“เมื่อเอาตัวมาออกสื่อ”
โดยส่วนตัวแล้ว เมื่อเราก้าวเอาตัวมาออกสื่อ เราก็พร้อมรับกับทุกสถานการณ์จ๊ะ รู้สึกเฉย ๆ กับ “haters” They don’t pay my bills. เราเลยจุดนั้นมานานแล้ว ถ้าเรามามัวใส่ใจกับเรื่องพวกนี้ เราก็ไม่ต้องทำหามากินกันพอดี ถ้ากลัวคนวิจารณ์ ก็ไม่ต้องออกจากบ้านจ๊ะ… stay home. คนรักเท่าผืนหนัง คนชังเท่าผืนเสื่อ เราก็เลือกและ concentrate ไปที่คนรักสิจ๊ะ… ง่ายออก ความสุขในชีวิตมันมีแค่นี้จริง ๆ แต่โดยส่วนแล้ว เราได้อะไรมากกว่าที่เสีย ดังนั้นเราก็เดินหน้าต่อไปสิจ๊ะ อย่าให้มดตัวเล็ก ๆ มาดับฝันเราได้ เดินข้ามมดตัวนั้นไป เพราะเรามีฝันและเป้าหมายที่ใหญ่กว่า ที่ยิ่งใหญ่กว่า รู้สึกขอบคุณกับคนที่วิพากวิจารณ์ หวังร้าย กล่าวร้าย เพราะมันก็เหมือนเป็นกระจกเงาสะท้อนให้เรา มันทำให้เราได้ปรับปรุงตัวเราเองด้วย เพราะชีวิตคนเรามันก็ต้องมีการพัฒนาขึ้นไปเรื่อย ๆ ในทางที่ดี ในทางที่สร้างสรรค์ ไม่งั้นชีวิตคนเรามันก็ไม่ก้าวหน้า เราก็ห้ามใคร อะไร ไม่ได้ เพราะทุกคนมองโลกจากมุมที่แตกต่าง เขาก็มองโลกผ่านสายตาและประสบการณ์ของพวกเขา เราก็มองโลกผ่านสายตาและประสบการณ์ของเรา บางทีเราก็ต้องมองพวกเขาด้วยความเมตตา บางทีเราก็ต้องคิดว่า ชีวิตเขาคงผ่านอะไรมาเยอะ เขาถึงมีความคิดอะไรแบบนั้น เราก็ต้องเมตตาเขา อะไรประมาณเนี๊ยะ มันก็จบ เมตตาธรรมค้ำจุนโลก ขอให้ทุกคนรักกัน มองโลกจากมุมมองของความเมตตา ให้อภัย ไม่คิดทำร้ายกัน |
AuthorJohn Paopeng Archives
December 2024
Categories |