เมื่อมีวิกฤติ มันก็ทำให้เรารู้ภาวะการเป็นผู้นำของใครหลาย ๆ คนนั้นมันเป็นอย่างไร วิกฤตินี่แหละคือบททดสอบภาวะการเป็นผู้นำหลาย ๆ คน ผู้นำที่ดีต้องมีการตัดสินใจที่เฉียบขาด รวดเร็วกับสถานการณ์
เราคิดว่าผู้นำหลาย ๆ คนก็คงอยากจะทำอะไรเพื่อส่วนรวมแหละ เป็นคนดี ความคิดดี แต่ขาดไหวพริบ ความรู้ หรือศักยภาพ องค์กรนั้น ๆ ก็อาจพังพินาศได้ ไม่ว่าองค์กรจะเล็กหรือใหญ่ขนาดไหน ในยามที่สถานการณ์อะไรต่าง ๆ สงบ ทุกอย่างดูเรียบง่าย เราอาจจะไม่รู้เลยว่า ผู้นำคนนั้น “ของจริงหรือของปลอม” จนกระทั่งองค์กรนั้น ๆ เจอกับวิกฤติ เมื่อนั้นแหละ มันคือบททดสอบที่ดีว่าผู้นำคนนี้สอบผ่านหรือสอบตก ผู้นำที่ดีควรต้องผ่านการคัดกรองและเลือกเฟ้นจากคณะกรรมการที่มีความรู้ความสามารถ ไม่ใช่ผู้นำที่อาสาตัวเองขึ้นมาเป็น เพราะเขาคนนั้นอาจจะมองไม่เห็นจุดบอด จุดบกพร่องของตนเองก็เป็นได้ อัตตาและความทะเยอทะยานของคนเรา ใหญ่กว่าตัวเราเสมอ อัตตาเยอะ ความทะเยอทะยานก็เยอะ ก็อาจจะนำพาตัวเองและองค์กรนั้น ๆ ดิ่งลงเหวได้ มารู้ตัวอีกทีคือทุกอย่างพังพินาศหมดแล้ว ยากที่เกินจะเยียวยา ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ทุกสิ่งอย่างไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ทุกสิ่งอย่างมีเหตุและผลของมัน ทุกสิ่งอย่างคือบททดสอบ วิกฤติเองก็คือบททดสอบของภาวะการเป็นผู้นำของใครหลาย ๆ คน ส่วนวิกฤติจะมากน้อยแค่ไหน ความเสียหายจะมากน้อยแค่ไหน ก็ต้องแล้วแต่ความรุนแรงของวิกฤติและสถานการณ์นั้น ๆ ก็เอาเป็นว่าทุกสิ่งอย่างที่เกิดขึ้นนั้น มันมีเหตุและผลของมัน ทุกการกระทำของเรา ทุกการตัดสินของเรามีผลต่อชีวิตของเราเสมอ จะยังไงก็ตามแต่ อย่าลืมถามตัวเองว่า ถ้าหากเราเป็นเขา เราจะจัดการสถานการณ์แบบนี้ยังไง |
AuthorJohn Paopeng Archives
December 2024
Categories |