ในวันที่เรา "ไม่มี"
ในวันที่เราเพิ่งเริ่มต้นทำธุรกิจ "J Migration Team"; 2008 ปี 2008, เรายังไม่มีประสบการณ์ ยังไม่ pro ค่าบริการเราก็ยังจะน๊อมแน๊มอยู่ Subclass 457; Stage 1-2-3 อยู่ที่ $2,500.00 ต่อ case ทำกัน 2 คนผัวเมีย ก็ตกคนละประมาณ $1,250 ถูกมากถึงมากที่สุด และเคยทำ $2,500.00 ต่อ 1 case หนึ่งครอบครัวที่มี พ่อ + แม่ + ลูก 3 คน รวมกันเป็น 5 คน ตกคนละ $500 มาแล้ว นี่คือวีซ่า subclass 457 นี่คือวีซ่าทำงานที่มีนายจ้างสปอนเซอร์สมัยนั้น เราคิดถูกมาก ถึงมากที่สุด มันยังเป็นช่วงหาประสบการณ์ หาลูกค้า พอเจอ 5 คน, $2,500.00 เราก็เลยต้องเปลี่ยนวิธีการคำนวณค่าบริการของเรา คิดเป็นต่อหัวแทน คือคนสมัครหลัก + คนติดตาม คิดลดหลั่นกันมา ไม่งั้นมันก็ไม่คุ้ม เพราะบาง case ก็มีสมาชิกในครอบครัวเยอะจริง ๆ แล้ว subclass 457 มันก็มีหลาย stage มาก ตอนนั้นยังทำทุกอย่างคนเดียว ยังไม่มีทีมงาน ทำวีซ่าทำงานที่มีนายจ้างสปอนเซอร์; subclass 457 เราก็ต้องการเอกสารจากนายจ้างด้วย นั่นคือใบจดทะเบียนการค้าของบริษัท ถ้าเป็น ASIC Company Extract ก็จะ $17 ถ้าเป็น Business Name Registration ก็ $18 อย่างที่เห็น ก็อาจจะมีบาง case ที่ลูกค้ายังไม่ได้ส่ง ASIC Company Extract มาให้ ครั้นเราจะรอ เรื่องก็จะช้าอีก เราก็เลยต้องเข้าไปที่ ASIC website แล้วซื้อ ASIC Company Extract ให้ลูกค้า; $17.00 วันนั้นเรายังจำขึ้นใจไม่เคยลืม ถึงแม้มันจะผ่านมาแล้วหลายปีก็ตาม เราต้องรูดบัตรซื้อ ASIC Company Extract; $17 เพื่อที่จะทำ case ต่อ จริง ๆ ลูกค้าต้อง supply เอกสารตัวนี้ แต่ก็อย่างที่บอก บางทีลูกค้าก็ช้า เราก็ไม่อยากรอ ก็เลยต้องซื้อเอง พอซื้อเสร็จ $17 เอาจริง ๆ นะ $17 สำหรับเรามันเยอะมาก ที่เราต้องมารับภาระจ่ายให้กับลูกค้า สมับก่อน ช่วง 2008 - 2010 เดือนหนึ่งได้ทำ 1 case ก็ดีใจแล้วครับ คนที่ "ไม่มี" มันก็คือ "ไม่มี" จริง ๆ ครับ เพราะที่บ้านที่เมืองไทย คุณอาบอกว่า "จบ ป.ตรีแล้วห้ามแบมือขอ" คุณอาเนี๊ยะคือ ATM ของเราเลยนะตั้งแต่เด็ก คุณอาพูดมาแบบนี้คือ "จบ" ประโยคเดียวแต่ได้ใจความ Note: เรากับน้องสาวเติบโตมาจากการดูแลของคุณอากับคุญย่าครับ ไม่ได้เป็นลูกกำพร้า แต่อากับย่าอยากเอามาเลี้ยงเอง (เคยเขียน blog ไปแล้ว) วันนั้นจำได้ไม่เคยลืม รูดบัตรจ่าย $17 ค่า ASIC ให้ลูกค้า 2 จิต 2 ใจว่าจะ pass it on ให้ลูกค้าจ่าย $17 ตรงนี้หรือเปล่า หรือเราจะ absorb ค่าตรงนี้เอง $17 เอง $17 ตอนนั้นมันเยอะมากนะสำหรับเรา ตอนนี้ก็ยังเยอะ แต่เราก็คิดค่าบริการที่แตกต่างจากเมื่อ 2008 - 2010 วันนั้น คิดหนัก จำได้ขึ้นใจ และเราก็ตัดสินใจถูกที่ไม่ pass it on ไปให้ลูกค้า ทำงานด้วยใจ เล็ก ๆ น้อย ๆ เราไม่เคยไป charge เพิ่ม ตอนนั้นลูกค้ายังน้อยอยู่ ดูแลได้ทั่วถึง ทุกวันนี้เวลารูดบัตรจ่ายค่า ASIC ให้กับลูกค้า เราก็ยังนึกถึงวันนั้นเสมอ จากวันนั้น จนมาถึงวันนี้ เรามาไกลนัก ทุกคนจะเห็นเฉพาะตอนที่เราอยู่บนที่สูง แต่ตอนที่เราไต่ต้าวคนจะไม่ค่อยเห็น ทุกคนจะเข้าหาตอนที่เราเป็นที่รู้จักแล้ว เราก็พยายาม grounded พยายาม humble ใช้ชีวิตอยู่แบบปรกติสุข ไม่ไปสุงสิงอะไรกับใคร เพราะในวันที่เรา "ไม่มี" มันก็ไม่มีใครหรอกที่ยื่นมือเข้ามาช่วย เราต้องช่วยเหลือตัวเอง ณ วันนี้เราอาจจะไม่ได้ "มี" มาก ถ้าพอมีบ้าง เราก็พยายามช่วยเหลือแบ่งปัน อย่างที่ทุก ๆ เห็นเวลาเราโพสต์ นั่น นี่ โน่น เพราะเรารู้ดีว่าในวันที่เรา "ไม่มี" มันลำบากมาก ในวันที่เริ่มต้นทำอะไรมันลำบากมาก ณ วันที่เขียน blog นี้ (Friday; 01 July 2022) เราต้องรูดบัตรซื้อ ASIC ให้ลูกค้าพอดี ก็เลยต้องเขียนบันทึกเอาไว้เป็นความทรงจำซักหน่อย จริง ๆ ความทรงจำ ณ วันนั้นมันไม่มีวันลืมหรอก ก็แค่อยากเขียนให้คนได้อ่าน ก็แค่อยากให้คนได้รู้ว่า กว่าเราจะมาถึงจุดนี้ได้ (debt free) มันไม่ได้ง่ายเลย หากเราทำได้ คนอื่นก็ทำได้ เป็นกำลังใจให้กับทุกคนเสมอ โดยเฉพาะ inner circle ทั้งหลาย.... you know who you are... ...รัก... 01/07/2022 |
AuthorJohn Paopeng Archives
August 2023
Categories |