ลูกลิงตัวโต เมื่อเริ่มเรียน senior year; year 11-12 เขาก็มีความรับผิดชอบมากขึ้น
Daddy ไม่ต้องคอยบอกว่าเขาต้องทำอะไรบ้างเหมือนตอนอยู่ year 8, year 9 จริง ๆ ตั้งแต่เรียน year 10 เมื่อปีที่แล้ว เขาก็เริ่มเป็นผู้ใหญ่แล้วหละ เพราะเรียนอยู่ top class Maths, top class Science เราก็เลยไม่ค่อยเป็นห่วงเขาในเรื่องของ academic หรือการคบเพื่อนเท่าไหร่ ตอนเป็นเด็ก year 8, year 9 เราก็ยังเป็นห่วงอยู่ และยังไม่ค่อยปล่อยอะไรมาก พอขึ้น year 10, เราก็เริ่มปล่อยแล้ว เราให้อิสระเขามากขึ้น เขาอยากจะไปงานวันเกิดเพื่อน เราก็ให้ไป เขาอยากจะไปเล่นบ้านเพื่อนช่วง weekend เราก็ให้ไป เราก็มีหน้าที่ ขับรถรับส่ง เป็นพ่อที่ดีว่างั้นเถอะ เรารู้ว่าเพื่อนเขาแต่ละคนก็เป็นเด็กเรียน การเรียนอยู่ที่ห้อง top class มันก็ดีอย่างนี้แหละ คือเราไม่ต้องห่วงเรื่องการคบเพื่อนของเขา เพราะเขาก็มีการนัดกันติวหรือทำการบ้านด้วยกันทุกวันอังคารเย็น หลังเลิกเรียน อะไรประมาณนี้ ซึ่งพวกเขาเป็นคนจัดการ จัดแจงกันเอง เราไม่เคยชี้แนะอะไร ปีนี้ลูกลิงเรียน year 11 แล้ว วิชาเลือกของลูกลิงก็จะโหด ๆ นิดหนึง ก็จะเป็นพวก Advanced Maths, Maths Extention, Physics ออกแนวสายวิทย์เหมือน daddy กับ mommy เลย ปีที่แล้วลูกลิงได้ที่ 1 Maths ของทั้งโรงเรียน (ลองไล่อ่านใน blog EP เก่า ๆ ได้) ปีนี้มันก็ยังเร็วเกินไปที่รู้ว่าใครจะได้ที่เท่าไหร่ อะไร ยังไง แต่เราก็บอกลูกลิงเสมอว่า เวลาเรียนกับเพื่อน ๆ ให้ช่วย ๆ กันเรียน ช่วยส่งเสริมกัน ไม่มีการแข่งขันกัน ซึ่งลูกลิงก็บอกว่า ก็ไม่ได้แข่งอะไร เพื่อน ๆ ทุกคนก็ช่วยกันเรียนอยู่แล้ว ทุกครั้งที่ลูกลิงตัวเล็ก เขามีแข่ง dance หรือการแสดงต่างเมืองช่วง weekend เราก็จะพากันไปทั้งครอบครัว ไปพักที่อื่น ไปเที่ยวต่างเมือง ลูกลิงตัวโตเขาก็ pack การบ้านของเขา มานั่งทำการบ้านที่โรงแรมเอง เราไม่ต้องบอก คือทุกอย่างต้อง adapt และ adopt เพราะ daddy เองก็ต้อง pack laptop มานั่งทำงานในโรงแรมเหมือนกัน แม่กับลูกลิงตัวเล็ก ก็จะ busy ไปกับกิจกรรม dance อะไรต่าง ๆ ของเขา เรากับลูกชายที่นั่งทำงานในห้อง ที่โรงแรม ชิล ๆ กันไป เทอมที่แล้วและต้นเทอมนี้ ถึงแม้จะมีปัญหาเรื่อง Covid-19 ลูกลิงตัวโตก็ยังตั้งใจเรียนเหมือนเดิม เท่าที่รู้ ก็ได้ 100% Maths Extention ซึ่งก็ถือว่าดีมาก ตอนนี้ก็รอผลสอบหรือผล assignment ของวิชาอื่นด้วย; Physics และ Advanced Maths..etc...etc... ถ้าได้ 100% Maths Extention ก็ถือว่าเจ๋งสุดแล้ว เพราะแค่ Maths ธรรมก็ยากจะตายห่าอยู่แล้ว Maths Extention ไม่ต้องพูดถึง ทุกครั้งที่ลูกลิงบอกผลสอบหรือผล assignment พวกเรา เราก็ให้คำชื่นชมกับลูก ๆ เสมอ เพื่อให้เขามีกำลังใจ แต่ daddy ก็บอกลูกลิงเสมอว่า ไม่ให้ชะล่าใจ เพราะบางทีลูกลิงก็แก้โจทย์ผิดแบบง่าย ๆ ก็มี บางทีสมการง่าย ๆ ถ้าแก้สมการผิดเนี๊ยะ มันผิดไปหมดเลย เวลาลูกลิงเรียนหรือทำการบ้าน เขาก็นั่งทำของเขาเองในห้อง และก็คุยกับเพื่อนผ่าน Instagram ซึ่งเราก็คอย check ตลอดอยู่แล้วว่าเขาคุยกันเรื่องงานหรือคุยเล่น ๆ ที่บ้านเราไม่ปิดประตู ลูก ๆ ต้องเปิดประตูห้อง เวลาเราเดินผ่าน เราสามารถ check ได้ว่าลูก ๆ ทำอะไรอยู่ นาน ๆ ทีลูกลิงก็เอาสมการอะไรมาให้เราช่วยตรวจ ก็มีบ้างแต่ไม่เยอะ โดยเฉพาะ Maths เวลาแก้สมการ มันก็แก้กันได้หลายแบบ และวิธีการแก้สมการของเราก็อาจจะไวและเร็วกว่าการแก้สมการอย่างแบบที่ลูกลิงเรียนมาก็ได้ มันก็เป็นประโยชน์นะสำหรับเด็ก ๆ ที่คุณพ่อคุณแม่สามารถนั่งทำการบ้านหรือตรวจการบ้านกับลูกได้ ก็ถือว่าโชคดีที่ daddy เป็นเด็กสายวิทย์ ลูกลิงทั้งสองไม่ได้เรียนพิเศษ เพราะทั้งพ่อและแม่ก็เป็นเด็กสายวิทย์ เป็นเด็ก IT ด้วยกันทั้งคู่ ภรรยาเราเป็น Network Engineer จ๊ะ เราเป็น Software Engineer (เคยเป็น) ลูกลิงตัวโต เคยเรียนพิเศษ ตอน year 5 และก็เทอมแรก year 6 เพราะตอนนั้นเราอยากจะให้ลูกเข้าโรงเรียน selective school (ที่ NSW, selective school คือเด็กต้องมีการสอบเข้าเท่านั้น ดังนั้นต้องเฉพาะเด็ก top ๆ จริง ๆ ถึงจะเข้าเรียนได้) เราเห็นการบ้านและแบบฝึกหัดจากการเรียนพิเศษแล้ว ช่วงที่ลูกลิงตัวโตเรียนพิเศษ year 5 และเทอมแรก year 6 คือมันเยอะมาก กลับมาถึงบ้านลูกเราก็เครียด เพราะการบ้านเยอะ ถ้าเราย้อนกลับเวลาไปได้ เราก็คงจะไม่ไห้ลูกไปเรียนพิเศษ เราคงจะช่วยสอนลูกเอง แต่ภรรยาเราก็คิดต่าง เพราะที่โรงเรียนประถมไม่ค่อยให้การบ้านเท่าไหร่ การเรียนพิเศษถือว่าเป็นการเรียนเพิ่มเติม เพื่อได้เทคนิคในการแก้โจทย์อะไร นั่น นี่ โน่น มา แต่หลังจาก yera 6 เทอมแรกเป็นต้นมา ลูกลิงตัวโตก็ไม่ได้ไปเรียนพิเศษแล้วหละ แล้วเขาก็ดูมีความสุขมากขึ้น พอเขามีความสุข และดู happy มากขึ้นเท่านั้นแหละ พอขึ้น high school; year 7 ผลการเรียนเขาพุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ โดยที่ไม่ต้องเรียนพิเศษอะไรเลย ส่วนลูกลิงตัวเล็ก คนนี้ไม่ต้องพูดถึง เขาจะเอาดีทาง dance เวลาหลังเลิกเรียนของเขาก็เหมือนกับการเรียน full-time dance ไปแล้ว เขาเคยไปเรียนพิเศษตั้งแต่เด็ก ๆ ไม่ถึง 1 เทอมด้วยซ้ำ และหลังจากนั้นก็เรียน dance มาโดยตลอด เขาก็สอบเข้า selective school ของเขาได้เอง แต่เขาก็เลือกที่จะไม่ไป เขาเลือกที่จะเรียนที่โรงเรียนที่เน้นการแสดงมากกว่า เป็นพวก performing art high school สุดท้ายแล้ว เราคิดว่า คนที่เป็นพ่อ เป็นแม่หรือผู้ปกครอง เรามีหน้าที่แค่ช่วยคอย support และชี้แนะเท่านั้น ทุกอย่างลูกต้องเลือกและตัดสินใจเอง ไม่ว่าลูกจะไปสายวิทย์ หรือสาย art, ทุกอย่างดีหมด ขอแค่เราให้ความรักและความใส่ใจกับพวกเขา พวกเขาสามารถสัมผัสได้ ลูกสอบได้ 100% ก็อย่าเพิ่งดีใจ อย่าเพิ่งชะล่าใจ ก็ยังต้องทบทวนบทเรียนหลังเลิกเรียนอย่างสม่ำเสมอ เราก็หวังว่าคุณพ่อ คุณแม่ที่อ่าน blog นี้ จะนำเอาอะไร ไม่มากก็น้อยจาก blog นี้ไปประยุกต์ใช้กันนะครับ |
บันทึกเรื่องราวต่าง ๆ ของคุณพ่อลูก 2 Archives
October 2024
|