ชีวิต กว่าจะมาถึงจุดนี้... ไม่ง่าย
ผลของการทำงานหนัก ผลการของทุ่มเท คุ้มค่าเสมอ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเราทำงานหนักแค่ไหน คน ๆ ก็เห็นกันอยู่ เราทำร้อยแปดพันอย่าง ทำทุกอย่างที่สุจริตและไม่เบียดเบียนใคร (แต่ถ้าฟาดมา ก็ฟาดกลับเด้อ แฟร์ ๆ) ชีวิตที่ดี ไม่จำเป็นต้องมีเงินทองเยอะ เราไม่ได้เติบโตมาจากครอบครัวที่ร่ำรวย ปากก็ต้องกัด ตีนก็ต้องถีบ ใช้ความรู้ความสามารถ สมองและสองมือที่มี เราบอกทุกคนรอบข้างเสมอ "การศึกษา" สำคัญ อย่าทิ้งการศึกษา การศึกษาคือใบเบิกทางทุกอย่าง ในฐานะที่เป็นอาจารย์สอนหนังสือด้วย เราก็บอกลูกศิษย์เราที่โรงเรียนเสมอว่า "เนี๋ยะ I เป็น ESL person, I ยังทำได้ พวก you เกิดที่นี่ โตที่นี่ พูดภาษา native พวก you ต้องทำได้" ESL = English as a Second Langauage แต่... anyway.. เราก็พูดเฉพาะกับเด็ก top class ของเราแหละ คุยกันรู้เรื่องหน่อย mindset เดียวกัน การไม่มีหนี้ การเป็น debt free ชีวิตมันดีมาก มันจะทำอะไรก็คล่อง แต่ทุกอย่างไม่ได้มาง่าย ๆ เงินทองไม่ได้หล่นมาจากฟากฟ้า มันผ่านการเรียนรู้ ผ่านการศึกษาหาความรู้ 1. อยากมีอาชีพที่มั่นคง ต้องมีการศึกษาที่ดีด้วยครับ ใช่ว่าทุกคนสามารถเป็น Bill Gates เป็น Steve Jobs ที่เป็น school drop out แล้ว success. มันมีครับ แต่มีน้อยมากถึงมากที่สุด ดังนั้นอย่าทิ้งการเรียนนะครับ จะจบช้าจบเรียน ก็ควรเรียน ก็ควรมีวุฒิการศึกษา 2. ความรู้ความสามารถที่เรามี เราต้อง specialise in something ครับ ไม่ใช่อะไรก็ generalise ไปซะหมด เก่งอะไรก็ได้ เก่งแค่อย่างเดียวพอ ไม่ต้องเก่งหลายอย่าง อย่าเป็น Jack of all trades, master of none. อย่าเป็นเป็ด ที่ว่ายน้ำก็ได้ แต่ว่ายไม่เก่ง บินก็ได้ แต่บินได้ไม่ไกล Note: ผู้ปกครองไม่ควรส่งลูกไปเรียนพิเศษวิชาที่ลูก ๆ อ่อน แต่ตรงกันข้าม ผู้ปกครองควรส่งเสริมเขาในด้านที่เราแกร่งหรือเก่งมากกว่า เก่งไปเลยอย่างเดียว เอาให้เด่นไปเลย อันนี้พูดในฐานะอาจารย์สอนหนังสือ และคุณพ่อลูกสอง 3. อ่านหนังสือเรื่องการเงิน (personal finance) และเรื่องการทำธุรกิจ เวลาเดินเข้าร้านหนังสือ เดินเข้าไปที่หมวดธุรกิจเลยครับ เลิกเสพสื่อ social ไร้สาระ เลิกดูข่าว เลิกดู TV มันมีแต่เรื่องไร้สาระ เอาเวลามาอ่านหนังสือเพิ่มหยักในสมองดีกว่า เราเลิกดูข่าว เลิกดู TV มาตั้งแต่ 2010 แล้ว 12 ปีผ่านไป ก็ยังมีชีวิตรอดอยู่ครับ ยังไม่ตาย!!! Ignorance is a bliss (sometimes). หนังสือ 3 เล่มที่เราแนะนำ: - The Richest Man in Babylon; ว่าด้วยเรื่องการเก็บออมเงิน ได้เงินมา 10 บาท เราจะแบ่งออกเป็นกี่ส่วน ต่าง ๆ นานา เล่มนี้ดีมาก ถึงมากที่สุด - Retire Young, Retire Rich; ทุกอย่างที่เรามีได้วันนี้ มาจาก Robert Kiyosaki. เราเคยเห็นตัวเป็น ๆ เขาแล้วเมื่อปี 2001 ที่ Sydney ถ้าหากไม่ได้อ่านหนังสือของ Robert Kiyosaki ป่านนี้เราก็ยังคงเป็นลูกจ้าง เป็น programmer อยู่ เข้า step ชีวิตของคนทั่ว ๆ ไปคือ เรียนจบมาแล้วก็ทำงาน จบ!!! - 4-Hour Work Week; ของ Tim Ferris เล่มนี้เปลี่ยนวิธีการทำงานของเรา เราอ่านเล่มนี้ แล้วเลิกดูข่าว เลิกดู TV ชีวิตเรามีเวลาเพิ่มขึ้นมาทันที เราเวลาที่เหลือไปทำอย่างอื่นได้ ก็เอาเวลาที่เหลือไปอ่านหนังสือต่าง ๆ นานาไง (DEAR; Drop Everthing And Read) 3 เล่ม เอาอยู่ หนังสือที่เหลือที่ออก ๆ กันมา ก็ based on 3 เล่มนี้แหละ Pual อะไรซักอย่าง ที่เป็นพิธีกรและนักแสดงคนไทย ตอนนี้ออกมาทำ YouTube ให้ความรู้เรื่องการเงิน ออกมาทำ MLM จนรวย ก็เพราะได้แนวคิดจาก Robert Kiyosaki แหละ งั้นเราเรียนรู้จากต้นตำหรับเลยจะไม่ดีกว่าเหรอ Barefoot Investor; ก็คล้ายกับ The Richest Man in Babylon.... งั้นเราก็เรียนรู้จากต้นตำหรับเลยไม่ดีกว่าเหรอ ที่เขียนมาทั้งหมดแค่อยากจะบอกว่า "ทุกอย่างมันทำได้" ตัวอย่างมีให้เห็น อย่าดูแคลนศักยภาพของตัวเราเอง ฝันให้ไกล แล้วไปให้ถึง ทำได้หรือไม่ได้ ไม่เป็นไร อย่างน้อยก็ได้ทำ อย่าเป็นคนอะไรนาน คิดแล้วทำ ทำทันที ล้ม ลุก เรียนรู้ ทุกอย่างที่เกิดขึ้น "ดี" เสมอ เราแชร์ เราโพสต์ ทุกอย่างเป็นวิทยาทาน ทุกคนก็สามารถ adapt และ adopt นำเอาไปใช้ได้ เราไม่ได้เกิดมาบนกองเงินกองทอง ถ้าเราทำได้ ทุกคนก็ทำได้นะครับ เป็นกำลังใจให้กันและกัน |
AuthorJohn Paopeng Archives
September 2024
Categories |