พอเราเริ่มอ่านหนังสือเยอะมากขึ้น
เราได้เปิดโลกทัศน์มากยิ่งขึ้น เราได้อ่านหนังสือ WHEN ของ Daniel Pink และก็ Own The Day, Own Your Life ของ Aubrey Marcus โดยเฉพาะ WHEN ของ Daniel Pink ที่พูดถึงเรื่องเวลา หนังสือเขาจะพูดถึงว่าเวลาช่วงนี้ เราควรทำอะไร สมองหรือร่างกายเราถึงจะมีประสิทธิภาพมากที่สุด อย่างเช่น ประชุมควรประชุมตอนเช้า นักเรียนที่สอบตอนเช้า จะทำคะแนนได้ดีกว่านักเรียนที่สอบตอนบ่าย อะไรต่าง ๆ เหล่านี้เป็นต้น ทั้ง Daniel Pink และ Aubrey Marcus ได้เขียนถึง Intermittent Fasting เราก็งง ๆ นิดหนึง เราก็แบบว่า huh อะไรนะ อดอาหารเหรอ "fasting แปลว่าอดอดอาหาร" Intermittent Fasting คือการทานอาหารแค่ช่วง 12 noon - 8pm คือตอนเที่ยงถึง 2 ทุ่ม เวลาก็สามาร adjust ได้ แล้วแต่คน แต่ก็ต้องดื่มน้ำตลอด เพื่อให้ร่างกาย hydrate อยู่ตลอดเวลา Idea ของทั้ง 2 คนนี้ก็คือว่า ถ้าจะทาน breakfast หรืออาหารเช้า มันจะต้องเป็นอาหารเช้าที่ healthy ถ้าไม่ healthy ก็อย่าทานเลย หลาย ๆ คนทานอาหารเช้าเพียงเพราะว่า มันเป็นอาหารมื้อแรกของวัน เราคิดกันไปเองแบบนักโภชนาการเก่า ๆ ว่า เราต้องการพลังงานจากอาหารมื้อแรก "ตอนเช้า" เราก็เห็นด้วยกับทั้ง Daniel Pink และก็ Aubrey Marcus แหละ ว่าถ้าอาหารเช้าเป็นพวก cornflakes ที่เต็มไปด้วยน้ำตาล หรือขนมปัง ที่ผ่านขบวนการการผลิต เป็นพวก non-complex carbohydrate ก็อย่าทานเลยดีกว่า ทานไปก็ไปเป็นภาระของร่างกาย ที่ต้องย่อยสลาย หรือเผาผลาญเฉย ๆ เราเป็นคนไม่ทาน cornflakes หรือ toast ตอนเช้าอยู่แล้ว เราเลยไม่มีปัญหาตรงจุดนี้ ปรกติ breakfast เราจะเป็น Oatmeal with soy milk และก็ใส่กล้วย และ black chia seeds เข้าไปด้วย แค่นั้นเอง เหตุผลในการทำ Intermittent Fasting ของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน มันก็มีข้อมูลใน Internet เยอะแยะมากมายเรื่องนี้ แต่เราไม่ชอบอ่านอะไรที่เกี่ยวกับ health จาก Internet เพราะเราไม่รู้ว่าข้อมูลใน Internet เชื่อได้มากน้อยแค่ไหน เราชอบอ่านจากหนังสือมากกว่า อย่างน้อยเราก็รู้ว่าคนเขียนเป็นใคร และเขาก็คงศึกษาหาข้อมูลมาแล้วก่อนที่เขาจะมาเขียนหนังสือ อันนี้เราคิดเอง เออเองนะ ใครจะคิดยังไงก็แล้วแต่เขา ปรกติเราก็ผอมอยู่แล้ว ยิ่งอยากจะเพิ่มน้ำหนักอยู่ด้วย เรื่อง fasting เนี๊ยะ ไม่ได้อยู่ในหัวสมองเลย แต่การทานอาหารวันละ 3 มื้อ มันก็เป็นความคิดแบบเก่า ๆ เดิม ๆ ไปแล้วนะ เราก็ลองทำบ้าง ขำ ๆ ไม่ได้คิดอะไรมาก ต้องการเพียงแค่ว่าอยากให้ร่างกาย clean และ detox ก็แค่นั้นเอง เพราะบางทีเราก็เผลอ enjoy dinner เยอะไปหน่อย กินมากเกินกว่าที่ร่างกายต้องการ จะรู้สึกได้ว่าตอนเช้า หน้าท้องจะไม่แบน เราก็แค่อยากให้ร่างกายได้เผาพลาญอาหารที่เราทานไปแล้วตั้งแต่เมื่อวาน ให้มันหมด ๆ ไป ก่อนที่จะทานอะไรเข้าไปใหม่ ดังนั้น skip breakfast บ้าง อะไรบ้างก็ไม่เป็นไร แต่ต้องดื่มน้ำตลอด ของเราก็จะเน้น green tea และน้ำมะพร้าว (แอบมีน้ำตาลบ้างเล็กน้อย) ที่ผ่าน ๆ มาเราก็ลองทำ 2-3 วันต่อ 1 อาทิตย์ ก็ทำมาแล้ว 2-3 เดือน เราก็รู้สึกเฉย ๆ นะ ไม่ได้เวอร์วังอะไรเหมือนชาวบ้านเขา เราก็ follow พวก health professional ในสื่อ social บ้าง อะไรบ้าง หลาย ๆ คนก็บอกว่าช่วยให้เรา concentrate ได้ดี นั่น นี่ โน่น เอ่อ... เราไม่เห็นรู้สึกอะไรเลย หรือว่าเรา concentrate อยู่แล้ว!!! ตอนนี้เราก็เป็นอะไรที่ flexible แต่ทำอย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 คือวันอาทิตย์ เราก็แค่อยากจะ cleanse ร่างกายเราเฉย ๆ ไม่ต้องการกิน เพียงเพราะเพื่อให้มันครบ 3 มื้อใน 1 วัน เราไม่ได้ทำอะไรเดิม ๆ เพียงเพราะทุก ๆ คนทำกัน จริง ๆ แล้วเราก็ skip breakfast มาตั้งแต่ช่วงที่เรียนที่มหาลัย แล้ว อันนั้น skip เพราะตื่นสาย เราจะทาน brunch แทน นี่เราก็เพิ่งมาทาน breakfast ได้แค่ประมาณ 1 ปีเองนะ หลังจากที่ไม่ได้ทาน breakfast มาประมาณ 20 ปี ไม่รู้สิ เป็นคนที่ไม่ชอบทำอะไรยุ่งยาก เพราะตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ตื่นเช้ามา ดื่มกาแฟก่อนเลย แล้วนั่งหน้า computer ทันที ตาม style เด็ก IT นั่นแหละคือ breakfast แต่เราก็เพิ่งมา break the old habit เมื่อปีที่แล้วนี่เอง เริ่มทาน breakfast มาได้แค่ประมาณ 1 ปี ตอนนี้จะมี Intermittent Fasting เข้ามาด้วย เอาเถอะ ชีวิต ทำอะไรให้มันสุด ๆ ขอให้เรารู้ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ แค่นั้นก็เป็นพอ ของเราแค่ต้องการหน้าท้องให้มันแบนมากกว่านี้ตอนเช้า ก็แค่นั้นเอง ให้ร่างกายมัน cleanse ของเก่า ๆ ที่เราทานไปตั้งแต่เมื่อวานหน่อยก็ได้ ไม่ใส่ตื่นขึ้นมา ก็ใส่ ๆ เข้าไปในร่างกาย ร่างกายไม่ได้พักเลย แบบนี้ก็ไม่ไหว Anyway... ใครจะทำอะไร ยังไง เรื่องของเธอนะจ๊ะเธอ แต่เราเลือกที่จะทำแบบนี้ บอกแล้วไง การอ่านเป็นการเปิดโลกทัศน์และแนวความคิดใหม่ ๆ อยากเชิญชวนให้ทุกคนหาเวลาว่าง ในแต่ละวันหันมาอ่านหนังสือกันบ้างนะครับ อย่าข้ออ้างเยอะ... ถ้าเราคิดจะทำหนะ มันทำได้อยู่แล้ว ลงมือทำ ทำทันที |
AuthorJohn Paopeng Archives
September 2024
Categories |