Covid หรือไม่ Covid
panic หรือไม่ panic ไม่รู้นะ ปรกติเราเป็นคนไม่ดูข่าว เราเลิกดูข่าว ดู TV มาตั้งแต่ 2010 แล้ว เพราะ no news is a good news รายการที่ดูก็จะเป็นพวก entertain; My Kithcen Rules, X-Factor อะไรประมาณนี้ เราไม่ดูละครอยู่แล้ว ไร้สาระ แต่ก่อนเวลาเราขับรถไปทำงาน หรือขับรถไปไหนมาไหน รถเราก็ lock เข้ากับ radio; SmothFM 95.3 ฟังเพลงไปเบา ๆ และทุก ๆ 30 นาทีเขาก็จะมีข่าว update อยู่แล้ว ดังนั้นเราจึงไม่จำเป็นต้องดูข่าว แต่หลัง ๆ มาเราก็เลิกฟัง radio ไปเลย ประมาณปี 2018 เราก็หันมาฟัง audio book และฟัง Podcast อย่างจริงจัง podcast ของ Tim Ferris และ Gary Vee เวลาขับรถไปไหนไปไหนคนเดียว เราก็ฟัง audio book ซะเป็นส่วนใหญ่ Library on the wheel, University on the wheel. การไม่ได้ดูข่าว ไม่ได้แปลว่าเราตัดขาดไปจากโลกปัจจุบัน เราก็พอจะรู้อยู่บ้างว่าเกิดอะไรขึ้น ส่วนมากก็จะดูจากพวก social feed ของเพื่อน ๆ ใน facebook ก็แค่นั้นเอง แต่จะให้เรามานั่งอ่านทุกอย่างที่เขา share มา เราไม่ทำ เราคิดว่ามันไม่จำเป็น เราเอาเวลาของเราไปทำงาน ไปนั่งอ่านหนังสือดีกว่า นาน ๆ ทีช่วงพักผ่อนจากการทำงาน เราก็อาจจะนั่งดูข่าว ABC News บ้าง แต่ก็ไม่เคยเกิน 15 นาที คือเอาแค่พอรับรู้ว่ามันมีข่าวอะไรบ้างก็แค่นั้นเอง เราไม่ใช่พวกที่จะมานั่งดูข่าว อ่านข่าวไปวัน ๆ ดูแล้ว แล้วไงเหรอ อ่านแล้ว แล้วไงเหรอ เราไม่ใช่พวกคนเสพสื่อด้วยสิ เราอยู่ที่ประเทศออเตรเลียมา 26 ปีแล้ว (23 March 1994) เราเชื่อมันและมั่นใจในศักยภาพของรัฐบาลของประเทศออสเตรเลีย ก็แค่นั้นเอง เราก็ปล่อยให้พวกรัฐบาล พวกเจ้าหน้าที่ทำงานของเขาไป ก็แค่นั้นเอง เพราะเราคิดว่ารัฐบาลที่นี่ทำงานกันระบบอยู่แล้ว เราเอาเวลาของเราไปทำงาน หรือเวลาว่างก็อ่านหนังสือ เขียน blog และก็ content ของเราไป ก็แค่นั้นเอง ไม่รู้สิ เราเป็นคนที่ไม่ panic กับอะไรง่าย ๆ คือชีวิตนี้มันผ่านอะไรมาเยอะแล้ว เศรษฐกิจปี 2540 เศรษฐกิจต้มยำกุ้ง (ชวลิต ยงใจยุทธ ชื่อนี้เราจะจำไปจนวันตาย) เหตุการณ์ 9-11 เศรษฐกิจปี 2008 คือเราผ่านมันมาหมดแล้ว ทุกวันนี้รู้สึกเฉย ๆ กับทุกสิ่งอย่างในชีวิต มันปลง มันปล่อยวาง แล้วช่วงนี้ก็มาสูญเสียหลาน คือมันไม่มีอะไรที่ต้องเสียแล้วหละ ไม่อยากเครียด ไม่อยากรับรู้ เราก็แค่ป้องกันตัวไปตามปรกติก็แค่นั้นเอง ช่วงที่เกิดเหตุการณ์ Corona Virus ใหม่ ๆ เรากับครอบครัวก็อยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ เพราะมันเป็นช่วงตรุษจีนพอดี พวกเราก็เลยซื้อหน้ากาก mask กันมาจากสิงคโปร์ เราก็เลยไม่ได้ไปวิ่งหาซื้อที่นี่ ของอะไรที่บ้าน เราก็ไม่ได้ตุน เพราะกระดาษชำระ เราก็สามารถซื้อได้จาก supplier ที่เขาส่งของตามร้านอาหาร ที่ Wollongong มันมีที่ซื้อ เราไม่จำเป็นต้องไปซื้อที่ Coles, Woolworths หรือ Aldi การที่เรา panic มันก็ทำให้ของมันหมดตลาดเฉย ๆ เสร็จแล้วคนก็ share กันตาม social media แล้วมันก็ยิ่งทำให้คน panic กันมากขึ้น เสร็จแล้วของมันก็จะยิ่งขาดตลาดกันมากขึ้น มันก็จะเป็นวงเวียน เป็นวงจรอุบาทว์ หรือบางคนก็ไปขายของเก็งกำไรกันที่ ebay อะไรประมาณนี้ จริง ๆ เราก็ไม่ได้สนใจเรื่อง Covid-19 หรือ Corona virus มาก ที่มาสนใจ เพราะมันมีเรื่องตลาดหุ้นเข้ามายุ่งเกี่ยวด้วย ก็แค่นั้นเอง เพราะตอนนี้หุ้นอยู่ในช่วงขาลง เรามีกำลังซื้อ เรามีเงินเย็น เราก็อยากจะช้อนซื้อเอาไว้ก็แค่นั้นเอง เดี๋ยวเราก็รอดูด้วยว่าราคาของ property มันจะลงด้วยหรือเปล่า ถ้าราคามันลง มันก็เป็นช่วงที่น่าซื้อ เราไม่ได้ทำงานสาย retail สาย hospitality เราก็อาจจะไม่ค่อยกระทบมาก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเรานิ่งดูดาย เรารับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เราไม่จำเป็นต้อง panic เราก็แค่ดูตลาดหุ้น ดูราคาบ้าน ก็แค่นั้นเอง ทุกวิกฤติ มันก็มีโอกาสแหละ ขอเพียงแค่เราไม่เอาเปรียบใคร พวกที่ตุนของเยอะ ๆ แล้วมาขายตาม ebay เป็นอะไรที่น่าเกลียด เพราะพวกเขาฉวยโอกาสอยู่บนความทุกข์ของคนอื่น รู้ตื่น แต่อย่าตระหนก เมื่อเราตระหนก มันก็จะมีพวกฉวยโอกาส ก็แค่นั้นเอง 15/03/2019 |
AuthorJohn Paopeng Archives
October 2024
Categories |