ลูกลิงตัวโต (ปี 2, Engineering UNSW)
สอบ mid-term ได้ full mark; 100% ครับ Maths เหมือนกัน ดังนั้น... สิ่งที่เราฝึกฝนลูก ๆ มาตั้งแต่เด็ก ๆ มันต้องเป็นอะไรที่ work แน่เลย อยากรู้ว่าเราเลี้ยงลูกลิงยังไง ลองไล่ดู blog เก่า ๆ ที่ johnpaopeng.com คนเป็นพ่อเป็นแม่ก็ภูมิใจครับ มิเสียแรง ...อีกหนึ่ง weekend ดี... เล่าสู่กันฟัง ABC คือ Australian Born Chinese
แต่ลูกเราไม่ใช่ ABC เพราะไม่ได้เป็น Chinese จ๋ามาจาก Mainland หรือ Hong Kong เลย ลูกลิงทั้ง 2 เป็นลูกครึ่ง Thai-Singaporean ที่เกิดในออสเตรเลีย สร้างความสับสนใน identity ไปอีก Banana คือคนผิวสีเหลือง yellow skin (คนเอเชีย) แต่ข้างในขาว หรือ white (ซึ่งก็หมายถึงคนผิวขาว หรือฝรั่ง) พวก Banana ก็คือคนเอเชีย ที่ไม่ใช่คนจีนแบบจีนจ๋า แต่เกิดที่นี่หรือใช้ชีวิตแบบฝรั่ง ซึ่งลูกลิงก็จะเป็นแบบนั้น ข้างนอก yellow skin แต่ข้างใน white ซึ่งเราคิดว่าลูก ๆ ของหลาย ๆ คนที่เกิดที่นี่ก็จะมีลักษณะของการเป็น Banana บางครอบครัวที่ทั้งคุณพ่อและคุณแม่เป็นคนไทย ลูกก็อาจจะพูดไทย หรือยังคงความเป็นไทยอยู่บ้าง แต่ของลูกเราแทบจะไม่มี แค่ไหว้เป็น และพูดคำว่า "สวัสดีครับ สวัสดีค่ะ" เราก็ happy แล้ว เราไม่ต้องการความเป็นไทยจ๋า ที่บ้านเราไม่ได้เลี้ยงลูกแบบฝรั่งจ๋า แต่ก็ไม่ได้ไทยจ๋า เพราะที่บ้านเองก็ไม่ได้พูดไทยกัน ลูกลิงทั้ง 2 พูดไทยไม่ได้ (เดี๋ยวอธิบายทีหลัง) แตกต่างจากครอบครัวที่ทั้งคุณพ่อคุณแม่พูดไทย ครอบครัวเราไม่ได้ไทยจ๋า หรือสิงคโปร์จ๋าอะไรขนาดนั้น เพราะความเป็น Singaporean เอง เขาก็ค่อนข้าง modernise อยู่แล้ว แน่นอนชีวิตของลูกลิง ช่วงที่เรียน primay school กับ high school ความเป็นออสซี่มันก็สูงอยู่แล้ว เพราะเป็นโรงเรียนรัฐบาล จะไม่ค่อยมีเด็กต่างชาติมาเรียน เพื่อน ๆ คนเอเชียที่เรียนด้วยกันที่ primary chool และ high school ก็จะเป็นเด็กที่เกิดที่นี่ทั้งนั้น ดังนั้นการใช้ชีวิตและวัตนธรรมค่อนข้างเหมือนกัน ก็ใช้ชีวิตเหมือนเพื่อน ๆ ที่เป็นออสซี่ทั่ว ๆ ไป แต่เมื่อลูกลิงตัวโตได้เข้าไปเรียนในมหาลัย มันก็จะเด็กนักเรียนต่างชาติเยอะ เด็ก international student และด้วย appearance ด้านนอกเขาก็เหมือนคนเอเชียทั่ว ๆ ไป ออกขาว ๆ ตี๋ ออกแนวจีน ถ้าดัดผมหน่อยก็ออกแนวเกาหลี ปีที่แล้วลูกลิงพักอยู่ที่ที่พักมหาลัยที่ subcontract ให้กับ UTS (University of Technology Sydney) แต่ก็อยู่ใกล้ ๆ กับ USYD (University of Sydney) ดังนั้นเด็ก ๆ ก็จะมาจาก 2 มหาลัยนี้ที่ เมื่อลูกลิงต้องพักอยู่ที่ accomodation ที่ 1 unit มี 6 ห้อง อยู่กัน 6 คน 2 ห้องน้ำ 2 ห้องอาบน้ำ และ 1 ห้องครัว ลูกลิงก็ต้องมีการปรับตัว นักเรียนที่พักอยู่ใน unit เดียวกันก็มาจากประเทศจีนบ้าง ประเทศอินโดนีเซียบ้าง หรือบางคนก็ไม่เคยเห็นหน้ากันเลย 2 เทอม เพราะต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างไปเรียน เราก็บอกลูกลิงว่าดีออก ได้เจอเพื่อนต่างชาติ ได้ทำความรู้จักกัน แต่ลูกลิงก็บอกว่าแต่ละคนมีการใช้ชีวิตที่ค่อนข้างแตกต่างกัน เพราะเพื่อนร่วมห้องคนอินโด เขาก็ไป hang out กับคนที่พูดอินโด ซึ่งลูกลิงก็พูดไม่ได้ เพื่อนร่วมห้องที่มาจากประเทศจีน เขาก็ไป hang out กับคนจากประเทศเขา ลูกลิงบอกว่าวิถีการใช้ชีวิตค่อนข้างแตกต่างกัน เพราะลูกลิงก็จะ hang out อยู่กับเพื่อนที่เป็นออสซี่ เลิกเรียนเสร็จก็ไปเล่น pool (สนุกเกอร์) กัน หรือบางทีถ้าลูกลิง hang out กับเพื่อนคนเอเชีย ก็จะเป็นคนที่เกิดที่นี่ พวก ABC บ้าง พวก Banana บ้าง คุณพ่อคุณแม่คนไหนที่ลูกที่นี่ ก็เตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้ด้วยนะครับ :) ปีที่แล้วลูกลิงตัวโตเริ่มย้ายไปอยู่หอพักของมหาลัย และตอนนี้ก็ย้ายออกไปอยู่กันเองกับเพื่อน ๆ เช่าบ้านอยู่ติดกับมหาลัย
ช่วงปิดเทอมก็ยังคงต้องเช่าทิ้งเอาไว้อยู่ เพราะไม่งั้นเปิดเทอมไม่มีที่อยู่แน่ การแข่งขัน การหาบ้านเช่าใน Sydney ค่อนข้างยากอยู่เหมือนกัน ถ้าใครได้ที่พักแล้ว จับเอาไว้แน่น ๆ อย่าปล่อยให้หลุดมือไป ดังนั้นลูกลิงกับเพื่อนยังคงต้องเช่าบ้านเอาไว้ช่วงปิดเทอม ช่วงปิดเทอม ช่วง summer ลูกลิงก็กลับมาใช้ชีวิตอยู่ที่ Wollongong แต่ก็มีบางวันที่แวะไปค้างที่ Sydney ถ้าต้องไปทานข้าวกับเพื่อน นั่น นี่ โน่น เราก็ต้องปล่อยเขาตามประสาวัยรุ่น แต่เรางงที่เราไปแต่ละทีไปพักแค่คืนเดียว แล้วก็กลับ ก็ไปบ่อยอยูู่นะ week เว้น week เราก็คิดว่า เข้าไปทั้งที ทำไมไม่นัดเพื่อนกลุ่มนั้น กลุ่มนี้ แล้วพักอยู่ซัก 2 คืนไปเลย ไป ๆ มา ๆ แล้วพักแค่ครั้งละ 1 คืน คนขับรถรับส่งก็เหนื่อย (แอบบ่น oops!!!) เราถึงบอกลูกลิงว่า รีบ ๆ เก็บชั่วโมงขับรถแล้วไปสอบให้เสร็จภายในเทอมนี้ โตแล้วจะมาให้ daddy ขับรถรับส่งอยู่แบบนี้ไม่ได้ละ คนเรารักกันนะ ไม่ต้องอยู่ด้วยกันทุกวันก็ได้ ลูกลิงไปอยู่ที่ Sydney บ้างก็ได้นะลูก ช่วงเปิดเทอมก็กลับบ้านศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ ก็กำลังพอดี ช่วงปิดเทอม ลูกลิงกลับไปใช้ชีวิตใน Sydney บ้างก็ได้ ตอนนี้ 4 คนอยู่ที่บ้าน รู้สึกว่าเพ่นพ่านเกิน.... LOL ใช่ครับ ความเป็นพ่อเป็นแม่ ความรู้สึกบางทีเราก็แปลก ๆ เหมือนกัน พอลูกไม่ได้กลับบ้าน เราก็คิดถึง ก็เป็นห่วง แต่พอกลับบ้าน อยู่ด้วยกัน 7 วันต่ออาทิตย์มันก็เยอะเกิน เราว่า 3-4 วันต่ออาทิตย์กำลังดี ขอแค่เจอกันทุกอาทิตย์ ก็เป็นพอ.... :) ไม่รู้ว่าความรู้สึกของคุณพ่อคุณแม่คนอื่น ๆ จะเป็นยังไงนะ แต่ก็นั่นแหละ แล้วแต่ช่วงอายุของลูก ๆ ถ้าลูกเข้ามหาลัยแล้ว ความรู้สึกมันก็จะแตกต่างจากช่วงที่ลูก ๆ อยู่ high school เพราะเมื่อลูกเรียนมหาลัย ลูกก็เป็น young adult แล้ว ก็ต้องออกไปเจอโลกกว้างบ้าง ความรู้สึกของแบบนี้ไม่ผิดใช่มั้ย?? 11/02/2023 คำว่า "รัก" บางทีมันก็อธิบายไม่ได้ว่ามันคืออะไร
คนที่เป็นพ่อ เป็นแม่ ก็ต้องทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด คำว่า "รัก" คือต้องการ "provide" ไม่อยากให้ลูกลำบาก อยากให้ลูก ยากไปเที่ยวที่ไหน ก็ไปได้ อยากให้ลูกอยากกินอะไร ก็ได้กิน แบบไม่ฟุ่มเฟือย แบบไม่ปรนเปรอ ครอบครัวเราไม่ได้เน้นเรื่องวัตถุสิ่งของหรือ material พวกเราเลยไม่มีของฟุ่มเฟือย ของยี่ห้อนั้น ยี่ห้อนี้ ก็อยู่กันแบบง่าย ๆ "comfortable" แบบไม่เดือดร้อน แบบไม่ฟุ่มเฟือย ทุกวันนี้ที่เราทำงานหนัก นั่งหลังขดหลังแข็งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ บอกได้เลยว่าเราไม่ได้ทำอะไรเพื่อตัวเราเอง ลำพังตัวเราเอง ถ้าไม่มีลูก ไม่มีภาระ ชีวิตเราก็ Financial Freedom นานแแล้ว (01 Jul 2020) แต่ทุกวันนี้ ที่เราทำนั่น นี่ โน่น วางแผนการลงทุนต่าง ๆ นานา เราไม่ได้ทำเพื่อตัวเราเอง ถ้าลำพังแค่ตัวเราเอง หรือเรา 2 คนกับภรรยา passive income ที่เราพอมี บวกกับทำงานรับ case ก๊อก ๆ แก๊ก ๆ ไป พวกเราก็อยู่ได้ แบบไม่เดือดร้อน รายจ่ายพวกเราไม่เยอะ พวกเราอยู่กันแบบง่าย ๆ ไม่ได้เวอร์วังอะไร เพราะคำว่า "รัก" เพราะลูกน้อย 2 คน เราก็อยากจะสร้างความมั่นคงให้กับลูกลิงทั้ง 2 ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาไม่ต้องทำอะไร ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาต้องรอแบมือขอ พวกเขาก็ยังคงต้องทำงาน ทำมาหากินเมื่อเขาโตขึ้น แต่อย่างน้อย พวกเขาจะได้มี something to fall back to ถ้าเขามีอะไรผิดพลาดในชีวิต เงินทองหามาได้ ถ้าไม่ประหยัดมันก็หมดได้ครับ เงินทองหามาได้ ถ้าไม่ต่อยอดให้มันงอกเงย มันก็หมดได้ครับ หน้าที่ของ daddy หน้าที่ของ mummy ก็คือ "provide" Plan ในชีวิตของเรา 2023 และหลังจากนี้ค่อนข้างชัดเจน ว่าเราอยากทำอะไร และเราต้องทำอะไรเพื่อจะได้สิ่งนั้นมา แต่เรื่องบางเรื่อง เราก็ไม่ขอออกสื่อ เรื่องบางเรื่อง เราก็ขอเก็บเอาไว้ รู้แค่เราคนเดียว หรือรู้กันแค่คนในครอบครัว หรือแค่คู่ชีวิตก็พอ เพราะคำว่า "รัก" เพราะเราอยาก "provide" เราก็อยากให้ลูกลิงใช้ชีวิตแบบ "comfortable" แบบไม่ฟุ่มเฟือย แบบไม่ปรนเปรอ เราก็พอใจแล้ว ทุกวันนี้เรามีความสุขดี กว่าจะมาถึงวันนี้ไม่ง่ายเลย ชีวิตที่ต้องปาดเหงื่อ ปากก็ต้องกัด ตีนก็ต้องถีบ เราเคยผ่านมาหมดแล้ว ชีวิตที่เหลือ ต่อจากนี้ ทุกอย่างคือ "กำไร" ...The party of FOUR... Summer 2022 เป็น summer ที่แตกต่างจากทุก ๆ ปี เพราะปกติแล้ว ถ้าไม่มี COVID ลูกลิงกับแม่ลิงก็พากันไปอยู่สิงคโปร์ แบบอยู่ยาวเลยจนถึงตรุษจีน ปกติลูกลิงกับแม่ลิงจะพากันบินก่อน ทันทีที่โรงเรียนปิดเทอม พวกเขาจะปล่อยให้เราอยู่บ้านคนเดียว ทำงานไป เพราะเราไม่ได้หยุดช่วง Christmas หรือ New Year เราจะบินไปทีหลัง
เกิดเป็น J ต้องอดทน สิบล้อชนต้องไม่ตาย Summer 2022 ถูก distrub หมดทุกสิ่งอย่าง เพราะแม่ลิงต้องอยู่รักษาตัว ลูกลิงทั้ง 2 ก็ sensible ไม่บ่น ไม่อะไร ไม่ทำอะไรให้พ่อกับแม่หนักใจ เพราะเขารู้ดีว่าครอบครัวเรากำลังเผอิญกับอะไรอยู่ ข้างนอกลูกลิงดู strong แต่เราคิดว่าสิ่งที่มันเกิดขึ้นก็มีผลทางด้านจิตใจของลูกลิงอยู่บ้าง โชคดีหน่อย ลูกลิงตัวโตก็เรียนมหาลัยแล้ว เพื่อนเลยเยอะหน่อย ทั้งเพื่อนที่ Sydney และเพื่อนที่ Wollongong เขาก็ออกไปเที่ยวนั่น นี่ โน่นกับเพื่อนเขาได้ และเพื่อน ๆ หลายคนก็ขับรถกันได้เกือบหมดแล้ว ก็เหลือลูกลิงนี่แหละ ที่เก็บชั่วโมงได้ช้ามาก เพราะเราก็ยุ่งจริง ๆ ก็ต้องรอเสาร์-อาทิตย์ถึงจะมีเวลาเก็บชั่วโมงกัน Summer นี้ลูกลิงก็ใช้ชีวิตให้สุด ลูกลิงตัวโต เนื่องด้วยเรียนมหาลัยแล้ว ครอบครัวเราก็ปล่อยเป็นอิสระตามสไตล์การเลี้ยงลูกที่นี่ ลูกจะไปไหนก็ได้ กลับกี่โมงก็ได้ ขอให้เอากุญแจบ้านไปด้วย หรือจะไปค้างบ้านเพื่อนก็ได้ เพราะจบ year 12 แล้ว (เราไม่ให้ลูกไปค้างบ้านเพื่อน ต่อให้สนิทกันแค่ไหนก็ตาม จนกว่าจะจบ year 12) โชคดี บ้านเราอยู่ติด beach ลูกลิงตัวโตก็จะมีกิจกรรมอะไรต่าง ๆ กันเพื่อนเขาที่ beach ค่อนข้างเยอะ ลูกโตแล้ว เราก็ปล่อยให้ไปไหนมาไหนเอง บางทีเราก็ไป drop ให้ที่โน่น นี่ นั่นบ้าง แต่ลูกต้องกลับบ้านเอง เพราะโตแล้ว จะให้เรามาขับรถรับส่งก็คงไม่ไหว ลูกลิงตัวโตก็ออกบ้านแทบทุกวัน ซึ่งก็ดีแล้ว เราอยากให้ลูกเราออกไปใช้ชีวิตให้เต็มที่ เพราะช่วงนี้ปิดเทอม เราก็อยากให้เขาพักผ่อนและเที่ยวกับเพื่อน ๆ ให้ที่เต็มที่ ทีแรกเราก็บอกให้เขาไปเที่ยวสิงคโปร์กับเพื่อน ๆ เพราะบ้านเราเราก็ไม่ปล่อยให้คนเช่าแล้ว ปล่อยว่างเอาไว้ให้แม่ยายมานอนอาทิตย์ละครั้งเอง แต่ตัดสินใจ last minute มันก็หาตั๋วยากนิดหนึง เราก็เลยบอกลูกลิงว่าปีนี้ Dec ถ้าลูกลิงสอบเสร็จก่อนน้องสาว ปิดเทอมก่อน ลูกลิงตัวโตก็ชวนเพื่อน ๆ บินไปเที่ยวที่สิงคโปร์ก่อนได้ อย่างน้อยเพื่อน ๆ ก็ประหยัดค่าโรงแรมไป เพราะไปพักที่บ้านเราได้ แล้วพวกเราค่อยจะบินตามไปหลังจากที่ลูกลิงตัวเล็กปิดเทอม ซึ่งจะช้ากว่ามหาลัย 3-4 weeks เราชอบที่ลูกลิงตัวโตออกไป enjoy life บ้าง เพราะช่วงที่เรียน high school เขาค่อนข้างเรียนหนัก เพราะอ่านหนังสือ 7 วัน 7 คืนเลย ลูกลิงไม่เคยพัก และช่วงที่เรียนมหาลัย เราก็เห็นความตั้งใจของลูกแล้ว ลูกค่อนข้างเรียนหนัก และมีความตั้งใจมาก ผลการเรียนก็ออกมาดีมากถึงมากที่สุด ส่วนลูกลิงตัวตัวเล็ก ครอบครัวเราก็ค่อนข้างโชคดีเพราะเพื่อน ๆ เขาก็ชวนกันไปเล่นที่บ้าน นั่น นี่ โน่น ซึ่งเราก็จะให้ไปเฉพาะคนที่ครอบครัวเรารู้จักและสนิทเท่านั้น ลูกลิงตัวเล็ก ก็ยังเด็กอยู่ ก็ห้ามอยู่ดึก บางทีเราก็ต้องไปรับไปส่ง บางทีผู้ปกครองเพื่อนก็มารับมาส่งให้ ซึ่งครอบครัวเราก็รู้สึกขอบคุณ ครอบครัวเพื่อน ๆ หลาย ๆ คนยื่นมือเข้ามาช่วยเพราะเรากับภรรยาก็ยุ่ง ๆ วิ่งเข้าออกโรงพยาบาล ดีที่สุดก็คือบ้านที่เราอยู่ตอนนี้ติด beach นี่แหละ ก็สบายหน่อย บางทีลูกลิงก็นัดเพื่อน ๆ แล้วไปเล่นที่ beach กัน แต่หลังจากนี้ครอบครัวเราก็ต้องบอกลาบ้านหลังนี้แล้วหละ ก็คงต้องย้ายไปอยู่ที่ที่ใหญ่กว่านี้ ที่ที่พื้นที่สวนให้เราได้ปลูกผักทำสวนตามประสา และก็ใช้ชีวิตบั้นปลายที่เหลือด้วยความสุข Anyway... summer นี้ก็เป็น summer ที่แตกต่าง เพราะปกติแล้วพวกเราต้องไปอยู่สิงคโปร์ ไปอยู่เมืองไทยกัน แต่เราก็ยังโชคดี ที่ลูกลิงทั้ง 2 ก็มีกิจกรรมอะไรต่าง ๆ ทำกับเพื่อนเขา ออกไปใช้ชีวิตกัน เราไม่ต้องการให้ลูกหมกมุ่นอยู่แต่ในบ้าน ดู Netflix ดู YouTube กัน มันไม่ productive ออกไปเจอธรรมชาติบ้าง ออกไปเล่นกับเพื่อนบ้าง ซึ่งเราคิดว่าดี แต่เดี๋ยวพวกเราก็จะเข้าป่ากันแล้ว และพักผ่อนแบบจริง ๆ ซักอาทิตย์หนึ่ง เพราะ treatment อะไรต่าง ๆ ของภรรยาเราก็จะ complete วันพุธที่จะถึงนี้; 18/01/2023 เมื่อลูกลิงทั้งสองเริ่มโตกันแล้ว ชีวิตเราก็ง่ายมากขึ้น คนโต เราก็ปล่อยเป็นอิสระแล้ว ส่วนคนเล็ก ก็ยังเด็กอยู่ ปีนี้เรียน year 10 ก็ยังคงต้องมีกฎมีอะไรกันอยู่ จนจบ year 12 ถึงจะปล่อยเป็นอิสระ ที่บ้านเราค่อนข้างเข้มงวดเรื่องการใช้มือถือ การเปิดทีวี: - ปิดมือถือวันอาทิตย์ - Mon-Sat: year 7 - 10 ต้องปิดมือถือ by 8pm, year 11-12 ต้องปิดมือถือ by 9pm - มือถือต้อง charge ที่โต๊ะทำงานเราเท่านั้น และวางไว้นอกห้องนอน ลูกลิงจะไม่เอามือถือเข้าห้องนอน - Mon-Fri: No TV before 7pm แต่ถ้าช่วงปิดเทอม เราก็ปล่อยอิสระเรื่องทีวี และให้ใช้มือถือได้วันอาทิตย์ แต่ต้องปิดมือถือตอน 8pm/9pm เหมือนเดิม ทุก ๆ วัน :) ถ้าจบ year 12 เราก็ปล่อยอิสระ เป็น free bird อันนี้คือกฎที่บ้านเรานะครับ ครอบครัวใครครอบครัวมัน เราไม่ judge ใคร อย่างวันนี้ วันอาทิตย์ 15 Jan 2023, ลูกลิงตัวโตก็ไปเที่ยวกับเพื่อนกัน ลงไป South Coast มันจะมีเกาะเล็ก ๆ อยู่แถวฝั่งตอนใต้ของ Wollongong, 2hr ลูกลิงตัวเล็กก็ไปเล่นที่บ้านเพื่อน กลับมาตอนเย็น ๆ เราอยู่บ้านกับภรรยา 2 คน โคตรรรรรรรร จะเงียบ โคตรรรรรร จะสงบเลย แต่... anyway.. ทั้งหมดทั้งมวลนี้ ก็ดีแหละ ที่ลูกลิงออกไปใช้ชีวิตกัน ให้เราอยู่บ้านเงียบ ๆ บ้างเถอะ.... ขุ่นพระ :) ที่เขียนมาทั้งหมดทั้งมวล เราก็ happy แหละที่ลูกลิงออไปใช้ชีวิตกันช่วง summer ที่เขียมาทั้งหมดก็แค่อยากจะบันทึกเรื่องราวต่าง ๆ ในชีวิตของลูกลิงเอาไว้ เขียนไว้เป็นความทรงจำ 15/01/2023 เมื่อลูกลิงตัวโตไปอยู่หอพักนักศึกษาในซิดนีย์ตอนเทอม 2
ชีวิตการเรียนของลูกลิงก็ค่อนข้างลงตัว ไม่ต้องเหนื่อยกับการเดินทาง แต่ลูกลิงต้องกลับบ้านทุกอาทิตย์ช่วง weekend ตอนนี้ลูกลิงย้ายที่พัก ย้ายออกจากหอพักนักศึกษา ออกไปเช่าอยู่กันเองกับเพื่อนที่เรียนคณะเดียวกัน คราวนี้ที่พักอยู่ติดกับ UNSW เลย เดิน 5 นาทีถึง UNSW หอพักแต่ก่อนที่ลูกลิงอยู่ อยู่ที่ Broadway ซึ่งค่อนข้างใกล้ USYD และ UTS ที่พักเก่าเขาก็ subcontract ให้กับ UTS ดังนั้นเพื่อน ๆ ในหอพักก็จะเป็นเด็ก UTS ซะส่วนใหญ่ ซึ่งส่วนตัวเรา เราก็คิดว่าดีออก เรียนอยู่ UNSW แต่มีเพื่อน ๆ ที่หอพักเป็นเด็ก UTS และเดินไปหาเพื่อนสนิทที่เรียนอยู่ที่ USYD ได้ ลูกลิงจะได้เพื่อนเยอะ ๆ หลากหลายจากทุกมหาลัยใกล้เคียง ซึ่งก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ วันดีคืนดีลูกลิงก็ไปนั่ง lecture กับเพื่อนที่ USYD โอยยยยย ขำกลิ้งไปอีก เอาเถอะ ใช้ชีวิตให้คุ้ม 08 Dec 2022, สัญญาหอพักนักศักษาหมด และก็ปิดเทอม แต่ลูกลิงกับเพื่อนก็ไปเช่าบ้านทิ้งเอาไว้ใกล้ UNSW ปิดเทอมก็ต้องเช่าทิ้งเอาไว้ครับ เพราะถ้ารอเปิดเทอม บอกได้เลยว่านักศึกษาหาที่พักยากมากกกกกก ที่พักศึกษา: $319/week (ตัวเลขแปลกมาก ไม่ตัวกลม ๆ) ที่พักปัจจุบัน ออกมาเช่าอยู่กันเองกับเพื่อน: $245/week เราก็ประหยัดไปอาทิตย์ละ $74 เราเป็นคนจ่ายค่าเช่าที่พักให้ลูกลิงเอง (เอาไว้ blog หน้าเดี๋ยวเขียนเรื่องนี้) ช่วงปิดเทอมลูกลิงก็กลับมาอยู่บ้าน แต่วันดีคืนดีลูกลิงก็จะบอกเราว่า วันนี้จะเข้าไปใน Sydney ไปทานข้าวกันเพื่อนแล้วจะค้างที่โน่นเลย แล้วจะกลับบ้านวันรุ่งขึ้น huh... อะไรนะ... แบบนี้ก็ได้เหรอ แต่เราก็ไม่เคยขัด เพราะลูกลิงจบ high school แล้ว ชีวิตเป็นอิสระ 99.99% แล้ว จะไปไหนมาไหน ไปนอนไหนได้หมดเลย เพราะลูกลิงก็ยังเช่าบ้านเอาไว้ที่ซิดนีย์อยู่ ก็สบายไปอีกแบบ หรือวันดีคืนดี ลูกลิงก็บอกว่าวันนี้จะทานข้าวกับเพื่อนที่ซิดนีย์ เย็น ๆ จะกลับ (ไม่ค้าง) เราว่าก็ดีนะ ปิดเทอมลูกลิงก็ใช้ชีวิตให้คุ้ม อยู่ที่ Wollongong ก็ hang out กับเพื่อนที่ Wollongong ว่าง ๆ ก็เข้าไป hang out กับเพื่อนในซิดนีย์ ปกติช่วง summer แบบนี้ลูกลิงจะไปใช้ชีวิตอยู่ที่สิงคโปร์และเมืองไทย summer นี้ก็พิเศษหน่อย ก็ไม่เป็นไร เดี๋ยว summer หน้าค่อว่ากัน เราเห็นลูกลิงออกไปใช้ชีวิตกับเพื่อนเราก็มีความสุขไปด้วย ว่าง ๆ ลูกลิงก็ไป rock climbing, ice skating (Macquarie Uni) หรือ skating ที่ Wollongong สำหรับเรา มันอาจจะยังใหม่อยู่ที่ลูกลิงตื่นมาแล้วบอกว่าจะเข้าไปเดินเล่นในซิดนีย์ หรือเข้าไปค้างในซิดนีย์ แต่คนเป็นพ่อเป็นแม่ก็ต้องทำตัวให้ชิน เพราะลูกเองก็โตแล้ว เขาก็ออกไปมีชีวิตของเขาก็ถูกต้องแล้ว เราก็แค่คอยอยู่เบื้องหลัง คอย support เขา คอยเป็นลมใต้ปีกให้เขา ก็แค่นั้นเอง เมื่อลูกลิงตัวโตติด COVID วันที่ 10 Nov 2022 ที่ผ่านมา ลูกลิงก็ต้องอยู่พักรักษาตัวอยู่ที่ Sydney กลับบ้านไม่ได้เพราะที่บ้านก็มีคุณแม่ที่เป็นคนป่วยอยู่ ภูมิต้านทานไม่เหมือนคนทั่ว ๆ ไป
- ก็ยังโชคดีที่ UNSW ก็เหลือ lecture อีกแค่ 1 อาทิตย์หลังจากนั้น - โชคดีที่เราก็ยังพอมี "ครอบครัว J" ที่อยู่ที่ Sydney ที่คอยให้ความช่วยเหลือ ส่งอาหารให้ลูกลิง ส่งยาให้ลูกลิง บอกได้เลยว่าถ้าเราไม่ได้ "ครอบครัว J" ที่ Sydney ที่คอยช่วยเหลือเราในช่วงนี้ อะไรหลาย ๆ อย่างคงลำบากน่าดู ครอบครัวเรารู้สึกซาบซึ้งและกราบขอบคุณจากใจจริง อะไรที่เราได้รับความช่วยเหลือจากใคร เราจะไม่ลืม ลูกลิงออกไปใช้ชีวิตเด็กมหาลัยใน Sydney ออกไปอยู่หอพักเองตั้งแต่ประมาณ Jun/Jul เราก็ปล่อยให้ลูกลิงออกไปใช้ชีวิตให้เต็มที่ จันทร์-ศุกร์ แล้วเสาร์-อาทิตย์ก็กลับบ้าน ลูกลิงเป็นลูกครึ่ง Thai-Singaporean และก็เกิดและเติบโตที่ออสเตรเลีย วัฒนธรรมการเลี้ยงดูที่ครอบครัวก็จะแตกต่างไปจากที่อื่น และราเป็นอาจารย์สอนหนังสือด้วย การเลี้ยงดูลูกของเรากับภรรยาก็แตกต่างกันไปอีก เราสอนลูกศิษย์ที่โรงเรียนก็พอจะรู้บ้างว่าเด็ก ๆ วัยนี้ต้องการอิสระ ต้องการพื้นที่ส่วนตัว ช่วงเวลาจันทร์-ศุกร์เราจะห้ามภรรยาเราเลย ห้าม text หาลูกลิง เพราะแรก ๆ แม่เค๊าก็จะ text หาลูกชายเค๊าบ่อยมาก ถามว่าทานข้าวหรือยัง วันนี้กินอะไรนั่น นี่ โน่น แต่ส่วนมากลูกชายก็จะส่ง text ตอบกลับแม่เค๊าแค่สั้น ๆ แค่ - Good - OK - Done เราก็เลยบอกภรรยาเราว่าไม่จำเป็นต้อง text หาลูกลิงบ่อยขนาดนั้นก็ได้ ลูกลิงเอาตัวรอดได้แหละ ของกินใน Sydney ก็เยอะแยะ ที่มหาลัยก็มีขาย เพื่อนเค๊าก็มี ก็ปล่อยให้เค๊าไปใช้ชีวิตอยู่กับเพื่อน ๆ เค๊าบ้าง ที่บ้านเราก็เลยไม่ text ลูกลิงอะไรเลย รอเจอกันตอนที่เราไปรับเค๊าที่สถานีรถไฟวันศุกร์ แล้วก็ค่อยถามไถ่กันดีกว่า Dealing กับวัยรุ่นก็ไม่ง่ายนะครับ ไอ้รักหนะ มันก็รักแหละ แต่เราก็ต้องให้พื้นที่สำหรับลูก ๆ ด้วย ก็จะมีแค่ช่วงที่ลูกลิงติด COVID นี่แหละที่เรากับภรรยาก็ text หาลูกลิงบ่อยหน่อย แต่ก็แค่ตอนเช้านะ วันเว้นวัน ไม่ได้ text ทุกวัน ถ้า text ทุกวันเดี๋ยวลูกก็รำคาญอีก วัยรุ่นเอาใจยากกกกกกกกก นี่เหมือนเป็นปรากฏการณ์ครั้งที่ลูกลิงบอกว่า "I miss home" คิดถึงบ้าน คิดถึงอาหารที่บ้าน คำพูดเหล่านี้จะไม่หลุดออกมาจากปากลูกลิงง่าย ๆ นี่แสดงว่าคงคิดถึงบ้านจริง ๆ ที่ Sydney ลูกลิงก็มีอาหารกล่องนะครับ ช่วงที่ติด COVID แต่เค๊าก็คงเบื่อละมั้ง คงอยากจะทานอะไรใหม่ ๆ ทุกวัน คงเบื่อกันอาหารไมโครเวฟที่หอพัก ณ วันนี้ ณ วันที่เขียน blog (27 Nov 2022) ลูกลิงตัวโตกลับบ้านแล้วครับ กลับมาตั้งแต่ Thu 24 Nov 2022 แล้ว การที่เราเห็นลูกลิงสองตัวมาเจอกัน เจี๊ยวจ๊าวกันวันเสาร์-อาทิตย์ ถึงแม้เสียงมันจะดังไปหน่อย (ช่วงที่ลูกลิงไม่อยู่ ที่บ้านก็เงียบมาก ก็ดีไปอีกแบบ) แต่มันก็ดูอบอุ่นดี ตกกลางคืนมาก็เลือกดูหนังใน Netflix กัน ดูด้วยกันหมดทุกคนเป็น family เก็บเกี่ยววันเวลาเหล่านี้เอาไว้ครับ เมื่อเค๊าโตเค๊าก็ต้องออกไปโบยบิน ชีวิตคนเราก็แค่นี้แหละครับ มีความสุขกับสิ่งรอบข้าง มีความสุขกับสิ่งที่มี สิ่งเล็ก ๆ ที่เรียกว่า "รัก" อย่าลืมบอกรักคนข้างกายทุกวันนะครับ ไม่ว่าจะเป็นทางวาจา, body langauge, หรือการกระทำ ทุก ๆ วินาทีที่ได้อยู่ด้วยกันนั้นมันมีค่ายิ่งนัก บันทึกเอาไว้เป็นความทรงจำ 27/11/2022 ในช่วงเวลาที่ยุ่งแสนยุ่ง สิ่งที่เราไม่อยากให้เกิดก็เกิดขึ้น
วันพฤหัสเช้า; 10 Nov 2022, 9:31am ลูกลิงตัวโตโทรมาจาก Sydney ว่าติด COVID ตอนนี้อยู่ที่หอพัก วันรุ่งขึ้นคงกลับบ้านไม่ได้ แล้วแพลนการใช้ชีวิตและการทำงานของวันนั้นก็ต้องเปลี่ยนไป เพราะที่เราแพลนกันเอาไว้คือ: - ศุกร์; 11 Nov 2022 เราต้องไปช่วยงานคอนเสิร์ตพี่ก้อง เบน ซานิ ที่ The Star City แล้วต้องพักที่ The Star 1 คืนเพราะงานคอนเสิร์ตเลิกดึก แล้วเราค่อยกลับบ้านเช้าวันเสาร์ - เราแพลนจะออกจากบ้าน วันศุกร์ 11 Nov 2022; 2pm - ลูกลิงเสร็จ lecture วันศุกร์ 12pm แล้วนั่งรถไฟกลับบ้านที่ Wollongong เลย แล้วมาอยู่เป็นเพื่อนแม่กับน้องสาว (ลูกลิงตัวเล็ก) เมื่อลูกลิงติด COVIDเขาก็กลับบ้านไม่ได้ ก็ต้องอยู่ต่อที่ Sydney จนกว่าจะหาย แล้วอาทิตย์หน้าค่อยกลับ ส่วนงานคอนเสิร์ตพี่ก้อง The show must go on. จริง ๆ เราไม่ไปก็ได้ เพราะการใช้ชีวิตทั่ว ๆ ไปของเรา "ครอบครัวมาก่อนเสมอ" แต่เราก็มีน้อง ๆ "Avengers Team" จาก QLD มาช่วยงานนี้ น้อง ๆ ก็คงอยากจะเจอเรา สำหรับเรา การทำธุรกิจ "ทีมงานเรามาก่อนเสมอ" รองลงมาจากครอบครัว เราก็ต้องไป เพื่อเติมพลังให้น้อง ๆ ก่อนที่น้อง ๆ จะกลับ QLD กัน ลำดับความสำคัญของการทำงานของเราคือ: 1. ครอบครัว 2. ทีมงาน 3. ลูกค้า เราก็เลยต้องเปลี่ยนแผน: - แจ้งข่าวนี้กับทางผู้จัดงานคอนเสิร์ต - แจ้งข่าวกับ "Agengers Team" ว่าเราจะยังคงไปช่วยงานเหมือนเดิม ไปเจอน้อง Avengers Team เหมือนเดิม แต่ไม่ได้อยู่ดูคอนเสิร์ต ไม่ได้ค้าง จะไปแค่ช่วยงานแจกบัตร เสร็จแล้วก็กลับเลย คิดว่าไม่น่าจะเกิน 7pm The show must go on แต่ครอบครัวก็ต้องมาก่อน งานสนุก งานบันเทิงเอาไว้ทีหลัง แค่เราได้มีส่วนร่วมในการโปรโมทงานนี้ เราก็ OK แล้ว วันงาน; 11 Nov 2022 งานก็ออกมาอย่างที่เห็นตามสื่อ พอเอาเข้าจริง ๆ กว่าจะได้ออกมาก็ 8:45pm วันพฤหัสเช้า 9:31am วันที่ลูกลิงโทรมาบอกเราว่าเขาติด COVID นอนอยู่ที่หอพัก และกว่า room mates จะกลับมาก็ 3pm คนเป็นพ่อเป็นแม่ก็เป็นห่วง เพราะกว่าเพื่อนจะกลับมาก็อีกตั้ง 6 ชั่วโมง โชคดี เราก็พอดี "ครอบครัว J" ที่อยู่ที่ Sydney ที่พอจะขอความช่วยเหลือได้บ้าง เราก็ให้น้องที่อยู่ที่ Sydney ช่วยซื้อ panadol, ที่วัดอุณภูมิ และ strepsils เอาไปแขวนไว้ที่ประตูหอพัก และเมื่อวาน (12 Nov 2022) ก็มีการส่งข้าวส่งน้ำ และยาอมแก้เจ็บคออย่างที่เห็นตามภาพ ขอบคุณ ขอบคุณจริง ๆ ที่เราก็ยังพอมีคนที่เราสามารถขอความช่วยเหลือในยามยากได้ แล้วยิ่งลูกลิงเกิดที่นี่ โตที่นี่ มีความเป็นฝรั่งสูง บางทีจะทำอะไรก็ต้องระวัง เราจะไปจู้จี้จุกจิกเขามากไม่ได้ และยิ่งเข้าเรียนมหาลัยแล้ว ยิ่งต้องระวังให้มาก วัยรุ่น เอาใจยาก ส่วนเรื่องยาแก้ COVID นั่น นี่ โน่น หมดสิทธิ์ครับ แม่เค๊าต้องเช็คก่อนว่ายาตัวนี้คือะไร ยังไง ผ่าน WHO มั้ย ฟ้าทะลายโจรอะไรนั่นหนะ ไม่ต้องพูดถึง ถ้าอันไหนไม่ผ่าน WHO เค๊าก็จะไม่ให้ถึงมือลูกชายเค๊าเป็นอันขาด พูดยากจ๊ะ แม่เค๊าเป็นสายวิทยาศาสตร์ล้วน ๆ จะมาเอาอะไรเหมือนคนไทยเราไม่ได้ ส่วนเราก็ "เพลียที่จะอธิบาย" ไม่พูดอะไรดีที่สุด แม่เค๊าจะเข้าไป website ของ governmment เองว่าต้องทำอะไรบ้าง ทานยาอะไรได้บ้าง อะไรที่ไม่ approved โดยรัฐบาล อะไรที่ไม่ approved โดยหน่วยงานที่น่าเชื่อถือได้ เค๊าก็ไม่เอา ไม่เห็นด้วยทั้งนั้น ก็ต้องปล่อยให้แม่เค๊าเป็นคนจัดการ เพราะแม่เค๊าคือ CEO ของบ้านตัวจริง เราเป็นแค่ทับหนุนพอ เมื่อวานน้อง "ครอบครัว J" ก็เป็นธุระให้อีกครั้ง ช่วยเอาเสบียงอาหารพวกซุบต่าง ๆ และยาอมแก้เจ็บคอ ไปให้ อย่างน้อยก็จะได้มีอะไรกิน จะมารอ room mate วิ่งซื้อนั่น นี่ โน่น ก็ไม่รู้จะทำได้มากน้อยแค่ไหน เพราะ room mate ก็ต้องไปเรียนด้วย เราดูแลกันเองนี่แหละดีที่สุด ขอบคุณ ขอบคุณ และก็ขอบคุณอีกครั้ง ใคร "someone" ที่ช่วยเป็นธุระในครั้งนี้ ไม่ว่าจะเมืองไหน อะไร ยังไง อุ่นใจเสมอ ถ้าเรามีสมาชิกของ "ครอบครัว J" อยู่ที่นั่น ตอนนี้ลูกลิงก็แค่ทาน panadol และ strepsils เราก็ไม่ได้ worry อะไรมาก เพราะลูกลิงเองก็วัคซีนไป 3 เข็มแล้ว คิดว่าน่าจะอีก 2-3 วัน ลูกลิงก็น่าจะ OK รอวันลูกลิงกลับบ้าน กราบขอบคุณใคร "someone" ที่ช่วยเป็นธุระให้ ...รักเสมอ... ตอนนี้ลูกลิงตัวโตเรียนอยู่ที่ UNSW, full-time
ที่ UNSW 1 ปีการศึกษามี 3 เทอม เป็น trimester full-time เรียนเทอมละ 3 วิชา 1 trimester เรียน 10 weeks 1 ปี เรียน 9 วิชา ลูกลิงย้ายไปอยู่หอพักนักศึกษาใน Sydney ตั้งแต่เทอมที่แล้ว เทอมแรก ลูกลิงมีเรียนแค่ 3 วัน; อังคาร พุธ พฤหัส และก็เดินทางไปกลับทุกวัน เราเห็นลูกเดินทางเหนื่อย คนเป็นพ่อเป็นแม่ก็สงสารจับใจ ก็เลยให้ไปเช่าหออยู่เลยละกันตอนเทอมที่ 2 Sydney-Wollogong ไม่ไกล แต่ถ้าต้องเดินทางไปเรียนทุกวันแบบนั้น มันก็อาจจะกระทบกับการเรียนของลูกได้ เทอมที่ 2 ลูกลิงลงเรียนแค่ 2 วิชาตามที่เราแนะนำ เพราะเราอยากให้ลูก enjoy the uni life ให้มากที่สุด ไม่ต้องรีบจบ เรียนไป หาประสบการณ์ชีวิตไป แบบบนี้ดีกว่า เรากับภรรยาผ่านชีวิตการเรียนที่มหาลัยที่ประเทศออสเตรเลียมาก่อน เรารู้ดีว่ามันเป็นยังไง เราก็อยากให้ลูกเราสนุกกับชีวิตการเป็นนักเรียนมหาลัยได้มากที่สุด พอเทอม 2, ลูกลิงเรียนแค่ 2 วิชา มีเรียน 3 วันเหมือนกัน แต่เรียน online 2 วัน เรียน practical แค่ 1 วันคือวัพฤหัส เอ๊า พอลูกลิงไปเช่าหอพักใน Sydney; $319/week (daddy จ่าย, หักผ่านบัญชีทุก ๆ 2 weeks) แล้วก็มาดันมีเรียนแค่อาทิตย์ละ 1 วันนี่นะ แล้วอีก 2 วันที่เหลือก็เรียน online เรียน online จริง ๆ แล้วก็เรียนอยู่ที่บ้าน อยู่ที่ Wollongong ก็ได้ แต่ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว ลูกลิงได้เช่าหอพักเอาไว้แล้ว ลูกลิงก็เลือกที่จะเข้าไปใช้ชีวิตที่ Sydney ได้เดิน เล่น เที่ยว กับเพื่อน ๆ ของเขา ซึ่งเราก็สนับสนุนเต็มที่ เราอยากให้ลูกเราได้ experience ชีวิตข้างนอกให้เต็มที่ ชีวิตช่วงเรียนมหาลัยมันเป็นอะไรที่สนุก เราไม่อยากให้ลูกเคร่งแต่เรื่องการเรียนอย่างเดียว เทอมที่แล้ว เทอม 2; ลูกลิงมีเรียน อังคาร พุธ พฤหัส แต่ก็เรียน online วันอังคารและวันพุธ เขาก็จะเข้า Sydney วันจันทร์เช้า เพื่อไป rock climbing กับเพื่อน ๆ เขาบ้าง กิจกรรมวันจันทร์ของลูกลิงกับเพื่อน ๆ วันจันทร์ก็จะเป็น rock climbing เอย, ice skating เอย หรือบางทีก็พากันไปยิงธนู ชีวิตเด็กมหาลัย มันต้องแบบนี้สิ ส่วนเรื่องการเรียน ไม่ต้องห่วง ลูกลิงได้ HD ทั้ง 2 วิชา (HD: High Distinction) Physics กับ Maths เราก็เลยไม่ค่อย worry เรื่องการเรียนลูกเท่าไหร่ เราอยากให้เขา experience ชีวิตเด็กมหาลัย และการใช้ชีวิตนอกบ้านให้มากที่สุด เทอมนี้เทอม 3 เทอมสุดท้าย ลูกลิงลงเรียน full-time 3 วิชา ซึ่งเราก็ไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่ เอาจริง ๆ คือเราไม่อยากให้ลูกเครียด ไม่อยากให้ลูกเรียนหนัก เราอยากให้ลูก enjoy uni life มากกว่า แต่... anyway เมื่อลูกลิงเลือกที่จะลงเรียน 3 วิชา เราก็ต้องปล่อยเขา พอเทอมนี้ลูกลิงลงเรียน 3 วิชา ตารางเรียนลูกลิงก็ออกมาแน่นเอี๊ยดเลย กระจาย ๆ กันไป สรุปคือเรียนทุกวัน จันทร์-ศุกร์ แต่เรียนแบบกระปิดกระปอย เรียนวันละนิดวันละหน่อย เทอมนี้ลูกลิงก็เลยอยู่ที่ Sydney ซะเป็นส่วนใหญ่ ไป Sydney วันจันทร์เช้า วันศุกร์เลิกเรียน ก็กลับบ้าน สรุปเทอมนี้ก็กลับบ้านแค่ เสาร์-อาทิตย์ เอง เราก็ต้องปล่อยให้ลูกลิงออกไปโลดแล่น ออกไปโบยบิน ใช้ชีวิตของเขา เขากลับบ้านมาเสาร์-อาทิตย์ เขาก็ยังอ่านหนังสือ ทำการบ้านทุกวัน ไม่เว้นเสาร์-อาทิตย์ เหมือนเช่นเดิมตอนสมัยเรียน hig school ที่บ้านเราเป็น "open door" policy ห้องนอนทุกห้องห้ามปิดประตู ปิดประตูก็ต่อเมื่อตอนเข้านอนเท่านั้น เวลาเราเดินผ่านห้องลูก เราก็จะเห็นเสมอว่าลูกลิงทำอะไรอยู่ เราก็ happy แล้ว ความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ ของพ่อแม่ ความสุขที่ไม่ต้องไปซื้อมาด้วยเงินทอง คนเรารักกัน ไม่จำเป็นต้องเจอหน้ากันทุกวันก็ได้ ระหว่าง weekdays ที่ลูกลิงไปใช้ชีวิตอยู่ที่ Sydney เรากับภรรยาก็ไม่ text ไม่ call ปล่อยให้เขามีอิสระในการใช้ชีวิตในเมืองของเขาไป ที่พักของลูกลิงค่อนข้างสะดวก อยู่ใจกลางเมืองเลย ใกล้ Central station เดินไป China town ได้ เดินไป Thai town ได้ เทอมที่แล้ว เราเคยถามลูกลิงว่าถ้าเราซื้อ apartment ให้ที่ Hurstville ลูกจะมาอยู่มั้ย เดินทางประมาณ 30 นาทีถึง Central station จะได้ไม่ต้องไปเสียค่าเช่าหอพัก สรุป ลูกลิงบอกว่าไม่เอา ชอบอยู่ใน Sydney มากกว่า ใกล้ทุกอย่าง สะดวกทุกอย่าง อ๊ะ... ซะงั้น กลายเป็นเด็ก Sydney ไปแล้ว Hurstville ก็เลยหมดสิทธิ์ anyway... ช่วง weekend แบบนี้ ลูกลิงกลับบ้าน ก็นั่งทำการบ้าน นั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องเค๊า บางทีเขาก็มีเล่นเกมส์ออนไลน์กับเพื่อนสมัย high school บ้าง เราก็นั่งทำอะไรอยู่ข้างนอก แค่ได้ยินเสียงลูกหัวเราะกับเพื่อน ๆ เขาเวลาเขาเล่นเกมส์ออนไลน์ คนเป็นพ่ออย่างเราก็มีความสุขแล้วครับ มีความสุขกับสิ่งเล็ก ๆ รอบข้างกายเรานะครับ ชีวิตเป็นสิ่งไม่แน่นอน ทำวันนี้ให้ดีที่สุดก็พอ "สุข" ที่สุด ณ จุดที่เป็น บันทึกเอาไว้เป็นความทรงจำ.... "The Paopengs" 02/10/2022 |
บันทึกเรื่องราวต่าง ๆ ของคุณพ่อลูก 2 Archives
June 2024
|