อย่างแรกเลย เราไม่สนับสนุนการทำงานแบบ overwork หรือ workaholic นะครับ...
ปรกติ 10pm เราหัวถึงหมอนแล้ว งานของเราประมาณ 97-98% จะเป็น online application ซึ่งเรา manage และบริหารจัดการเวลาได้ ทำได้จากที่ไหนก็ได้ทั่วโลก ซึ่งบอกเลยว่า "สุข ณ จุดที่เป็น" เราก็จะมีงานแค่ประมาณ 2-3% ที่เป็น paper-based applications ซึ่งต้องมีการเซ็นฟอร์ม แล้วส่ง application ไปทางไปรษณีย์ บาง case ที่ส่งไปที่ Sydney office หลาย ๆ case ก็จะส่งไปที่ Perth office (Family Visas) พอดีวันศุกร์ 15 December 2023 เรามีธุระต้องไป somewhere ตั้งแต่ตี 4; 4am เราก็อยากจะเร่งงานนี้ให้เสร็จ ๆ ไป ไม่เร่งก็ได้ เราไปทำธุระของเราก่อนก็ได้ แต่นั่นหลายถึงการยื่น application ก็ยืดออกไปอีก ซึ่งก็คงไม่ดีแน่ ๆ เลย ทุกสิ่งอย่างที่เกิดขึ้น เราไม่โทษใครทั้งสิ้น เราโทษตัวเองนี่แหละ บางทีรับงานก็คิดว่า "ตัวเองไหว" เราถึงบอกไงว่า "ธุรกิจ ต้องกินแต่พอดีคำ" อ๊ะ.. ไม่ว่ากัน เรียนรู้กันไป anyway... วกมาที่เรื่องนี้ เนื่องด้วยเรามีธุระที่ต้องไป 15 December 2023; 4am แต่เช้าเลย แล้ว 14 December 2023 ก็ดันยุ่งทั้งวัน Child Visa (Subclass 101): x 2 cases นี้ น้องทีมงานเตรียมอะไรไว้หมดแล้ว เราแค่ print เอกสารและฟอร์มออกมา doule check แล้วก็ส่ง post ทางไปรษณีย์ น้องทีมงานทำงานดีมากเลยครับ 110% มันมาช้าที่เรานี่แหละ เพราะต้อง check เองหมดทุกอย่างเลยก่อนยื่น ทุกอย่างต้องผ่านมือเรา ปรกติเราจะส่งเป็น Express Post อยู่แล้ว และจะส่งเป็น "Singnatue on Delivery" ซึ่งต้องไปส่งที่ AustPost; 8:30am - 5:30pm แต่ครั้งนี้คงแค่ไป drop ที่ post box แล้วคอย check tracking number เอา ที่ผ่านมา เอกสารที่ถึงหมด ยังไม่เคยตกหล่น อะไร ใด ๆ กว่าจะได้เริ่มทำ เริ่ม print เริ่ม check ก็ช้า เพราะ 14 December 2023 ก็ยุ่งหัวหมุนมาก โน่นแหละได้เริ่มทำก็ 7pm แล้วมี 2 cases ด้วยนะ พี่กับน้อง paper-based เอกสารทุกอย่างต้องเป็น true certified เดชะบุญ เราเป็น JP ก็เลยรอดไป (JP; Justice of the Peace) เราสามารถเซ็น JP ให้กับลูกค้าได้ เอกสารเยอะ ก็เซ็นเยอะ มันก็ช้าตรงนี้แหละ paper-based application ไม่เหมือน online application ลูกค้าโปรดเข้าใจ (99.99% เข้าในนะครับ ทำงานมา 15 ปี มี "xyz" cases ที่เรา say goodbye) เอกสารเยอะ ก็ต้อง print เยอะ มันก็ช้าตรงนี้แหละ 1 case ก็ประมาณ 3 ชั่วโมงนะครับ กว่าจะเสร็จ ไม่ใช่ง่าย ๆ 3 ชั่วโมง นี่คือทุกอย่างอยู่ในมือเราแล้วนะครับ ไม่รวมอีกหลายชั่วโมง หลาย emails ที่ทีมงานเราต้องติดต่อกับลูกค้าอีก ไม่ง่ายนะครับ บอกเลย ของพวกนี้ อย่าดูแค่ที่ราคา กว่าจะ JP certified เสร็จก็โน่นแหละ 12:30am หลังเที่ยงคืน หลังเที่ยงคืน ขับรถยามวิกาล ออกไป drop เอกสาร ก็ 12:42am เวลา ณ ที่ตู้ Express Post Box ขับรถ ถนนโล่ง อีกหนึ่งประสบการณ์ของชีวิต มันเงียบอะไรเยี่ยงนี้ drop เอกสารลง post box 12:42am (ครั้งเดียวพอนะ จะมีประสบการณ์อะไรแบบนี้ จะไม่ทำร้ายตัวเองแบบนี้อีก) นอกเรื่อง: 1. อาบน้ำ นอน 1am 2. ตั้ง alarm clock เอาไว้ 3am เพราะ 4am ต้องออกแล้ว 3. 2 ชั่วโมง 1am - 3am; 2 ชั่วโมง มันนอนไม่หลับหรอกครับ มันห่วงหน้า พะวงหลัง และมันเลยเวลานอนของเราแล้ว ปรกติเรานอน 10pm พอมานอน 1am มันนอนไม่หลับ ก็ได้หลับตา พลิกตัวไปมา 3am ลุกขึ้นมาอาบน้ำ 4am ก็มีธุระหน้าที่อื่นที่ต้องทำ สรุป 2 ชั่วโมงก็ไม่ได้หลับ แต่ได้เอนตัว เกิดเป็น J ต้องอดทน สิบล้อชนต้องไม่ตาย กราบขอบคุณทุกคนที่ตามอ่านกัน แต่ละคนได้เรียนรู้อะไรบ้างครับ สำหรับเราแล้ว: 1. เราได้เรียนรู้อะไรในการทำงานเยอะ จริง ๆ ก็เรียนรู้อะไรเยอะอยู่แล้ว ทำงานมาตั้ง 15 ปีแล้ว แต่หลาย ๆ อย่างขอ "เก็บเอาไว้ในใจ" แต่ที่แน่ ๆ คือ "สัจจะ" นั้นสำคัญกว่าเงินทอง ถ้ารับงานมาแล้ว รับปากมาแล้ว ก็ต้องทำ กัดฟันแล้วกลืนเลือด เชิดหน้าแล้วยิ้ม ปัญหาอะไร เก็บไว้ในใจ รับรู้และเรียนรู้ว่าจะต้องปรับเปลี่ยนอะไร บอกเล่าเก้าสิบ ชีวิตการทำงานของเราไม่ได้สบายอย่างที่หลาย ๆ คิดนะครับ แล้วคนอ่านหละครับ ได้เรียนรู้อะไรจากความโป๊ะป๊ะของเรามั่ง กราบขอบคุณทุกคนที่ร่วมสนุกใน facebook ส่วนตัว ไม่มีใครตอบถูกเลย... อิ อิ Note: เราเขียนแบบรีบ ๆ ยังไม่ได้ proofread เดี๋ยวกลับมาแก้คำผิด |
AuthorJohn Paopeng Archives
December 2024
Categories |