2 อาทิตย์ก่อนที่ Elon Musk เข้ามาถือหุ้น 9% ของ Twitter เขาก็กลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ไปเลยทันที ในใจเราก็แอบคิดว่า "เออ ดี เราคงเห็นการเปลี่ยนแปลงอะไรบางสิ่งบางอย่าง" เพราะ Elon Musk ก็เป็น the biggest disruptor อยู่แล้ว ตั้งแต่สมัย PayPal จนตอนนี้มาก่อตั้ง Tesla ที่ดังไปทั่วโลก ทุกคนอยากจับจองเป็นเจ้าของ
Tesla คือบริษัทที่ผลิตรถยนต์ 100% electric car เจ้าแรกของโลก ในขณะที่หลาย ๆ บริษัทตอนนั้นยังผลิตรถ hybrid อยู่เลย เราทำงานในโลกออนไลน์ เราก็ต้องคอยดูการเคลื่อนไหวของ patform ต่าง ๆ เท่าที่เราสังเกตนะ เราก็คิดว่า Twitter คงจะตายหรือปิดตัวไปเร็ว ๆ นี้เพราะคนใช้น้อยมากถ้าเปรียบเทียบกับ patform อื่น ๆ อย่าง Facebook หรือ Instagram อาจจะเป็นการคาดเดาที่ผิดก็ได้ แต่เราก็คิดของเราแบบนี้ ส่วน Facebook เองก็มีปัญหาในเรื่องของ privacy เพราะ Facebook ก็รู้ข้อมูลส่วนตัวเราเยอะเกินไป เพราะ Facebook มี pixel คอย trace การเคลื่อนไหวออนไลน์ของเรา รู้ไปหมดว่าเราทำอะไรบ้าง การที่ Elon Musk เข้ามาถือหุ่นใหญ่ของ Twitter นั้น เราคิดว่ามันเป็น "ความแค้น" ส่วนตัวของ Elon Musk กับ Mark Zuckerberg มากกว่า เพราะทั้ง 2 คนเคยไปปราศัยที่งาน ๆ หนึ่งเกี่ยวกับอนาคตของ AI (Artificial Intelligence) แล้วปรากฏว่าทั้ง Elon และ Mark เองพูดไม่ค่อยลงรอยกันเท่าไหร่ในงานวันนั้น แต่ละคนมีความคิดไม่เหมือนกันในเรื่องบทบาทของ AI ที่มีต่อชีวิตเรา หลังจากนั้น Elon Musk ก็จะตำหนิ Facebook นั่น นี่ โน่น อยู่เรื่อย เดี๋ยวก็บอกว่า Facebook ไม่ safe มั่งหละ Facebook invades privacy มั่งหละ และเขาก็ปิดบัญชี Facebook ของ Tesla ไปด้วย แต่เขาก็ยังคงมีบัญชีของ Instagram ซึ่งเราก็ follow เขาอยู่.... oops!!! แต่ Instagram ก็เป็นของ Facebook/Meta นะ :) Mark Zuckerberg เองก็ชอบกินรวบเหมือนกัน anyway... เราก็คิดว่าการที่ Elon Musk เข้ามาถือหุ้นใหญ่ของ Twitter เราก็แอบคิดในใจว่า เออ มันต้องมีการ shake up กันเกิดขึ้นแน่นอน อย่างน้อย ๆ Facebook ก็น่าจะเริ่มมีคู่แข่งบ้าง เพราะตอนนี้ Mark Zuckerberg ก็กินรวบทั้ง Facebook (Meta) และ Instagram แต่ไม่ทันไร ข่าวก็ออกมาเมื่อวันที่ 14 Apr ว่า Elon Musk ต้องการ take over Twitter ไม่ใช่แค่ถือหุ้น 9% และดูเหมือนว่าจะเป็น hostile take over ซะด้วยสิ อุ๊ย... แบบนี้ ไม่น่ารัก!!! เราไม่ค่อยเห็นด้วยกับการกระทำนี้ของ Elon Musk เท่าไหร่ hostile take over เป็นอะไรที่ไม่น่ารัก มันเหมือนนายทุนรังแกผู้ค้ารายเล็ก การที่คนเราเป็น the richest man in the world ไม่ได้แปลว่าเราสามารถทำอะไรก็ได้ ความถูกต้องอะไรหลาย ๆ อย่างมันก็ต้องมี; ethical เดี่ยวเรามาดูกันว่า Elon Musk จะ take over Twitter ได้มั้ย หรือจะยังคงถือหุ้นใหญ่ 9% ต่อไป หรือว่าเขาจะเทขายหุ้นทิ้ง ต้องจับตามองจ๊ะ :) |
AuthorJohn Paopeng Archives
September 2024
Categories |