายและใจ ททมาโน ปิโยโหติ ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก ความสำเร็จในชีวิตเราสร้างมันขึ้นมาเองได้ ด้วยมันสมองและ 2 มือที่มี ไม่นอนตื่นสาย ไม่อายหากิน ไม่หมิ่นเงินน้อย ไม่นอนคอยวาสนา คือเราก็ต้องให้ก่อน ก่อนที่จะเป็นผู้รับ
ให้ข้อมูล ให้ความรู้ ที่เหลือทุกอย่างมันจะตามมาเอง เราจะกลายเป็น brand ที่ไม่ต้องโฆษณา ไม่ต้องอะไรมาก แต่ทุกอย่างเราต้องเริ่มจากการให้ก่อน ให้อย่างจริงใจ ให้แบบไม่ต้องหวังอะไรกลับมา ถ้าคนเราทำความดีซะอย่าง คนอื่นไม่เห็นไม่เป็นไร แต่เราเห็น เราสัมผัสได้ แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว ที่เหลือมันก็คือผลพลอยได้ มันคือ bonus มันคือผลการทำงานหนัก ทุ่มเททั้งกายและใจ ททมาโน ปิโยโหติ ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก ความสำเร็จในชีวิตเราสร้างมันขึ้นมาเองได้ ด้วยมันสมองและ 2 มือที่มี ไม่นอนตื่นสาย ไม่อายหากิน ไม่หมิ่นเงินน้อย ไม่นอนคอยวาสน |
AuthorJohn Paopeng Archives
September 2024
Categories |