เมื่อ daddy ต้องแชร์รถกับลูกชาย
ให้เราก็ set radio station เอาไว้ station หนึ่ง ฟังสบาย ๆ ส่วนลูกชาย เวลาเอารถไปขับ เขาก็ set radio station ไปอีก station หนึ่ง ก็ต้องเปลี่ยนกันไปมา จริง ๆ แล้วช่วง weekend เหมือน daddy โดนยึดรถไปแล้วเรียบร้อย ลูกชายก็จะมีธุระไปนั่น นี่ โน่น ตลอด... ซึ่งก็ดีแล้ว เราก็ encourage ให้เขาไปใช้ชีวิต ตอนนี้แค่รอย้ายบ้าน เพิ่งได้ furniture ครบเมื่อวาน; 17/06/2024 Daddy ก็คงจะซื้อรถใหม่ ส่วนคันนี้ก็คงยกให้เขา ให้เขาขับคันนี้ไปก่อน รอเรียนจบปีหน้าค่อยว่ากัน ลูกลิงของ daddy ตอนนี้ไม่ใช่ "ลูกลิง" แล้ว เรียนปี 3 แล้ว ปีหน้าจบ #ฉันรักเขา ลูกลิงตัวโตสอบใบขับขี่ผ่านแล้ว ในที่สุด
He ก็อยากจะสอบให้ผ่านเร็ว ๆ แหละ แต่การเรียนก็ต้องมาก่อน และ 2 ปีที่ผ่านมา ครอบครัวก็โดนอะไรกันเยอะ ก็เลยไม่ค่อยมีเวลากัน เราก็อยากให้ลูกสอบผ่านแหละ เราก็ไม่ไหวกับการเป็นพลขับเหมือนกัน เราจะได้มีเวลาเป็นของตัวเองบ้าง 1. รถเราก็คงโอนเป็นชื่อลูกลิง แต่ยังคงเป็น family car ที่ทุกคนใช้ร่วมกัน เพราะมันคือเงิน daddy ที่ซื้อมา 2. ที่โอนเป็นชื่อลูกลิงเพราะ - เวลาขับรถฝ่าไฟแดง หรือ speed camera ลูกลิงต้องรับผิดชอบเอง - ต่อ rego เอง เงินที่ daddy ให้ $100/week (เยอะมาก... oops!!!) นั่นแหละ + เงินที่เขาเป็น tutor เก็บหอมรอมริบเอา เพราะ daddy จ่ายค่าเช่าบ้านใน Sydney ให้แล้ว 3. Daddy ก็คงจะซื้อรถใหม่ EV อันนี้ลูกลิงขับไม่ได้ เพราะรถ daddy แทบจะไม่มี scratch เลย เห็นนิสัยการขับรถของ he ละ ไม่ไว้ใจ!!! 4. ลูกลิงเอาไปขับแถว ๆ UNSW ได้ แต่เราไม่ให้เข้าแถว ๆ China Town... คนขับแถวนั้น "ส่วนมาก" rude (ไม่ทุกคน) 5. เลิกเรียนมาจาก UNSW ลูกลิงกลับถึงบ้านวันศุกร์ เอาละ ทานข้าวเสร็จก็ต้องมีออกไปกับเพื่อนบ้าน นั่น นี่ โ่น่น daddy ไม่มีปัญหา เพราะลูกลิงโตแล้ว เราปล่อยให้เขาเป็นอิสระ ให้เขาออกไปใช้ชีวิต แต่แม่เขาก็ห่วง ๆ หน่อย เพราะขับรถกลางคืน แม่เขาอยากให้แรก ๆ ก็ขับเฉพาะกลางวันก่อน เรากับภรรยาก็ตกลงกันเอาไว้แล้ว เวลาเลี้ยงลูก ถ้าลูกขออะไร ถ้าคนหนึ่งได้อนุญาตไปแล้ว อีกคนจะมา say "no" ทีหลังไม่ได้ พ่อกับแม่ต้องคุยกันก่อน เผอิญว่าอันนี้ลูกลิงขออนุญาตเราแล้ว และเราก็คิดว่าลูกลิงโตแล้ว ปล่อยเขาเถอะ เราคิดว่าเขาดูแลตัวเองได้ แต่ห้าม "ดื่ม" ของมึนเมาแค่นั้นเอง และออกไปข้างนอกต้องเอากุญแจบ้านไปด้วย ห้ามมาเคาะประตู อะไรประมาณนี้ ส่วนบ้านใหม่ที่พวกเรากำลังจะย้าย ลูกลิงก็มีทางเข้าส่วนตัวด้านล่างอยู่แล้ว ไม่ต้องใช้ทางเข้าร่วมกับคนอื่นก็ได้ อะไร ใด ๆ มันคือ "part of growing up" Insurance ของเราเป็น comprehensive และ cover คนขับ 3 คน; เรา ภรรยา และลูกลิง ตอนนี้ลูกลิงก็ใช้คันนี้ไปก่อน รับมรดก daddy ไปก่อน คันนี้ก็ซื้อมามือหนึ่ง เราขับมายังไม่มีรอยขูดขีดที่เกิดจากเรา ทุกคนจะรู้ดีว่าหวงรถและค่อนข้างดูแลรถดี เดี๋ยวรอลูกลิงเรียนจบ ค่อยว่ากัน ถ้าเราจะซื้อให้เป็นของขวัญ อะไรก็ว่าไป หลาย ๆ คนอาจจะบอกว่า เดี๋ยวก่อนนะ ถึงขั้นต้องซื้อรถใหม่ให้ลูกเลยเหรอ hmmm... ใช่ครับ เรารักของเราแบบนี้ ครอบครัวไหน เลี้ยงลูกแบบไหน นั่นคือปัญหาของเขา ไม่ใช่ปัญหาของเรา ส่วนของเรา เราก็สะดวกแบบนี้ ครอบครัวเราผ่านการสูญเสียมาก่อน ทุกวันนี้พวกเราจับมือกันไว้แน่น ๆ อยู่กันด้วยความรัก ไม่มีอะไรที่ต้องทะเลาะกันเลย ถ้าหลานชายเรายังอยู่ เราก็จะซื้อให้หลานเราเหมือนกัน แต่เมืองไทยก็น่าจะเป็นมือสอง เพราะราคารถที่โน่นจะแพงกว่าที่นี่ เราบอกลูกลิงทั้ง 2 เสมอว่า ถ้าลูกลิงได้อะไร (วัตถุ สิ่งของ) หลานชายเราที่เมืองไทยก็ต้องได้สิ่งนั้นด้วย เราเลี้ยงกันมา เหมือนเรามีลูก 3 คน ภรรยาเราก็รักหลานคนนี้มาก เพราะอายุไล่เลี่ยกันกับลูกชายเรา โตมาด้วยกันกับลูกลิง สิ่งที่เป็นห่วงคือเรื่องอุบัติเหตุ แต่ก็นั่นแหละ เราก็คิดว่าลูกลิงค่อนข้างเป็นคนที่ reasonable อยู่แล้ว คงจะทำอะไรด้วยสติ อย่างน้อยก็ "เหล็กหุ้มเนื้อ" ลูกลิงก็ค่อย ๆ ออกไปสยายปีกของเขา เดี๋ยว mummy and daddy ก็จะพากันไปเป็น "ผีตองเหลือง" แล้ว จะไปใช้ชีวิตพเนจรบ้าง ค่ำไหนนอนนั่นบ้าง มันคงจะมีความสุขดี หรือเมืองไทยบ้าง สิงคโปรร์บ้าง ออสเตรเลียบ้าง มันคงจะมีความสุขดีนะ เขียนเรื่องลูก มาจบที่เรื่องของตัวเองได้ไงเนี่ยะ อะไร ใด ๆ จบไปแล้วเรื่องหนึ่ง เรื่องการขับรถของลูกลิง daddy ก็ไม่ต้องคอยรับส่งแล้ว ย้ายบ้านเสร็จ เราก็คงซื้อรถใหม่ของเรา ลูกลิงก็น่าจะเอาคันนี้ไปขับใน Sydney เติมน้ำมันเองนะครับลูก แต่ daddy จะจ่ายค่า service ให้ทุก ๆ 6 เดือน มันคือ part of growing มันคือสิ่งเล็ก ๆ ที่เรียกว่า "รัก" บันทึกเอาไว้เป็นความทรงจำ เมื่อวันหนึ่งเราและลูก ๆ จะกลับมาอ่านด้วยกัน (ลูกลิงอ่านภาษาไทยไม่ได้) 02 March 2024 ณ วันที่เขียน blog อยู่นี้; 10 December 2023
ลูกลิงตัวโตอยู่ที่สิงคโปร์แล้วครับ ลูกลิงสอบเสร็จแล้วตั้งแต่ปลายเดือนที่แล้ว ลูกลิงก็เลยไปเที่ยวสิงคโปร์กับเพื่อนก่อน เราเสนอ idea นี้กับลูกเมื่อหลายเดือนก่อนว่า ถ้าลูกลิงตัวโตสอบเสร็จก่อน ก็ลองชวนเพื่อน ๆ ที่สนิทกันไปเที่ยวสิงคโปร์สิ เพราะปรกติ Uni ก็สอบเสร็จกันปลาย ๆ November อยู่แล้ว เพราะถ้าเพื่อน ๆ ลูกลิงไปเที่ยวสิงคโปร์กับลูกลิง เพื่อน ๆ ก็ไม่ต้องไปเสียค่าที่พักที่โรงแรม ก็ไปพักที่บ้านเราได้ เพราะบ้านเราที่สิงคโปร์ทุกวันนี้ ไม่ได้ปล่อยให้คนเช่าแล้ว ลูกลิงก็เลยเดินทางก่อน + เพื่อนจาก UOW อีก 2 คน ลูกลิงไปกับเพื่อน ๆ ไปกัน 12 วัน 12 วัน ไม่ต้องพักที่โรงแรม พักที่บ้านเราได้เลย มี 2 ห้องนอน และติดแอร์ทั้งหลัง ประหยัดค่าโรงแรมไปได้เยอะ ภรรยากับลูกลิงตัวเล็กเดี๋ยวตามไปทีหลัง เพราะคนเล็กยังไม่ปิดเทอม ลูกลิงคนโต เพิ่งจบ year 2 ที่ UNSW แต่ยังอยู่ในวัย teen อยู่นะครับ เราปล่อยให้ไปไหนมาไหนเองได้ บิน domestic หนะ ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่บิน international เองกับเพื่อน ๆ ไม่มีพ่อกับแม่ไปด้วย ทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี ลูกลิงถือ 3 สัญชาติอยู่แล้ว; Thai, Ausrtralian and Singaporean ดังนั้นการเข้าออกประเทศต่าง ๆ ก็ไม่มีปัญหาอะไร ลูกลิงก็อยู่ที่บ้าน + เพื่อนอีก 2 คน โต ๆ กันแล้ว อยู่กันเองได้ 3 คน เพราะสิงคโปร์ของกินสะดวกสบาย เดินทางสะดวกสบาย คนพูดภาษาอังกฤษได้ (ส่วนมาก) คุณยายก็แอบมาดูบ้าง ถ้าหลงทาง ก็ WhatsApp หาคุณน้าเขาบ้าง ก็แค่นั้นเอง daddy กับ mummy ก็คอย WhatsApp ตอนเย็น ๆ แต่จะไม่จู้จี้ คิดว่าลูกเอาตัวรอดได้ ฉุกเฉินอะไร เขาจะ WhatsApp หาแม่เขาเอง บ้านที่สิงคโปร์เราไม่ได้ปล่อยให้คนเช่ามาหลายปีแล้ว แม่ของภรรยาเราก็มาอยู่ทุกวันอาทิตย์ เป็นที่หลบหนีความวุ่นวาย เป็นที่เล่นไฟ่นกกระจอกของเขา บ้านที่สิงคโปร์ของเราไม่ติด mortgage แล้ว ไม่มี home loan แล้ว พวกเราก็เลยไม่ได้ซีเรียสอะไรมาก ก็ให้แม่ของภรรยามาพักทุก ๆ วันอาทิตย์ ก็เลยประจวบเหมาะให้ลูกลิงกับเพื่อน ๆ เขาไปพักกันช่วงปิดเทอม หรือว่าเป็นการเปิดหูเปิดตาให้กับเด็ก ๆ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า 12 วันลูกลิงกับเพื่อน ๆ เขาจะไปกันโต๋เต๋ที่ไหนบ้าง สิงคโปร์มันก็เกาะเล็ก ๆ เหมือนเกาะภูเก็ต จากทิศเหนือไปทิศใต้ก็ 45 นาที จากทิศตะวันออกไปทิศตะวันตกก็ 45 นาที แต่เราก็คิดว่าเป็นโอกาสดีของเพื่อน ๆ ลูกลิง เพราะไปพักได้เลยฟรี ก็เป็นประสบการณ์ให้กับเด็ก ๆ เขา เมื่อลูกโตแล้ว เข้ามหาลัยแล้ว เราก็สบายแล้วครับ แต่ถ้าลูกเดินทางเองกับเพื่อนแบบนี้ ลูกก็ต้องซื้อตั๋วเอง จัดการทุกอย่างเองกับเพื่อนของเขา ขาไป แต่ขากลับ พวกเราก็กลับด้วยกัน อันนี้เราก็จ่ายให้ทั้งครอบครัว ตอนไป ทุกคนแยกไปใครมัน แล้วแต่ตารางความสะดวกของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่ขากลับพวกเรากลับพร้อมกัน เราก็อยากให้ลูกออกไปใช้ชีวิตให้คุ้ม บริหารจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายระหว่าง trip เอง ของที่สิงคโปร์ก็ไม่ได้แพงอะไร เราก็คิดว่าลูกลิงจัดการชีวิตของเขาเองได้ หรือจะข้ามไป Malaysia ก็ทำได้ ก็นั่งรถบัสไปได้เลย แสนจะสบาย อะไร ใด ๆ คนเป็นพ่อเป็นแม่ เราก็อยากให้ลูกเราออกไปใช้ชีวิตครับ สนุกกับชีวิตให้เต็มที่ เก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้เต็มที่ เดี๋ยวเปิดเทอมก็ต้องเรียนหนักกันอีก เพื่อน ๆ ของลูกลิงเป็นเด็กเรียนทั้งนั้น เราไม่เป็นห่วง ปีที่แล้วลูกลิงติด Dean List ของ Engineering ปีนี้ก็รอดูผลสอบเทอมสุดท้ายว่าจะติด Dean List หรือเปล่า แต่เราก็เฉย ๆ กับ Dean List แล้วหละ ตอนนี้เราก็แอบ ๆ เชียร์ให้เขาไป exchange program ที่ไหนก็ได้ซัก 1 ปี จะไปประเทศจีน หรือญี่ปุ่นก็ได้หมด ไปใช้ชีวิตเรียนที่ต่างประเทศสัก 1 ปี เราก็บอกลูกเอาไว้ว่า daddy พร้อม support เต็มที่ เราอยากให้ลูกลิงได้ไปสัมผัสการเป็นใช้ชีวิตต่างแดนบ้างสัก 1 ปีก็ยังดี หรือขี้เหล่สุดก็ซัก 1 เทอมก็ได้ แต่เท่าที่เราพูดไป ลูกลิงก็เฉย ๆ นะ เข้าหูซ้าย ออกหูขวา... ไอ้เราก็อยากให้ลูกไปเหลือเกิน... ลูกก็ไปโครงการแลกเปลี่ยนไง daddy กับ mummy ก็จะตามไปเที่ยว... oops!!! ...ไปใช้ชีวิตซะ... เขียนไว้ให้ลูกอ่าน วันหนึ่งเราจะกลับมาอ่านด้วยกัน (ลูกลิง พูด-อ่าน-เขียนภาษาไทยไม่ไ่ด้) 10/12/2023 Mission accomplished
1 week เต็ม ๆ กับ trip นี้; Monday - Sunday ลงสนามแข่งตั้งแต่วันจันทร์ - เสาร์ วันอาทิตย์ได้เดินเที่ยวเล่นบ้าง แต่ก็จะบินกลับวันนี้ (01 Oct 2023; 5pm) ถือว่าเป็น trip ที่ successful สำหรับลูกลิงตัวเล็ก ที่สำคัญคือได้ประสบการณ์แหละ การแข่งขัน Brisbane International Contemporary Dance Prix ใช่ว่าทุกคนจะสมัครได้เลย มันต้องมีการ audition (video clips) audition ผ่านถึงจะได้ลงแข่ง ลงแข่งคือทุกคนเริ่มจาก 0 ใหม่หมดเลยจากวันจันทร์ เขาไม่ได้ใช้ dance ที่ซ้อมกันมาทั้งปี ทุกคนเข้า class เรียนวันจันทร์-พฤหัส เมื่อเรียนรู้ท่าใหม่ ๆ และการแข่งขันสนามนี้ ต้องมีการ create ท่า dance ของตัวเองด้วย (choregraphy) และการให้คะแนนก็เริ่มตั้งแต่นักเรียนทุกคนก้าวเข้าห้องเรียนแล้ว เขาก็ดูความตั้งใจของแต่ละคนด้วย การแข่งขันก็มี 2 dances คือ: - professional dancers มาสอน choregraphy แล้วทุกคนก็ dance ท่านั้น ๆ ตาม - ทุกคน create ท่า dance ของตัวเอง มี 4 เพลงให้เลือก ลูกลิงแข่งรุ่น junior มีคนเข้าแข่งขันทั้งหมด 43 คน 1. มี offer จาก QBA; Queensland Ballet Academy 2. มี offer จาก Sydney dance company 3. หาผู้เข้ารอบ finalist ชิงเงินรางวัล จาก 43 คน: 1. ลูกลิงคือ 1 ใน 14 คนที่ถูก interview กับ Queensland Ballet Academy แล้วจาก 14 คนก็จะถูกคัดเลือกให้เหลือแค่ 2 คนที่ได้ scholarship ให้มาเรียนฟรี ๆ ที่ QBA เป็นเวลา 2 weeks, ลูกลิงคือ 1 ในนั้น 2. ลุกลิงคือ 1 ใน 10 คนที่ถูก interview จาก Sydney dance company, ลูกลิงไม่ได้ offical offer แต่ได้เป็นแค่ verbally offer ว่าถ้าจะมาเรียน 1 week (free) ที่ Sydney dance company (ตรง Opera House) ก็ให้ email หาเขา 3. ลูกลิงไม่ได้ติด 10 finalists แต่ได้ offer จาก 2 ที่ นี่ก็ถือว่าดีแล้ว ถือว่า "mission accomplished" แล้วจริง ๆ ก็เป็นหนึ่ง trip ที่มีความสุขกันถ้วนหน้า (และแพงมาก) ลูกลิงตัวโตเสร็จ lecture วันศุกร์ ก็บินมาสมทบ คนเป็นพ่อเป็นแม่ ก็ต้องทำทุกอย่างเพื่อลูกแหละครับ เห็นลูกเรา happy ก็มีความสุข และที่สำคัญคือลูกเรา "appreciate" กับทุกสิ่งอย่างที่พวกเราทำเพื่อเขา เมื่อคืน นั่งทานข้าวกัน เขาก็ "ขอบคุณ" ที่เรามาเขามาแข่งที่นี่ ที่เขียนมาทั้งหมด ก็แค่อยากจะบันทึกเรื่องราวของชีวิตของลูก ๆ ทั้ง 2 ณ ตอนนี้ที่เขายังอยู่กับเรา ในวันที่เขาสลายปีกบิน เราก็จะได้กลับมาอ่านบันทึกอะไรพวกนี้ 01/10/2023 ครอบครัวเราไม่มี weekly allowance ให้ลูก ๆ ไปโรงเรียนช่วงเรียน primary school และ high school
ใช่ครับ อ่านไม่ผิดกัน ลูกเราทั้ง 2 คนไปโรงเรียน ไม่ได้ถือเงินอะไรไปโรงเรียน เพราะที่โรงเรียนก็ไม่มีอะไรที่ต้องซื้อ เพราะครอบครัว ลูก ๆ pack อาหารกลางวันไปทานที่โรงเรียนทุกวัน ไม่ได้ซื้ออะไรที่ canteen ก็อาจจะมีบ้างตอนเรียน primary school ที่ลูกต้องการซื้อนั่น นี่ โน่น ที่ canteen แต่อาหารที่ canteen ของ primary school ต้องมีการสั่งล่วงหน้า อย่างน้อย 1 วัน ดังนั้นเด็ก ๆ ที่เอาเงินใส่ซองแล้วไป order ที่ canteen 1 วันล่วงหน้า อะไรประมาณนี้ ที่ primary school, ลูกลิงก็จะนาน ๆ ทีสั่งอาหารที่ canteen แต่ high school บอกได้เลยว่า ลูกลิงทั้ง 2 ไม่เคยซื้ออะไรที่ canteen เพราะ high school เป็นโรงเรียนใหญ่ใน Wollongong ทั้ง 2 โรงเรียน ทั้งของลูกชายและลูกสาว ดังนั้นการจะไปเข้าคิวซื้ออาหารที่ canteen บอกได้เลยว่าเสียเวลามาก ลูกลิงก็เลย pack lunch ไปกินเองทุกวัน ประหยัดตังค์ไปอีก ดังนั้น เขาทั้ง 2 จึงไม่มี pocket money ไม่มี weekly allowance ลูกลิงตัวโต ถ้าต้องการเงินฉุกเฉิน ให้ไปหาอาจารย์ที่โรงเรียน อยู่หมวดภาษาญี่ปุ่น นั่นคือเพื่อนสนิทเราเอง เรียนอักษรญี่ปุ่นด้วยกันมาก่อนที่ UOW และค่อนข้างสนิทกับเรา ดังนั้นเราก็ไม่เคยต้อง worry เรื่องลูกลิงตัวโต ส่วนลูกลิงตัวเล็ก ลูกสาว เราก็ขับรถรับส่งทุกวัน ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องซื้ออะไร ดังนั้น ลูกทั้ง 2 จึงไม่มี packet money ไม่มี weekly allowance ช่วงที่เรียนอยู่ที่ primary shool และ high school ซึ่งน่าจะต่างจากที่เมืองไทย เพราะที่เมืองไทย เราก็หลาน ๆ เราเอาตังค์ไปโรงเรียนไปซื้ออาหารกินที่โรงเรียน พอลูกลิงตัวโตเข้าเรียนมหา'ลัย; UNSW เราถึงเริ่มให้ weekly allowance: $100/week ใช่ครับ อ่านไม่ผิดกัน $100/week เพราะปีแรก (ปีที่แล้ว) เทอมแรก ลูกลิงก็ยังอยู่ที่บ้านที่ Wollongong แล้วนั่งรถไฟไปเรียนที่ UNSW 3 วันต่ออาทิตย์ พอกลาง ๆ ปีของปีที่แล้ว เขาค่อยย้ายไปอยู่หอพักนักศึกษา ซึ่งเราก็จ่ายค่าเช่าให้ หลาย ๆ คนอาจจะคิดว่า "ลูก P' J, ลูกคุณ J ต้องได้เงิน packet เท่านั้น เท่านี้ เยอะแยะมากมาย" เปล่าเลยครับ ลูกลิงได้เท่านี้จริง ๆ แรก ๆ เราก็ถามลูกแทบทุก week เลยว่าพอใช้มั้ย จะให้ daddy เพิ่มเป็น $120/week หรือ $150/week หรือเปล่า เขาก็บอกว่า ตอนนี้ยังพอ ดูไปก่อน ถ้าไม่พอจะบอก พอไปอยู่หอ ก็ไม่มีค่าเดินทางละ ก็มีแค่ค่าซื้ออาหารกิน ซึ่งเขาก็บอกว่า เขาก็ใช้ประมาณ $80/week ซึ่งก็ยังเหลือ - ปีที่แล้ว เขาซื้อกินทุกวัน เพราะอยู่หอพักนักศึกษา 6 คนใช้ 1 kitchen เขาบอกห้องครัวสกปรก (เราเห็นก็เฉย ๆ นะ.... oops!!!) - ปีนี้ เขาออกมาเช่าบ้านอยู่เอง เขาก็จะซื้อของและทำอาหารกินเอง ง่าย ๆ; fried rice เอย pasta เอย นอกจากลูกลิงได้ weekly allowance จากเรา $100/week แล้ว เขาก็ทำงานไปด้วย ตั้งแต่ปีที่แล้วแล้ว เป็น tutor สอนคณิตศาสตร์ ก็ได้ $25/week (before tax) สอน 7 hr ก็ OK อยู่ มี pocket money ของเขาเอง ($175/week before tax, after tax ก็ไม่รู้เขาได้เท่าไหร่) นี่ก็ 2 ปีแล้วที่ลูกลิงได้ $100/week allowance so far, so good นะครับ เขาไม่เคยขอเพิ่ม เขาก็จัดการ budget อะไรของเขาเอง ตลอดระยะ 2 ปีที่ผ่านมา ของการเรียนมหา'ลัยของเขา เขาก็ไม่สร้างปัญหาอะไรให้กับเราเลย ที่เขียนมาทั้งหมดก็แค่อยากจะบอกว่า บางทีมันก็ไม่สำคัญนะครับว่าเรามีรายได้เท่าไหร่ เราไม่จำเป็นต้องปรนเปรอลูกเราโดยที่ไม่จำเป็น ไม่งั้นเขาก็จะไม่เห็นคุณค่าของเงิน บันทึกเอาไว้ในความทรงจำ เราจะได้เล่าเรื่องต่าง ๆ ให้ลูกลิงฟังเมื่อเขาโตขึ้น หรือเมื่อเราแก่ตัวลงไป 24/09/203 ลูกลิงตัวโตติด Dean List 2022 ของคณะ Engineering UNSW
ถามว่าดีใจมั้ย ภูมิใจมั้ย ดีใจครับ ภูมิใจครับ แน่นอน เพราะจะติด Dean List ได้ ผลการเรียนก็ต้องดี HD; High Distinction หรือ D; Distinction แต่ Dean List ไม่ใช่ทุกสิ่งอย่าง การที่ลูกเรียนดี ไม่ใช่ทุกสิ่งอย่าง หลาย ๆ คนอาจจะบอกว่า "เอ๊า ทำไมคิดแบบนั้น" โดยเฉพาะคนเอเชียในออสเตรเลียที่เน้นการศึกษาของลูกอย่างบ้าคลั่ง hmmm... เอาเป็นว่า แต่ละครอบครัวไม่เหมือนกัน เนื่องด้วยทั้งเราและภรรยาก็เด็กสายวิทย์ด้วยกันมาทั้งคู่ ทั้งเราและภรรยาก็เป็นเด็ก IT ด้วยกันมาทั้งคู่ เราจบ UOW, ภรรยาเราจบ QUT เราทั้งสองผ่านการเรียนหนักมาแล้ว เรารู้ดีว่ามันเป็นยังไง ดังนั้น เราไม่อยากให้ลูกเครียดกับการเรียนมาก เอาชิล ๆ ค่อย ๆ เรียน ค่อย ๆ จบดีกว่า ไม่ต้องรีบ ถ้าคุยกับหลาย ๆ คน เขาก็ไม่เข้าใจกันหรอก ว่าทำไมไม่ต้องรีบ hmmmm... เอาเป็นว่า ถ้าครอบครัวคุณเคยสูญเสียคนที่คุณรัก ถ้าเขาจากไปก่อนวัยอันควร คุณก็อาจจะเข้าใจ หรืออาจจะไม่เข้าใจ ก็ไม่เป็นไร แต่ครอบครัวเราเป็นแบบนี้ โดยส่วนตัวแล้ว ครอบครัวเน้นความสุขแบบ "at this moment" มากกว่า ณ เวลานี้ ขอให้ลูก ๆ และครอบครัวทุกคนมีความสุขก็พอ เรื่องเรียน ยังไงก็ได้ เพราะเรารู้ว่าลูกเรา OK อยู่แล้วเรื่องเรียน แค่ไม่อยากให้เรียน และก็เรียนอย่างเดียว เราอยากให้ลูกได้ใช้ชีวิตในช่วงมหาลัยด้วย เรื่องการงาน ยังไงก็ได้ ไม่ได้หวังอะไรมาก เราปูพื้นฐานและสร้าง passive income เอาไว้ให้ครอบครัวเราหมดแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้มันยังไม่ได้มากอะไรนัก แต่เราก็ค่อย ๆ สร้าง passive income ค่อย ๆ สะสมห่านที่ออกลูกเป็นทองคำของเรา ดังนั้น มันไม่จำเป็นที่จะต้องเครียดอะไรกัน เราก็ควรจะ enjoy the moment กันไม่ดีกว่าเหรอ แต่ไม่ได้หมายความว่าลูกต้องนั่งผลาญเงินไปวัน ๆ นะ ก็ไม่ใช่ แค่อย่างน้อยก็ไม่ต้องเครียดเรื่องเรียน เรื่องการทำงาน ก็แค่นั้นเอง เพราะเราก็เตรียม backup plan เอาไว้ให้หมดแล้ว บ้านและอสังหาทุกหลังที่ประเทศออสเตรเลีย ก็เป็นชื่อบริษัท เป็น Family Trust หมด เราก็หมดห่วง เพราะชีวิตเป็นสิ่งไม่แน่นอนเลย เรียน ๆ อยู่ ทำงานอยู่ อยู่มาวันหนึ่งเขาอาจจะจากเราไปแล้วก็ได้ (touch wood) อะไรต่อมิอะไรที่คิดเอาไว้ ที่วาดฝันเอาไว้ มันพังครืนต่อหน้าต่อตา มันก็เคยเกิดขึ้นมาแล้ว ทุกวันนี้ เรากับครอบครัวก็เน้นความสุข "ณ ปัจจุบัน" ดีกว่า วกกลับมาที่เรื่อง Dean List เราดีใจและภูมิใจกับลูกครับ แต่ก็อย่างที่บอก "Dean List" ไม่ใช่ทุกสิ่งอย่าง เราอยากให้เขา enjoy the moment ในรั้วมหาลัย มีความสุขกับการเรียน และเพื่อน ๆ ของเขา เสาร์-อาทิตย์ เวลาลูกลิงกลับบ้าน ก็มาเล่าเรื่องนั้นเรื่องนี้ เหตุการณ์ในห้องสมุด อะไรต่าง ๆ นานา แบบนี้มีความสุขมากกว่า มันอาจจะเป็นเหตุการณ์เล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ฟังแล้ว เราก็เห็นว่าเขาใช้ชีวิตให้ fullest ไปเลย ขอให้วันนี้เป็นอีกหนึ่งวันที่ดี เหมือนเช่นทุก ๆ วันที่ผ่านมา ขอให้พรุ่งนี้เป็นวันที่สุขและสมหวังนะครับ ลูกลิงตัวโต ปีนี้อยู่ปี 2 แล้วครับ; UNSW เรียน Mechatronics and Robotics Engineering
ปีที่แล้วลูกลิงพักอยู่ที่ Broadway, Sydney หอพักของมหาลัยที่ subcontract ให้กับ UTS 1 Unit, 6 ห้องนอน (เป็นเหมือน town house 2 ชั้น) 2 ห้องอาบน้ำ 2 toilets 1 ห้องครัว ซักผ้า อบผ้า ก็ tap จ่ายครั้งละ $3 ค่าเช่า: $319/week ปีนี้ลูกลิงออกมาเช่าบ้านอยู่กันเองกับเพื่อนในคณะ ปีนี้ดีหน่อย ได้บ้านติดกับ UNSW เดินไป 5 นาที อยู่กัน 2 คน บ้าน landlord อยู่ข้างหน้า บ้านที่ลูกลิงไปเช่าอยู่ก็อยู่ด้านหลัง แตไม่ใช่ granny flat นะครับ เป็นบ้านเป็นเรื่องเป็นราวเลย แต่อยู่โซนด้านหลัง landlord ค่อนข้าง OK เป็นคนทำงานให้กับ church ก็คงพอมีความเมตตาอยู่บ้าง ปีนี้ค่าเช่าถูกหน่อย ค่าเช่า: $245/week ก็ประหยัดไปกว่าปีที่แล้ว ค่าเช่าเราเป็นคนจ่าย ปีที่แล้วและปีนี้ และเราก็ให้ weekly allowance: $100/week และลูกลิงเองก็เป็น private tutor สอนพิเศษวิชาคณิตศาสตร์; Maths ก็ได้ค่าแรง $25/hr สอนอาทิตย์ละประมาณ 7 ชั่วโมง หักภาษีแล้วก็ OK บวกกับ weekly allowance ที่เราให้ $100/week ลูกลิงก็ต้องจัดการและบริหารค่าใช้จ่ายของเขาเอง เราเคยถามลูกลิงแล้วว่า daddy ให้ weekly allowance $100/week พอหรือเปล่า จะให้เพิ่มเป็น $120/week หรือ $150/week หรือเปล่า ลูกลิงก็บอกว่าพอ เพาะเขาก็เป็น private tutor ด้วย ได้เงินจากค่าสอนพิเศษด้วย ถ้าไม่พอ เดี๋ยวเขาจะบอก นี่ก็เข้าปีที่ 2 แล้วนะ เขาก็ยังไม่ขอเพิ่ม อาทิตย์หนึ่งเขาก็ไม่ได้อยู่ Sydney ทุกวัน ก็อยู่แค่ 4 วัน และกลับบ้านที่ Wollongong 3 วัน ค่ากินก็ไม่น่าเยอะมาก ปีที่แล้วตอนที่ลูกลิงอยู่หอพัก ลูกลิงไม่ทำกับข้าวเลย ทานอาหารข้างนอกทุกวัน เพราะ boardway ของกินเยอะ และก็ไปกินที่มหาลัยด้วย ที่สำคัญคือที่พักคนอยู่เยอะ ห้องครัวสกปรก ลูกลิงบอก แต่เราเห็นแล้วก็เฉย ๆ นะ แต่ยอมรับว่าเด็ก ๆ แช่ของไว้ใน sink เยอะมาก ไม่ล้างเลยทันที!!! ปีที่แล้วลูกลิงบวกลบคูณหาร เขาบอกว่าค่าอาหารเขาอยู่ที่แค่ประมาณ $80/week เอง ดังนั้นตังค์ที่เราให้ก็พอ บวกกับเงินจากการสอนของเขาอีก ปีนี้ลูกลิงเช่าบ้านอยู่กันเองกับเพื่อนที่คณะ อยู่กันแค่ 2 คน ลูกลิงก็เลยทำกับข้าวกินเอง เขาก็ทำอะไรกินง่าย ๆ แหละ.... pasta เอย อะไรเอย อาหารก็จะออกแนว ๆ ฝรั่ง ปีที่แล้วและปีนี้ เราจ่ายค่าเช่าให้ลูกลิง ปีหน้าเขาบอกว่าเขาจะจ่ายค่าเช่าเอง เดี๋ยวรอดูกัน จะออกหัวหรือออกก้อย... :) สำหรับเราแล้ว... ยังไงก็ได้นะ เฉย ๆ เป็นครอบครัวชิล ๆ แค่ไม่อยากให้ลูกลิงลำบากแค่นั้นเอง อยากให้ enjoy Uni life มากกว่า เรียนก็ไม่ต้องรีบจบหรอก enjoy Uni life ดีกว่า ดื่มด่ำกับชีวิตให้เต็มที่ เรื่องเรียนไม่ต้องรีบร้อน อันนี้ก็ค่อนข้างแตกต่างจากพ่อแม่คนเอชียคนอื่น ๆ แต่บางทีเราก็ขี้เกียจอธิบาย ครอบครัวใครครอบครัวมัน ครอบครัวเรามีการสูญเสียมาก่อน มุมมองของชีวิตเราจึงเปลี่ยนไป ไม่ทะเยอทะยาน มีความสุขอยู่กับปัจจุบันดีกว่า อีกหนึ่งเรื่องราว life journey ของลูกลิงทั้ง 2 บันทึกเอาไว้เป็นความทรงจำ อีกหลาย ๆ ปีจะได้กลับมานั่งอ่าน :) 10/04/2023: Easter long weekend วันนี้ต้องขับรถไปส่ง he ที่ Sydney พอดีแม่ลิงกับลูกลิงตัวเล็กจะพากันไปดู ballet ที่ Opera House ทุกวันศุกร์เราต้องไปรับลูกลิงตัวโตที่สถานีรถไฟ 5-10 นาทีจากบ้าน ถ้าเดินก็ครึ่งชั่วโมง
แต่ก็เข้าใจว่าลูกคงเหนื่อยกับการเรียนมาแล้ว และต้องนั่งรถไฟกลับ Wollongong อีก ทุกครั้งที่เราไปรับลูกลิงที่สถานีรถไฟ conversation แรกคือ อาทิตย์นี้เรียนเป็นยังไงบ้าง เหนื่อยมั้ย มีการบ้านมั้ย ส่งการบ้านหมดหรือยัง นั่น นี่ โน่น มันคือ moment ดี ๆ ที่พ่อมีต่อลูก งั้น daddy ยอมเหนื่อยขับรถไปรับครับ ซึ่งชีวิตเราจริง ๆ ทุก ๆ วันก็เหนื่อยอยู่แล้ว เพราะตั้งแต่ภรรยาเราไม่สบาย เราก็ต้องวิ่งรับส่งลูกลิงตัวเล็กด้วย คนนี้ก็กิจกรรมเยอะ (dance) แต่ก็พร้อมและยอมที่จะเหนื่อยเพิ่ม รับส่งลูกลิงคนโตทุกวันศุกร์ที่สถานีรถไฟ และเขาก็กลับไป Sydney เช้า ๆ ก่อนเที่ยงของวันจันทร์ ไม่ได้กลับไปเรียนนะ เพราะวันจันทร์เรียน online เรียนที่ไหนก็ได้ แต่เขามีซ้อม volleyball ของ UNSW จ๊ะ ไม่ได้เป็นทีมของมหาลัยหรอก แต่ไปซ้อมกับเพื่อน ๆ ขำ ๆ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (31 March 2023) ลูกลิงบอกว่าผลสอบ mid-term ของอีกวิชาออกมาแล้ว วิชา Electronic อะไรซักอย่างนี่แหละ Oops!!!... daddy ก็ไม่ตั้งใจฟัง he เรียนเกี่ยวกับ Mechatronics and Robotics Engineering เอาเป็นว่าวิชา Electronic อะไรซักอย่างก็แล้วกันน๊อ... LOL ผลสอบลูกลิงได้ 90% ครับ ได้ HD (High Distinction) ในขณะที่เพื่อน ๆ ที่สนิทได้ประมาณ 60% กัน และ average mark สำหรับวิชานี้ 55% คนที่เป็นพ่อเป็นแม่ได้ยินแบบนี้ก็หายเหนื่อยเลยนะ จาก week ที่แล้วที่ Maths ก็ได้ 100% เต็ม OK... งั้น daddy รับรถรับส่งทุกวันศุกร์และจันทร์เลยครับลูก การที่ลูกลิงทั้งสองคนเก่งเลข ทุกสิ่งอย่างไม่ใช่เรื่องบังเอิญนะครับ มันคือการฝึกฝนและความเอาใจใส่ของพ่อแม่ด้วย ลูกเราทั้ง 2 คนไม่ได้เรียนพิเศษเลยช่วง high school (primary school มีเรียนบ้างถึง year 5 แต่บอกเลยว่าเราไม่แนะนำ เพราะลูกเครียดมาก เป็นช่วงที่ลูกลิงไม่ happy กับการเรียนเลย เพราะการบ้านเยอะจากโรงเรียนสอนพิเศษ) ครอบครัวเราก็เลย เน้นฝึกทำแบบฝึกหัดและทำ revision กัน และมี Mathsonline และ Mathlectic เข้ามาช่วยอย่างที่บอกจาก blog ก่อน อีกอย่างที่โชคดีก็คือเอาเป็นอาจารย์สอนคณิตศาสตร์และคอมพิวเตอร์ด้วย เราจะมี workbook จากโรงเรียนที่เราสอนมาให้ลูกลิงทั้ง 2 ฝึกทำตลอด ลูกลิงเรียน year 6, แต่ต้องฝึกทำแบบฝึกหัดของ year 7 แล้วครับ ทำแบบ no pressure เพราะมันเป็นเนื้อหา 1 ปีล่วงหน้า ตอนเรียน year 6, ครูกำลังจะสอนการหาพื้นที่ของวงกลม ครูจำสูตรไม่ได้ (ครูประถมหนะน๊อ) ครูกำลังจะ search หาสูตรใน Google ลูกลิงนั่งหน้าห้อง ก็เลยเดินไปบอกครูว่า "It's Pi, R, Squared". แต่เราก็บอกลูกลิงแล้วว่า อย่าทำแบบนี้อีกนะลูก ครอบครัวเรา: - ไม่เชื่อเรื่องเรียน โรงเรียน private (เคยเรียนแล้ว 2 เทอม สุดท้ายก็กลับมาเรียนที่ public school) - ไม่เชื่อเรื่องเรียนพิเศษ เดี๋ยวเราจะเขียนใน blog หน้านะครับ ว่าทำไม แต่อย่าลืมนะครับ ว่าละครอบครัวไม่เหมือนกัน ตัวเราเป็นอาจารย์ด้วย เรามี resources เยอะ อาจจะไม่เหมือนคุณพ่อคุณแม่หรือผู้ปกครองท่านอื่น เดี๋ยวเราจะมาลง detail ทีหลังให้ Conversation ในรถทุกวันศุกร์ช่วงที่ไปรับลูกลิงกลับบ้านจากสถานีรถไฟ คืออีกหนึ่งช่วงที่มีความสุข เพราะลูกลิงเองตอนนี้ก็ใช้เวลา 4 วันที่ Sydney และ 3 วันที่ Wollongong ทุกเวลาที่อยู่ด้วยกัน มีค่าเสมอ ที่เขียนมาทั้งหมด ก็แค่อยากจะบันทึกเรื่องราวดี ๆ เอาไว้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างกับชีวิตของลูกลิงช่วงนี้ เราก็เห็นตัวเราหลาย ๆ อย่างในตัวลูก บันทึกเอาไว้เป็นความทรงจำ 02/04/2023 |
บันทึกเรื่องราวต่าง ๆ ของคุณพ่อลูก 2 Archives
June 2024
|