ปีนี้ลูกลิงตัวโตเข้ามหาลัยแล้วครับ
ถ้าหลานชายเรายังอยู่ ปีนี้ลูกลิงต้อง take gap year แล้วไปอยู่เมืองไทย 1 ปีเต็ม ๆ ไปเพื่อไปเรียนภาษาไทย ไปเพื่อไปเรียนรู้วัฒนธรรมไทย เพราะที่บ้านเราใช้ภาษาอังกฤษกัน และก็ใช้ชีวิตเหมือนคนออสเตรเลียนทั่ว ๆ ไป เราก็เลยอยากจะให้ลูกลิงไปซึมซับวัฒนธรรมไทยและเรียนภาษาไทยที่โน่น แต่ทุกอย่างก็ต้องเปลี่ยน เมื่อหลานชายเราไม่อยู่ เพราะลูกลิงสนิทกับหลานชายเรา ก็กะว่าจะให้ไปเดินเล่นโต๋เต๋ด้วยกัน 2 พี่น้อง ให้ลูกเราไปนั่งเรียนมหาลัยกับหลานชายเรา (ทำได้ เชื่อสิ) หรือไม่ก็ไปช่วยขายของอยู่ที่ร้าน ให้ลูกเราได้พูดภาษาไทย ให้หลานเราได้พูดภาษาอังกฤษ เมื่อหลานชายเราไม่อยู่ ลูกลิงไปเมืองไทย 1 ปี ก็คงไม่มีเพื่อน เราก็เลยเปลี่ยนแผน บอกลูกว่า ไม่ take gap year ก็ไม่เป็นไร เพราะเรื่อง gap year พวกเราเตรียมตัวและคุยกันเอาไว้ตั้งแต่เด็ก ๆ ยังเล็ก ๆ อยู่ เพราะเราจะไม่สอนลูกพูดภาษาไทย ลูกต้องไปเรียนรู้เอง ถ้า daddy มาที่ประเทศออสเตรเลียแล้วมาเรียนภาษาอังกฤษเองได้ หนูก็ต้องไปเมืองไทยแล้วเรียนภาษาไทยเองได้เหมือนกัน พวกเราคิดกันแบบนี้ เลยไม่ได้สอนลูกภาษาไทยเลย anyway... วกเข้ามาที่ลูกลิง ปีนี้ลูกลิงได้รับ offer ทั้ง 3 มหาลัยที่ลูกลิงสมัครไป; UOW, UTS, UNSW ก็แน่นอนอยู่แล้ว 99.99% เราเดาใจลูกลิงอยู่แล้วว่าถ้าได้ UNSW เขาก็ต้องไป UNSW เพราะนี่คือ มหาลัย 1st ranking ของ NSW UOW แต่ก่อนก็เป็น Teacher College ของ UNSW นะครับ ดังนั้น UOW และ UNSW ก็มี history ซึ่งกันและกันอยู่ เพราะ UOW ก็แยกตัวออกมาจาก UNSW เพราะแต่ก่อน UOW ก็เป็น campus ของ UNSW สำหรับเราแล้ว ถ้าลูกลิงเลือกเรียนที่ UOW เราก็ OK เพราะถ้าเรียนที่ UOW ลูกลิงก็แทบจะไม่มีค่าใช้จ่ายเลย เพราะบ้านห่างจากมหาลับแค่ 5-10 นาที anyway... เขาก็เลือก UNSW ตามที่เขาตั้งเป้าหมายเอาไว้ เราก็ต้องยินดีกับเขาและคอย support เขา in every step along the way UNSW 1 ปี full-time ต้องเรียน 9 วิชา 1 ปีมี 3 เทอม แบ่งเป็นเทอมละ 3 วิชา เทอมแรก เทอมนี้ ลูกลิงก็เรียน full-time เลย เรียน 3 วิชา ซึ่งเราก็ไม่เห็นด้วยเท่าไหร่ เราอยากจะให้ลูกลิง enjoy ชีวิตของการเรียนมหาลัยมากกว่า เรียนไปด้วย ทำกิจกรรมไปด้วย ชิล ๆ เรียนเทอมละ 2 วิชาพอ ไม่ต้องรีบจบ อะไรประมาณนี้ แล้วไปลงเรียนเพิ่มช่วง summer อีก 1 วิชาได้ เราคิดว่าเรียนไปช้า ๆ ไม่ต้องรีบ เพราะไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องรีบ แบบนี้เราคิดว่าชีวิตน่าจะมีความสุขมากกว่านะ เรื่องทำงานไม่ต้องพูดถึง เราคิดว่าเราเตรียมอะไรไว้ให้ลูก ๆ หมดแล้วทั้ง 2 คน (3 คน ถ้าหลานชายยังอยู่) Investment properties อะไรต่าง ๆ จาก 3 ประเทศที่เรามี ก็น่าจะ support life style ที่พวกเราต้องการได้ จริง ๆ แล้วไม่ต้องดิ้นรนอะไรมากก็ได้ แต่... anyway... ลูกลิงก็เรียน 3 ตัว ผลสอบ mid-term ก็ออกมาดี 100% mid-term Maths อีก 2 วิชายังไม่รู้; Physics กับ Engineering เทอมนี้ลูกลิงไปเรียนที่ UNSW แค่ 3 วัน ที่เหลือก็เรียน online ได้ แรก ๆ เราก็ขับรถรับส่ง Wollongong-Sutherland (45 นาที) แล้วลูกลิงก็นั่งรถไฟจาก Sutherland ไป Central Station (30 นาที) แล้วนั่ง tram อีก 6 นาทีไป UNSW เรารับส่งอยู่ได้ 3-4 อาทิตย์เอง ลูกลิงก็ขอนั่งรถไฟจาก Wollongong เลยละกัน เพราะเขาอยากจะอ่านหนังสือในรถไฟ เพราะเขาบอกว่าเขาอ่านหนังสือในรถไม่ได้ เวลา daddy ขับรถส่ง เอ๊า... ซะงั้น แต่ก็... anyway... เขาโตแล้ว เขาอยากทำอะไรก็ต้องปล่อยเขา แต่เราก็พยายามบอกอยู่ว่า เทอมหน้าเรียนแค่ 2 ตัวพอนะลูก เราผ่านชีวิตการเป็นเด็กเรียนมาก่อน เรารู้ว่ามันเป็นยังไง OK แหละ มันรู้สึกดีเมื่อเราสอบหรือเขียน essay ได้ 95% ได้ 100% แต่เราก็ต้อง enjoy the Uni life ด้วย วันและเวลามันไม่เคยหวนกลับ ตั้งแต่ครอบครัวเราสูญเสียหลานชายเราไป มุมมองและการใช้ชีวิตของพวกเราเปลี่ยนไป เราอยากให้ลูกลิง enjoy life มากกว่า ลูกลิงเลือกที่จะเรียนที่ UNSW แทนที่จะเรียนที่ UOW เราก็เคารพการตัดสินใจของเขา มันก็คงเป็นความภูมิใจของเขาแหละ เพราะ UNSW Engineering ก็ไม่ได้เข้าได้ง่าย ๆ ATAR ต้อง 90+ (ATAR = Australian Tertiary Admission Rank) ในขณะที่เรียนที่ UOW ลูกลิงแทบจะไม่มีค่าใช้จ่ายเลย เพราะ free bus ก็อยู่ตรงหน้าบ้านเราเอง นั่งรถบัสไป 10 นาที หรือเราขับรถไปส่ง 5 นาที แต่....anyway... นั่นก็คือการตัดสินใจของลูก ๆ เราก็ต้อง support ทุก ๆ การตัดสินใจของพวกเรา ลูกลิงตัวโตก็เรียน Engineering ที่ UNSW ลูกลิงตัวเล็ก ตอนนี้ก็ปักหมุดไว้ที่ QUT (Bachelor of Dance) Brisbane เตรียมตัวเจอป่วนได้เลยจ๊ะ อีก 4 ปี เทอมแรกของ UNSW ผ่านมาครึ่งเทอมแล้ว อีกครึ่งเทอมจะเป็นยังไง เรายังไม่รู้ และอีกเทอมต่อ ๆ ไปจะเป็นยังไง เราไม่รู้ ทุกวันนี้ ขอแค่ทุกคนในครอบครัวมีความสุขก็พอแล้ว อย่างอื่น เรื่องของนอกกาย ถ้าไม่ตาย พวกเราก็คงหาเอาใหม่ได้ บันทึกเอาไว้เป็นความทรงจำ ครอบครัว "Paopeng" และลูกลิงของ daddy 03 Apr 2022 ปีนี้ลูกลิงลงแข่งสนาม Australian Classical Challenge ที่ Newcastle
ชื่อสนามแข่งก็บอกอยู่แล้วว่าเป็น classical dance ดังนั้นมันจะไม่มี Jazz, Hip Hop หรือ dance อื่น ๆ ลูกลิงก็ลงแข่ง 2 categories ด้วยกันคือ: - ballet และ - contemporary การแข่งขัน เป็นการแข่ง 3 วัน; Fri-Sat-Sun ก็มีรอบคัดเลือก และรอบ finallist ทั้ง 2 ประเภทมีคนเข้าแข่งขันประมาณ 80 คน และ finallist ก็แค่ 15 คนเท่านั้น แล้ว 15 คนนี้ก็ไปแข่งกันวันสุดท้าย ว่าใครจะได้ที่ 1-2-3 ลูกลิงไม่ติด finallist ของ comtemporary เพราะผู้เข้าแข่งขันก็เยอะจริง ๆ มาจากแทบทุกที่ของ NSW แต่ลูกลิงก็ได้ประสบการณ์และได้เจอเพื่อน ๆ ของเขา ทั้งเพื่อนใหม่และเพื่อนเก่า เอาจริง ๆ นะ ทุก ๆ สนามแข่งที่ลูกลิงไป ลูกลิงก็จะเจอคนแข่งเดิม ๆ ความสนิทสนม ความเป็นเพื่อนก็เริ่มขึ้น หลังจากการแข่งขันลูกลิงก็ยังคงติดต่อเพื่อน ๆ ที่เขาได้ไปเจอ ซึ่งเราคิดว่ามันเป็นการดีมากเลย แม่ ๆ เองก็เริ่มสนิทกันมากขึ้น เพราะเจอกันบ่อยเวลาลงแข่ง บางที่เขาก็ฝากเราให้ดูแลลูกเขา บางทีเราก็ฝากเขาให้เขาดูแลลูกเรา ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน บางทีลูกเราเข้ารอบ ลูกเขาไม่เข้ารอบ เราก็ต้องเก็บอาการ แต่มันก็เป็น part of the fun กิจกรรม dance เป็นกิจกรรมของลูกลิงตัวเล็กและแม่ของเขา 2 คนแม่ลูกเขาก็จะคุยกันกระนุ๊งกระนิ๊ง analyse การ dance ต่าง ๆ นานา ซึ่งเราฟังไม่รู้เรื่องหรอก และก็น่าเบื่อสำหรับเรา แต่แม่กับลูกเขามีความสุขกันเวลาพวกเขา 2 คนคุยกันเรื่องนี้ เราว่ามันก็เป็นอะไรที่ happy ดีนะ ทุกคนมีความสุข ครอบครัวมีความสุข มันก็อยู่กันง่าย เรามีหน้าที่แค่เป็นคนขับรถ ขับไป drop ที่สนามแข่ง แล้วก็ขับไปรับ เราก็กลับมานั่งทำงานต่อที่โรงแรม เกิดเป็น J ต้องอดทน สิบล้อชนต้องไม่ตาย การแข่งครั้งนี้: - contemporary ลูกลิงไม่ได้เข้ารอบ 15 คนสุดท้าย ก็ไม่เป็นไร ลูกลิงได้ประสบการณ์ ได้เพื่อน - ballet ลูกลิงได้เข้ารอบ 15 คนสุดท้ายจาก 80 คน ซึ่งเราถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว พอติด finallist 15 คน ลูกลิงก็ต้อง dance อีกรอบวันชิง แต่ก็ไม่ได้ตำแหน่งอะไร ไม่ได้ติดอันดับ 1-2-3 แต่ก็ไม่เป็นไร จริง ๆ ทุกคน 15 คนสุดช้ายคือ "ชนะ" แล้ว ทุก ๆ กิจกรรมของลูกมีค่าใช้จ่ายนะครับ คุณพ่อคุณแม่ที่มองหากิจกรรมให้ลูกก็ต้องเผื่อค่าใช้จ่ายตรงจุดนี้เอาไว้ด้วย ยิ่งต้องมีการแข่งขันต่างถิ่นด้วยหละก็ - ค่าเดินทางเอย - ค่าที่พัก ค่าโรงแรมเอย - ค่ากินเอย ชีวิตไม่ง่าย แต่ก็เป็น activity ที่ลูกลิงชอบ ถ้าลูกลิงชอบ คนเป็นพ่อเป็นแม่ก็ต้องให้การสนับสนุน สำหรับเราแล้ว ก็ถือว่าเป็นการพักผ่อน เปลี่ยนบรรยากาศ เปลี่ยนสถานที่การทำงาน เพราะเราทำงานจากที่ไหนก็ได้; Work From Anywhere (WFA) กิจกรรม dance เป็นกิจกรรมของลูกลิงตัวเล็ก ถ้าไปแข่งต่างถิ่นแบบนี้ พวกเราก็จะ "ไปไหนไปกัน" ไปด้วยกันหมดทั้งบ้าน 4 คน ลูกลิงตัวโตก็จะหอบ computer หอบการบ้านมานั่งทำที่โรงแรมด้วย แต่ปีนี้ 2022 ลูกลิงตัวโตเข้าเรียนมหาลัยแล้ว และเริ่มโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ดูแลตัวเองได้ บางทีเขาก็เลือกที่จะไม่ไปกับพวกเราด้วย เราก็เอาเขาไปฝากไว้กับบ้านเพื่อนที่สนิทกัน เขาโตแล้ว เขาจัดการอะไรต่าง ๆ นานาของเขาเองได้ การไปแข่งที่ Newcastle ในครั้งนี้ เราก็เห็นลูกลิงตัวเล็กพูดถึงเพื่อนคนนั้น เพื่อนคนนี้ เราก็มีความสุข แสดงว่าลูกลิงได้เพื่อนใหม่ ๆ แม่ลิงเองก็เล่าถึงเหตุการณ์ประทับใจหลาย ๆ อย่างจากพวกแม่ ๆ อะไรของเขา เราเห็นแม่ลูกเค๊าคุยกัน 2 คนกระนุ๊งกระนิ๊ง เราก็ดีใจ ถึงแม้ว่าเราจะไม่ค่อยรู้เรื่องว่าเขาคุยกันเรื่องอะไร ก็เป็นอีกหนึ่ง weekend activity ที่มีความสุข ถึงแม้จะขับรถไกล Wollongong - Newcastle; 3 hr ก็เถอะ 3 hr สำหรับ เราเฉย ๆ ขับสบาย ขับแป๊บเดียว บันทึกเอาไว้เป็นความทรงจำตอนที่เขายังเด็ก ๆ เดี๋ยวพอเขาโตขึ้น daddy ก็จะอ่าน blog พวกนี้ให้เขาฟัง (เป็นภาษาอังกฤษ) ผลสอบ HSC ของลูกลิงตัวโตที่เป็นที่น่าพอใจมาก... ถึงมากที่สุด
ได้ band 6 ถึง 4 วิชาจากทั้งหมด 6 วิชา Daddy กับ Mommy ไม่สามารถ take credit อะไรใด ๆ จากความสำเร็จของลูกลิงในครั้งนี้ได้ เพราะลูกลิงบริหารและจัดการการอ่าน การเรียน การเตรียมตัวสอบของลูกลิงเอง ลูกลิงไม่มี private tutor (ไม่จำเป็น) ลูกลิงจะพากันไปติว ไปนั่งอ่านหนังสือกับเพื่อน ๆ หลังเลิกเรียนทุก ๆ วันอังคารที่ห้องสมุด เราก็มีหน้าที่ขับรถไปรับลูกลิงทุก ๆ วันอังคาร 5pm ที่ห้องสมุดในเมือง บางทีก็ช่วยส่งเพื่อนของลูกลิงด้วย หรือบางทีลูกลิงให้พ่อของเพื่อนมาส่ง สลับกันไป ลูกลิงจัดสรรค์เวลาของเขาเอง ลูกลิงเรียนอยู่ top class จึงมีเพื่อน ๆ ที่ดี ช่วยกันดัน ช่วยกันแข่งขันแบบ friendly friendly ไม่ได้แข่งขันว่า "ฉันต้องได้ที่ 1 ของวิชานั้น ๆ ตลอด" แต่ลูกลิงก็ได้ที่ 1 แทบทุกวิชา บางเทอมก็สลับกันกับเพื่อนสนิทเค๊า เราก็ว่าดีออก มันเป็นอะไรที่ friendly compettition ลูกลิงเกิดที่นี่ ใช้ชีวิตที่นี่ ก็มีเพื่อนเป็นฝรั่ง ซึ่งเป็นเรื่องปรกติ เพื่อนในกลุ่มของลูกลิงน่ารักทุกคน เพราะเป็นเด็กเรียน ดังนั้นเวลาที่ลูกลิงขออนุญาตเราไปไหนมาไหนกับเพื่อน ๆ ของเขา เราก็อุ่นใจเสมอว่าพวกเขาจะไม่ไปทำอะไรนอกลู่นอกทาง สำหรับคนที่เป็นพ่อเป็นแม่ มันก็อุ่นใจ สบายใจดีนะ การที่เขาได้เรียนอยู่ใน top class อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดีนั้นสำคัญมาก ที่ออสเตรเลียก็มี top class, bottom class นะครับ เราเป็นอาจารย์ เรารู้ดี ออสเตรเลียก็มีปัญหาทางด้านการศึกษาเยอะ ต้องคนที่ทำงานหรือคลุกคลีอยู่กับวงการการศึกษาถึงจะรู้ กรุณาอย่ามโนว่าประเทศออสเตรเลียต้องดีไปหมดซะทุกอย่าง ถ้าใครได้เห็นนักเรียน bottom class แล้วหละก็ เขาจะรู้ว่า "นรกบนดิน" นั้นมีจริง!!! อาจารย์ที่จบใหม่ ๆ ลาออกกันเยอะแยะ เพราะความเครียดและรับมือกับเด็ก bottom class ไม่ได้ ที่ NSW; Department of Education หรือกระทรวงศึกษาธิการของ NSW เราถึงต้องมี "Stress Leave" สำหรับครูอาจารย์ในโรงเรียน!!! ในฐานะที่เราเองก็เป็นอาจารย์ด้วย เราก็เลยอุ่นใจที่ลูกลิงได้เรียน top class ได้อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดีและมีกลุ่มเพื่อน ๆ ที่ดี ที่ช่วยกันเรียน ผลสอบ HSC ของลูกลิง 20 Jan 2022 เป็นที่น่าพึงพอใจมากถึงมาที่สุด ลูกลิงได้ band 6 ถึง 4 วิชา จากทั้งหมด 6 วิชา band 6 คือคะแนน 90% ขึ้นไป ลูกลิงติด ติด list ของ "Distinguished Achiever HSC" ของ NSW ด้วย จาก top band ที่ได้ 4 วิชา เพราะคนอื่นถ้าได้ band 6, เขาก็อาจจะได้แค่ 1-2 ตัวอะไรประมาณนี้ เราก็ต้องยก credit ให้กับลูกลิง เพราะเขาก็มุมานะของเขาจริง ๆ อ่านหนังสือ 7 วัน 7 คืน เริ่มเรียนจริงจังตั้งแต่ year 10 แล้ว year 10-11-12; มุมานะมา 3 ปี ผลก็ออกมาดี ครอบครัวอื่นอาจจะต้องบังคับให้ลูก ๆ เรียนหรือตั้งใจอ่านหนังสือ แต่ครอบครัวเราบอกให้ลูก "พักบ้าง" อย่าอ่านหนังสือดึก อย่าทำการบ้านดึก อะไรประมาณนี้ คือมันดีงามมากถึงมากที่สุด สรุปลูกลิงได้รับการตอบรับจากทั้ง 3 มหาลัยที่ลูกลิงเลือก: - UNSW - UOW (early entry) - UTS (early entry) มันก็เลยกลายเป็น "เราเลือกเขา" ไม่ใช่ "เขาเลือกเรา" คือมันอิ่มใจ สุขใจอย่างบอกไม่ถูก ที่เราเป็นฝ่ายเลือก ไม่ใช่เป็นฝ่าย "ถูกเลือก" ลูกลิงได้ band 6, 4 วิชา ก็เลยติด "Distinguished Achiever HSC" list ของ NSW ด้วย จาก 3 มหาลัยที่ลูกลิงสมัครไป ลูกลิงได้รับการตอบรับหมด สาขา Engineering ทั้งหมด ลูกลิงก็คงเลือกที่จะไปเรียนที่ UNSW จาก band 6 ที่ลูกลิงได้ และคะแนน ATAR (Australian Tertiary Admission Rank) ที่ลูกลิงได้ ทำให้ลูกลิงได้รับทุนเรียนฟรี 1st year ของ Engineering ที่ UNSW ด้วย ทุนที่ได้รับคือ UNSW Academic Achievement Awards Scholarship ก็ทุนการศึกษาสำหรับนักเรียนที่มีผลการเรียน ก็ปลื้มปริ่มกันไปอีก ที่เหลือเราก็คงต้องมาดูกันว่าลูกลิงจะลงทะเบียนวิขาอะไรบ้าง ถ้าลูกลิงสามารถเลือกลงวิชาที่ตารางเรียนออกมาไม่กระจายกันมาก ไปเรียนแค่ 3-4 วันอะไรประมาณนี้ การเดินทางจาก Wollongong ไป UNSW ก็น่าจะง่าย แต่ daddy ก็คงไม่ปล่อยให้ลูกลิงนั่งรถไฟจาก Wollongong ไป UNSW เอาจริง ๆ นะ เราก็กลัวลูกเราเหนื่อย กลัวมีผลกระทบกับการเรียน เราก็อาจจะขับรถรับส่ง Wollongong-Sutherlands แล้วให้ลูกลิงนั่งรถไฟจาก Sutherlands เข้าไปในเมือง เพราะ Sutherlands จะมีรถไฟทุก ๆ 5-10 นาที จะได้ไม่มีปัญหาในเรื่องของการเดินทาง In the long run, เราก็คงต้องหาเช่าบ้าน เช่า apartment ให้ลูกลิง ก็กะจะเช่าแถว ๆ Sutherlands นี่แหละ ถ้าในเมืองก็คงจะแพงเกิน และ Sutherlands ก็ไม่ไกลจาก Wollongong เวลาลูกลิงกลับบ้านหรือเวลาเรามารับ-ส่ง ก็น่าจะง่าย Anyway... นี่ก็แค่ plan เพราะต้องดูตารางเรียนของลูกลิงด้วย แต่แค่ plan ก็มีความสุขแล้ว เราเห็นลูกได้เรียนในสิ่งที่เขาอยากจะเรียน ในสถาบันที่เขาอยากจะเรียน ที่เขียนมาทั้งหมด ก็แค่อยากจะบันทึกเอาไว้เป็นความทรงจำของครอบครัวเรา แก่ตัวมาเราก็จะคงกลับมาอ่าน blog พวกนี้ต่าง ๆ นานา Dec 2021 ลูกลิงตัวโตสอบ HSC เสร็จแล้ว จบ year 12 แล้ว รอเข้ามหาลัย
ณ วันที่แดดร่มลมตก ลูกลิงนั่ง ๆ นอน ๆ อยู่บนโซฟาก็ดู YouTube หรือ Netflex เขาก็บอกแม่ของเขาว่า เขาสอบ HSC เสร็จแล้ว และตอนนี้เขาคบกับคน ๆ หนึ่งอยู่นะ เขาบอกว่าเขารอให้สอบ HSC เสร็จก่อนแล้วค่อยบอกพ่อกับแม่ "หน้าที่มาก่อนสิทธิ" ดีมากครับเลยลูก หนูก็ทำหน้าที่ของหนูในเรื่องของการเรียนก่อน เรื่องความรัก ๆ ใคร่ ๆ อะไรเอาไว้ทีหลัง แต่จริง ๆ แล้วพ่อกับแม่ก็รู้แล้วหละ แค่ไม่ต้องการคาดคั้นอะไร ถึงเวลาที่เขาอยากจะบอกเขาจะบอกเราเอง เพราะลูกลิงก็ดูเหมือนจะให้ความสนใจกับเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งเป็นพิเศษ เราเริ่มสังเกตมาตั้งแต่ year 9 แล้ว และเราก็เคยถามไปแล้วครั้งหนึ่งว่าลูกเป็นอะไรกัน ออกเดทกันหรือเปล่า ลูกลิงบอกว่าเปล่า เป็นแค่เพื่อนกัน และหลังจากนั้นเราก็ไม่เคยถามเรื่องนี้อีก แต่ก็สังเกตถึงความสนิทสนม เราก็เดาเอาว่าลูกชายเราคงไปจีบเขา แล้วเขาคงไม่เล่นด้วย ก็เลยคบกันแบบเป็นแค่เพื่อนกันเฉย ๆ หรือเปล่า เพราะเพื่อนผู้หญิงคนนี้ก็เป็นเด็ก top class เรียนเก่ง เป็นผู้หญิงคนเดียวที่เรียน Maths Extension I และเราก็เจอลูกลิงเดินด้วยกัน 2 คนเวลาเราไปรับหรือไปส่งช่วงเวลาที่ลูกลิงเรียน Maths Extension เพราะ Maths Extension ต้องเรียนหลังเลิกเรียน เพราะเป็นวิชาสำหรับเด็ก gifted ก็เลยต้องเรียนนอกตารางเรียน ถามว่าเราเลือกใหมถ้าลูกลิงจะคบใครซักคน บอกเลยว่า "เลือก" เพราะ เราเองก็เป็นเด็กห้อง 1 และถ้าเราจะคบใครซักคน ก็คงต้องอยู่ห้อง 1 หรือ top class เหมือนกัน ไม่งั้นก็คุยกันลำบาก คุยกันคนละภาษา ถ้าลูกเราจะคบใครซักคน ก็ขอละกัน ให้มี IQ นิดหนึง หาพื้นที่สามเหลี่ยมได้ป๊ะ จำสูตรพื้นที่ของวงกลมได้มั้ย daddy เรื่องเยอะหรือเปล่าเราไม่รู้ รู้แค่ว่าเป็นคนดีอย่างเดียวไม่พอหรอก ต้องฉลาดด้วย daddy เป็นอาจารย์สอนวิชาคอมพิวเตอร์และคณิตศาสตร์ ถ้าคนที่ลูกลิงคบด้วยเรียนดีอยู่ในระดับหนึ่งมันก็ง่าย งั้นเราคุยภาษาเดียวกัน จริง ๆ แล้วเราก็สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของลูกลิงตั้งแต่ year 9 แล้วแหละ ที่ไป excursion ที่ NT 15 วัน เพราะลูกลิงซื้อของฝากมาฝากเพื่อน และขอไปเจอเพื่อนที่ shopping mall ปรกติลูกเรา 2 คนจะไม่ไปเดินที่ shopping mall เลิกเรียนต้องกลับบ้าน อ่านหนังสือ ทำการบ้าน หรือทำพวก after school activity ไม่ใช่ไปเดินเล่นที่ shopping mall "Daddy Diary; HSC Project ของวิชา Design and Technolgy"
ลูกลิงได้ที่ 1 ของห้อง และเป็นนักเรียนคนเดียวของโรงเรียนที่ได้ที่ 1 ของ year 11 และ year 12, 2 ปีซ้อนของวิชานี้ เพราะโรงเรียนจะมีโล่ห์ให้ สำหรับคนที่ได้ 1 และมีการ engrave ชื่อเข้าไปในโล่ห์ด้วย เค๊าบอกว่าเค๊าเป็นนักเรียนคนเดียวที่มีชื่อ 2 ปีซ้อน (year 11 และ year 12) ลูกลิงมีความตั้งใจจริงแหละดูออก ตัวโต๊ะกับตัวขาสามารถถอดแยกได้ โต๊ะ เราก็ซื้อกันมาที่ Salvation Army ประมาณ $$60-80 จำไม่ได้ละ เขาก็เอามาตัด มาหั่น มาดัดแปลงอะไรของเขา ก็ออกมาเป็นแบบนี้แหละ ตัวขาขึ้นลงเนี๊ยะ ต้องสั่งซื้อ online ราคาจริง ๆ $800+ กว่า เราซื้อได้ตอนลดราคา ประมาณ $400+ กว่า ๆ ใครเป็นพ่อเป็นแม่ เตรียมเงินเอาไว้เลยจ๊ะ project ของลูกแต่ละอย่าง มีแต่เงิน และก็เงินทั้งนั้น ค่าใช้จ่ายทั้งนั้นครับ แต่ถ้าผลลัพธ์ออกมาดี คนเป็นพ่อเป็นแม่ เป็นผู้ปกครองก็พร้อมที่จะทุ่มสุดตัวเสมอ อนาคตจะเป็นยังไงเราไม่รู้ ขอแค่ลูกลิงทำวันนี้ให้ดีที่สุดก็เป็นพอ คนเป็นพ่อเป็นแม่ เราก็ต้องการแค่นี้แหละ ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ไม่มีอะไรมาก #จอห์นเผ่าเพ็ง #เพราะฉะนั้น ที่บ้านเราไม่มีเครื่องเล่มเกมส์ console อะไรใด ๆ
ไม่มี Xbox ไม่มี PlayStation ไม่มี iPad ไม่มี tablet และลูกลิงทั้ง 2 จะรู้นิสัย daddy ดีว่า ของเล่นอะไรที่ไม่ educational ลูก ๆ จะหมดสิทธิ์ได้ ดังนั้นคือ "ไม่ต้องขอ ไม่ต้องอ้อน" เพราะขอหรืออ้อนเราก็ไม่ได้อยู่ดี ไม่ต้องเสียเวลา เงินทองหามายาก กว่าจะได้แต่ละบาท แต่ละสลึง ที่บ้านเราไม่ได้งก แต่ต้องใช้เงินให้เห็นคุณค่า เห็นคุณค่าของเงินและหยาดเหงื่อแรงงานของคนที่หา ลูกลิงต้องรอและเห็นใจคนที่หาตังค์ด้วย ดังนั้นที่บ้านเราของเล่นของลูก ๆ ตอนที่ลูกลิงเด็ก ๆ จะเป็นพวก lego หรือพวกตัวต่ออะไรต่าง ๆ จะไม่มีของเล่นที่เล่นแบบเอามันส์ เอาสนุกเฉย ๆ และที่สำคัญคือ ตัวเราเองไม่เคยซื้อของเล่นอะไรให้ลูกเลย แม่เค๊าจะเป็นคนซื้อแต่ก็ซื้อน้อยมาก ก็จะซื้อให้ช่วงวันเกิดหรือ X'mas อะไรประมาณนี้ ของเล่นลูกลิงก็จะมาจากน้า ๆ และยายของเขาที่สิงคโปร์ เพราะลูกลิงเป็นแค่หลาน 2 ของตระกูลฝ่ายภรรยา ดังนั้นของเล่นลูกลิงจะมีเยอะมากอยู่แล้ว ทั้งที่นี่และที่สิงคโปร์ ดังนั้นพ่อกับแม่ไม่จำเป็นต้องซื้อของเล่นให้ลูกเลย แค่น้าซื้อมาให้ ส่งมาให้จากสิงคโปร์ก็เต็มบ้านแล้ว พอลูกลิงโต เขาก็เลิกเล่น เครื่อง entertainment อะไรที่บ้านเราจึงแทบไม่มี เราและภรรยามองว่ามันเป็นสิ่งสิ้นเปลือง เวลาลูกลิงไปเล่นที่บ้านเพื่อน อยากจะเล่มเกมส์อะไรต่าง ๆ เล่นให้เต็มที่เลย แต่ไม่ต้องมางอแงว่าอยากจะมีบ้างเวลากลับมาที่บ้าน อันนี้เรา make it clear กับลูก ๆ มากและลูก ๆ ก็เข้าใจ เพราะสู้เราเก็บเงินแล้วไปทำอะไรกันอย่างอื่นกันดีกว่า ปรกติถ้าไม่มี COVID ครอบครัวก็บินไปเที่ยวต่างรัฐกันอยู่แล้ว ปีละครั้งอยู่แล้วเวลาปิดเทอม รัฐไหนก็ได้ ส่วนมากก็ชอบ VIC หรือ QLD กัน หรือไม่ก็เที่ยวกันใกล้ ๆ 3-4 วัน เป็น family holiday จะดีกว่า ดีกว่าเอาเงินไปซื้อเครื่องเล่น console อะไรต่าง ๆ ที่บ้านมี Smart TV ต่อเข้า YouTube ได้ ก็ดูไปสิ ใครจะว่าอะไร ทำไมจะต้องมี Netflix หรือเครื่องเล่นเกมส์อะไรต่าง ๆ นานา เกิดเป็นลูก "Daddy J" ต้องทำใจจ๊ะ ครอบครัวไม่ได้เกิดมาบนกองเงินกองทอง ปากก็ต้องกัด ตีนก็ต้องถีบ เนื่องด้วยที่บ้านเราไม่มี Netflix เวลาที่เราและลูก ๆ ไปเที่ยวหรือพักตามโรงแรมต่าง ๆ เพราะลูกลิงตัวเล็กก็ต้องมีแข่ง dance ตามเมืองต่าง ๆ ช่วงปิดเทอม เราก็ให้อิสระกับลูกลิงทั้ง 2 ในการดู Netflix ที่โรงแรม คราวนี้หละ เค๊าดูหนัง series กันจบไปเป็นเรื่อง ๆ จบไปเป็น season กันเลยทีเดียว ลูกลิงตัวโตจะไม่ค่อยเท่าไหร่ เนื่องด้วยเป็นผู้ชายและก็โตแล้ว เค๊าก็จะไม่อ้อนหรือขออะไร แต่ลูกลิงตัวเล็กนี่สิ ยังเล็ก ยังเด็กอยู่ ก็จะ "daddy daddy ขอนั่นหน่อย ขอนี่หน่อย" ขอมี Netflix ที่บ้านหน่อย จริงๆ ลูกลิงก็เริ่มอ้อนมาตั้งแต่ปีที่แล้วแล้วแหละ แต่ปีที่แล้วลูกลิงตัวโตยังเรียน year 11 อยู่ เราก็เลยบอกว่า ไม่เอา Netflix ไม่เอา distraction อะไรใด ๆ เข้ามาในบ้าน เดี๋ยวลูกลิงไม่อ่านหนังสือ ไม่มีสมาธิในการเรียน Daddy ก็เลยบอกว่า งั้นรอให้ลูกลิงตัวโตจบ year 12 ก่อน สอบ HSC ก่อนแล้วค่อยติด Netflix ก็แล้วกัน การที่เราคุยอะไรกับเด็ก ๆ แล้วให้ timeline กับพวกเขา เด็ก ๆ จะเข้าใจ อันนี้ก็เป็นจิตวิทยาเด็กทั่ว ๆ ไปที่คนที่เป็นอาจารย์สอนหนังสือต้องรู้ เวลาที่สอนลูกศิษย์ที่โรงเรียน: - message ต้องชัดเจนว่าเรากำลังสื่อสารอะไรกับลูกศิษย์ - มี timeline ที่แน่นอนให้กับลูกศิษย์ อะไรที่เราใช้ที่โรงเรียน เราก็เอามาประยุกต์ใช้ที่บ้านได้ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องเข้มงวดเหมือนที่โรงเรียน ที่บ้านเราจะเป็น "open door policy" คือห้องทุกห้องต้องเปิดประตู จะปิดประตูก็ต่อเมื่อเวลานอน อาบน้ำ หรือเข้าห้องน้ำ ดังนั้นเราจะเห็นตลอดว่าลูกลิงทำอะไรอยู่ในห้อง ลูกลิงตัวโตก็อยู่แต่ในห้องตัวเอง อ่านหนังสือ ทำการบ้านอะไรของเขาไป การเรียนเขาเริ่มเด่นชัดมาตั้งแต่ year 9 แล้ว ดังนั้นจึงปรกติมากที่เขาจะอยู่ในห้องและอ่านหนังสือหรือทำการบ้านอะไรของเราไป ซึ่งก็ต้องเปิดประตูและเราก็เห็นทุกอย่างว่าเขาทำอะไรบ้าง ส่วนลูกลิงตัวเล็ก ก็ทำการบ้านหรืออ่านหนังสือที่ computer desk ที่ living room มากกว่า เขาไม่ค่อยอยู่ในห้องนอนของเขา ลูกลิงตัวโตเริ่มเรียนหนักเมื่อเป็น senior year; year 11 and year 12 พอขึ้น year 11 เขาก็จะขลุกตัวอยู่ในห้อง อ่านหนังสือ ทำการบ้านอะไรของเขาไป ก็จะออกมาพัก break บ้าง ดู YouTube ที่ livig room บ้าง ที่บ้านเราไม่ค่อยดู TV เพราะมันไม่มีอะไรดู นาน ๆ จะดู X-Factor, The Voice อะไรประมาณนี้บ้าง แต่รายการอะไรอื่น ๆ ก็จะไม่ค่อยดูกัน เราก็เลยโชคดี ไม่ต้องปากเปียกปากแฉะกับเรื่องการดู TV ของลูก ๆ โดยเฉพาะลูกลิงตัวโตเนี๊ยะ แทบจะไม่ดู TV เลย เค๊าก็จะอยู่ในห้องของเค๊ามากกว่า ลูกลิงตัวเล็กเขาก็ชอบอะไรที่เกี่ยวกับ dance อะไรต่าง ๆ นานาของเขาใน YouTube ดูกับแม่เค๊า 2 คน คุยกันกระน๊องกระแน๊งกันอยู่ 2 คนของเค๊า เนื่องด้วยลูกลิงตัวโตจะใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในห้องของเค๊าอยู่แล้ว จะไม่ค่อยออกมาอยู่ตรง living room ลูกลิงตัวเล็กก็เลยออกไอเดียอันบรรเจิดว่า "daddy เราติด Netflix เลยได้มั้ย เพราะ Goh Goh ก็อยู่แต่ในห้อง เขาไม่รู้หรอกว่าเราติด Netflix, ถ้า Goh Goh เดินออกจากห้อง พวกเราก็รีบกด remote control เปลี่ยนช่อง" ดูซิ idea ของนาง บรรเจิดมั้ย พอพูดเสร็จแค่นั้นแหละ ลูกลิงตัวโตก็เดินออกมาจากห้อง และถามว่า พูดอะไรกันหนะ เขาได้ยินว่าพูดถึงเขา พวกเราก็เลยพากันหัวเราะกันใหญ่ Goh Goh เป็นภาษาจีนกลาง แปลว่า "พี่ชาย" จากวันที่ลูกลิงตัวเล็กขอมี Netflix ที่บ้านเมื่อปีที่แล้ว และเราก็สัญญาลูกลิงเอาไว้ว่ารอให้ลูกลิงตัวโตจบ year 12 ก่อน สอบ HSC เสร็จก่อน พรุ่งนี้ วันที่ 29 Nov 2021 เป็นวันสอบ HSC วิชาสุดท้ายของลูกลิงตัวโต ก็คงต้องถึงเวลาแล้วสินะที่เราต้องทำตามสัญญา พรุ่งนี้ลูกลิงตัวโตสอบเสร็จ ชีวิตการเรียน high school เขาก็คงจะเป็นอิสระแล้ว ชีวิตต่อจากนี้ก็คงไม่ต้องมีกฎมีเกณฑ์อะไรมาก แต่ก็ยังคงต้องทำเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับน้องสาวอยู่ พรุ่งนี้ตอนบ่าย เราก็คงจะ sign up กับ Netflix เลย หลังจากที่ลูกลิงตัวโตสอบเสร็จ ส่วนจะดูอะไรได้วันไหน อะไรยังไงต้องมานั่งคุยกันอีกที โดยเฉพาะลูกลิงตัวเล็กที่ยังต้องเรียน high school อยู่ การมีชีวิตครอบครัว เราไม่จำเป็นต้องไปทำอะไรตามครอบครัวอื่น ไม่ต้องไปทำอะไรตามแฟชั่น ชีวิตครอบครัวเรา พวกเราต้องออกแบบกันเอง ออกกฎกันเองว่าพวกเราจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยแบบไหน ที่เขียนมาทั้งหมด เราก็แค่อยากจะบอกว่า ครอบครัวอื่นเขาจะมี game console, มี iPad มี tablet ให้ลูก นั่นมันเรื่องของเขา ไม่เกี่ยวกับครอบครัวเรา ชีวิตครอบครัวเรา พวกเราก็ต้องออกแบบกันเองนะครับ เราไม่จำเป็นต้องทำอะไรตามกระแส ไม่จำเป็นต้องมี Netflix หรือ Streaming services อื่น ๆ เพียงเพราะเพื่อน ๆ หรือครอบครัวอื่นมี อย่าให้ peer pressure มามีอิทธิพลต่อการดำเนินชีวิตของเรา เราสามารถมีความสุขและเป็นครอบครัวที่อบอุ่นได้ ใบแบบของเรา ในเวอร์ชันของเรา :) เราจะอยากจะฝากเอาไว้แค่นี้ครับ Sun: 28/11/2021 นักเรียน year 12 ทุกคนที่ต้องการเรียนต่อมหาวิทยาลัยที่ประเทศออสเตรเลียจะต้องสมัคร ผ่าน UAC; Universities Admissions Centre ไม่ว่าจากรัฐไหนก็ตาม ทุกรัฐที่มีระบบการสอบของ year 12 ที่แตกต่าง สุดท้ายแล้วก็ต้อง streamline เข้ากับระบบของ UAC หมด
นักเรียน year 12 สามารถเลือกคณะที่เขาอยากจะเรียน 5 ลำดับ ตาม preference ที่เขาอยากได้ ในวันที่ลูกลิงกรอกใบสมัครออนไลน์ เราก็ได้นั่งดูรายชื่อคณะต่าง ๆ ที่ลูกลิงเลือกด้วย ลูกลิงเลือก: 1. Engineering-1, UNSW 2. Engineering-2, UNSW 3. Engineering-3, UNSW 4. Engineering, UTS 5. Engineering, UOW อันดับ 4 กับอันดับ 5; ลูกลิงได้ Early Entry แล้ว ได้โควต้าแล้ว และก็ accept ไปแล้วทั้ง 2, ทั้ง UTS และ UOW สุดท้ายก็แล้วแต่เขาว่าเขาอยากจะเรียนที่ไหน แต่เห็น UAC ของลูกลิงแล้ว คนเป็นพ่อก็ใจหายเหมือนกันนะ ลูกเลือกอันดับ 1-4 อยู่ที่ Sydney หมดเลย ในขณะที่ UOW ห่างจากบ้านเราแค่ 10 นาที หรือนั่งรถบัสไปก็ฟรี หรือเราขับรถรับส่งทุกวันก็ได้ หรือลูกจะขับรถเองก็ได้ สำหรับคนที่เป็นพ่อเป็นแม่ ถ้าลูกขอให้ขับรถไปนั่นมานี่ ให้ไวเลยครับ อย่าบ่น เพราะเมื่อวันที่เขาโตแล้ว ในวันที่เขา independence แล้ว เวลาที่เขาจะทำกิจกรรมร่วมกันกับเราก็จะยิ่งน้อย ๆ ไปเรื่อย ๆ ทุกวันนี้ เวลามันดูมีค่าไปหมด ใช้เวลาอยู่กับลูก ๆ ให้เยอะ ๆ ลูกลิงเลือกอันดับ 1-4 ใน Sydney หมดเลย ถ้าลูกลิงเลือกที่จะเรียนใน Sydney ลูกลิงก็คงต้องไปเช่าบ้านอยู่ใกล้ ๆ Uni หรือไม่ก็พักใน campus ไปเลย มันก็คงต้องมีค่าเช่า ค่าอยู่ ค่กิน เข้ามายุ่งเกี่ยว เรื่องค่าใช้จ่าย ไม่มีปัญหาหรอก แต่ลูกจะกลับบ้านทุกอาทิตย์หรือเปล่า หรือว่าไง มันก็น่าใจหายนะ แต่เมื่อลูกต้องการโบยบิน เราก็ต้องปล่อยลูกให้โบยบิน แต่ daddy เพิ่งซื่อบ้านเองนะลูก และชั้นล่างก็มี 2 ห้องให้หนูอยู่แบบส่วนตัวไปเลย มีรั้วเข้าด้านข้าง และเข้าห้องที่อยู่ด้านล่างได้เลย มีความเป็นส่วนตัว ไม่ต้องเข้าบ้านทางประตูด้านหน้าก็ได้ daddy ก็อุตห์ส่าหาซื้อบ้านที่แบ่งออกเป็นสัดส่วน หรือบ้านบางหลังที่เราดูก็จะมี granny flat อยู่ด้านหลัง ทุกอย่างที่ทำก็ทำเพื่อลูกลิงทั้ง 2 ทั้งนั้นเลย อยากให้เขามีชีวิตที่ดี ลูกลิงบอกว่าเขานั่งรถไฟไปเรียนได้ แหม เดินทาง 1.5-2 hr เข้าไปเรียน แล้วขากลับบ้านอีก ถ้าถึงบ้านแล้วเหนื่อย แล้วจะเอาเวลาที่ไหนอ่านหนังสือ ทำการบ้าน ทำ assignment และเวลาที่เสียไปกับการเดินทางอีก มันไม่ง่ายนะลูก มันก็มีคนทำแบบนั้นแหละ แต่เราก็คิดว่ามันไม่ work ที่ต้องมาเหนื่อยกับการเดินทางไปเรียน มันไม่ใช่กรุงเทพที่นักเรียนต้องนั่งรถเมล์ 1.5-2 hr เพื่อไปเรียนหนะ เราคิดว่ามันไม่ make sense เราก็ไม่อยากให้ลูกต้องมาเดินทางเข้าไปเรียนแบบนั้น เรียน Uni มันก็ต้องเรียนอย่างน้อย 4 วันต่ออาทิตย์แหละ daddy ผ่านชีวิตการเรียนมาก่อน daddy รู้ สุดท้ายและท้ายที่สุด เค๊าว่าไง เราก็ต้องว่าตาม สอบ HSC เสร็จเขาก็คงเริ่มเรียนขับรถ เพราะได้ L มาแล้วตั้งแต่เทอมที่แล้ว เหลือแค่เริ่มเรียน และเริ่มเก็บชั่วโมง Daddy กับ Mommy ไม่สอนจ๊ะ เดี๋ยวจะทะเลาะกันเปล่า ๆ ไปจ่ายตังค์แล้วเรียนกับโรงเรียนสอนขับรถเลย พอจะเริ่มเก็บชั่วโมงแล้วค่อยมาเก็บชั่วโมงกับ daddy กับ mommy ได้ เวลามันช่างผ่านไปไวจังเลย!!! น่าใจหายนะ... นกน้อยจะบินออกจากรังเมื่อไหร่ เราไม่รู้เลย ขอให้อยู่นาน ๆ ละกัน เพราะบ้านที่เพิ่งซื้อ สุดท้ายแล้วก็ต้องเป็นของเขาอยู่แล้ว ลูกเราเกิดที่นี่ก็จริง แต่เราก็เลี้ยงกันแบบคนไทย คนสิงคโปร์ ไม่ได้ฝรั่งจ๋า บ้านที่ซื้อมา ก็ต้องยกให้ลูกเมื่อถึงเวลาอันสมควร เราอยากให้เขามีชีวิตที่ดี ก็แค่นั้นเอง สิ้นปี เดี๋ยวก็ต้องมาลุ้นผล UAC กันว่าเขาจะได้รับการตอบรับจากที่ไหนบ้าง อันดับ 4-5 ได้รับการตอบรับแล้ว เดี๋ยวมาดูกันว่าเขาจะได้อันดับ 1-3 ที่เขาเลือกหรือเปล่า และ Engineering มันก็มีหลายสาขาเหลือเกินนะ ว่ากันไป เกิดมาเป็นมนุษย์แล้ว ก็ต้องดิ้นรน ก็ต้องต่อสู้ ก็ต้องใช้ชีวิตกันไป รอลุ้นผล UAC ตอนสิ้นปีครับ... อาทิตย์ก่อนเป็นอาทิตย์สุดท้ายของการเรียนการสอน term 3 ที่ NSW
ลูกลิงตัวโตได้รับการตอบรับจาก University of Wollongong ว่าติดโควต้า "Early Entry" แล้ว Early Entry คือการสมัครเข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัยอีกแบบหนึ่งของ Uni ที่ไม่ต้องรอผลสอบ HSC สรุปก็คือใช้ผลการเรียน year 11-12 และก็จดหมาย recommendation จาก Principal ของโรงเรียนในการสมัคร ไม่ใช่ทุก Uni จะมี Early Entry ส่วนการสมัครเข้าเรียนมหาวิทยาลัยทั่ว ๆ ไปก็จะสมัคร online ผ่าน UAC; Univeristies Admissions Centre โดยใช้ผลการสอบ HSC (ที่ NSW ใช้ HSC, รัฐอื่น ๆ ก็มีระบบของเขาเอง) Early Entry ของ UOW, ลูกลิงเลือกไป 2 สาขาคือ: - Mechatronics Engineering; วิศวะหุ่นยนต์ - Enginnering Flexible; คือเรียนปี 1 เหมือน ๆ กันหมด แล้วค่อยเลิกสาขาตอนปี 2 ลูกลิงก็ได้รับการตอบรับทั้ง 2 สาขา ที่เหลือตอนนี้ก็คือลูกลิงจะ accept the offer หรือเปล่า เราปล่อยให้ลูกตัดสินใจเอง แล้วแต่เค๊า แต่ถ้าถามเรา เราก็อยากให้ลูกเรียนที่ UOW แหละ มันใกล้บ้าน เพราะตอนนี้เราก็กำลังหาซื้อบ้าน และก็พยายามเลือกเอาหลังที่มีพื้นที่หลังบ้านกว้าง ๆ เผื่อลูกเข้า Uni เผื่อลูกอยากจะออกไปอยู่เองหลังบ้าน มีความเป็นส่วนตัว มีโลกของเขา แต่ถ้าลูกต้องไปเรียนที่อื่น ต้องย้ายออกไปอยู่ของเขาเองเลย เราก็คงใจหายเหมือนกัน ก็ได้แต่ภาวนาว่าลูกจะตอบตกลง เลือกเรียนที่ UOW แต่ถ้าลูกเลือกที่จะไปเรียนที่อื่น เราก็ตามใจลูกอยู่แล้ว ลูกจะไปเรียนที่ไหนก็ได้ เราก็พร้อมจะ support เต็มที่อยู่แล้ว UOW เค๊าก็มีชื่อทางด้าน IT, Engineering อยู่แล้ว เราคิดว่าเรียนที่ UOW ก็ OK มีชื่อเสียงในระดับหนึ่ง เพราะ UOW เองแต่ก่อนก็เป็น campus ของ UNSW; University of New South Wales ก่อนที่จะแยกตัวออกมาเป็นอิสระ เป็น UOW เดี๋ยวเรามาลุ้นกันว่าลูกลิงจะ accept the offer จาก UOW หรือเปล่า :) ในช่วง 2 ปีที่ลูกลิงตัวโตเรียน year 10 และ year 11 ก็เป็นที่เข้าของเราและภรรยาตลอดว่าลูกลิงจะเรียนต่อ Electrical Engineering (วิศวะไฟฟ้า) เพราะเขาก็บอกพวกเรามาโดยตลอดว่า ถ้าจบ year 12 ก็คงจะเข้าเรียนต่อ Engineering และเขาก็อยากจะเรียนต่อทางด้าน Electrical ซึ่งเราก็ OK อยู่แล้ว เขาอยากจะเรียนก็เรื่องของเขา เพราะนั่นมันคือชีวิตของเขา แต่ถ้าเขาบอกว่าจะเรียน engineering แน่นอนคนที่เป็นพ่อเป็นแม่ก็อดที่แอบจะดีใจไม่ได้ จริง ๆ แล้ว engineering สาขาไหนก็ได้ ดีหมด เพราะตัวเราเองก็เริ่มจาก Engineering (Computer Engineering) ก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็น Computer Science แฟนเราก็จบ IT จาก QUT เคยทำงานเป็น Network Engineer มาก่อน สรุปบ้านเราเป็นสาย IT สาย engineering อยู่แล้ว
เมื่อปีที่แล้ว ลูกลิงก็ยังเรียน year 11 อยู่ ก็ยังเป็นที่เข้าใจกันอยู่ว่าาเค๊าจะเลือกลง Electrical Engineering จนกระทั่งช่วง summer ของปีนี้ ช่วง Jan 2021 ที่ UOW; University of Wollongong มี summer camp ให้นักเรียน year 12 เข้าไปนั่งเรียน เข้า lecture ให้สาขาหรือคณะที่เขาสนใจได้ ซึ่งลูกลิงและเพื่อน ๆ ของเขาก็พากันลงทะเบียนไป ในสถานการณ์ปรกติลูกลิงต้องไปเข้า lecture ที่ UOW แหละ เราก็อยากจะให้มันเป็นแบบนั้น เพราะเราก็อยากให้เขาลองเข้าไปนั่งสัมผัสบรรยากาศของ lecture hall ในรั้วมหาวิทยาลัย คือมันศักดิ์สิทธิ์ สำหรับคนที่บูชาการศึกษาอย่างเรานะ แต่ในสถานการณ์ COVID ลูกลิงก็ต้องเรียนผ่าน Zoom ซึ่งเราก็คิดว่ามันไม่ค่อยได้อรรถรสเท่าไหร่นะ UOW เขาก็มีการจัดตารางสอนในช่วง summer camp ที่ดีนะ เขามีการให้เด็ก ๆ ได้ลองเรียนวิชาพื้นฐานของวิศวะในแต่ละสาขา เราก็เห็นลูกลิงวุ่นอยู่กับการเขียนโปรแกรม เขียน Python ซึ่งก็โชคดีหน่อยเพราะลูกลิงก็พอมีพื้นฐานอยู่บ้าง เราแนะนำให้ลูกลิงอย่างน้อยก็หัดเขียนโปรแกรม Python ไว้ตั้งแต่ year 9 แล้ว อันนี้ก็สบายไป หลังจากที่เรียน summer camp กับ UOW อยู่หลายอาทิตย์ ความชอบทางด้านวิชาหุ่นยนต์ robotics ก็เริ่มมีเพิ่มมากขึ้น มารู้ตัวอีกที เขาบอกกับคนอื่นว่าเขาจะเลือกลง Mechatronics คนเป็นพ่อเป็นแม่ก็งง ๆ เบลอ ๆ เหมือนกันว่า Mechatronics Engineering มันคืออะไร ก็เพิ่งมาถึงบ้างอ้อว่า อ๋อ มันคือสาขาใหม่ วิชาพวกหุ่นยนต์ งั้นจัดการเลยลูก ไปให้สุดทาง สาขาอะไรก็ได้ การเข้า summer camp กับ UOW ก็ดีเหมือนกัน เพราะทาง UOW ก็ให้ credit กับวิชาที่เรียนช่วง summer camp มา 6 หน่วยกิต (1 วิชา) ก็ถือว่าช่วยผ่อนแรงไปได้ 6 หน่วยกิต เออ... ก็ดีนะ ได้หน่วยกิตด้วย ตอนนี้ลูกลิงก็สมัคร early entry ของ UOW ไปแล้ว เทอมหน้าก็ต้องมาลุ้นกันอีกทีว่าจะโดนเรียนสัมภาษณ์มั๊ย จะได้ offer หรือเปล่า เราไม่ได้ worry ว่าลูกลิงจะต้องได้ early entry ของ UOW หรือเปล่า หรือจะรอผลสอบ HCS เพราะที่ผ่านมาผลการเรียนเขาก็ดีอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น Advanced Maths, Maths Extension หรือ Physics ตอนนี้คนในครอบครัวก็ต้องมาทำความเข้าใจกันใหม่ว่า ตอนนี้ลูกลิงเบนเข็มจาก Electrical Enginnering มาเป็น Mechatronics Engineering แล้วนะ อะไรประมาณนี้ ก็ต้องมีรอดูกันต่อไป ว่าสรุปแล้วจะได้มหาลัยไหน สาขาไหน NSW ประกาศ lockdown เพิ่มเราไม่ว่า
แต่นักเรียน year 12 ควรจะให้กลับเข้าห้องเรียนตามปรกติ เพราะ year 12, senior year นักเรียนไม่เยอะ และเทอมนี้ก็เป็นเทอมสุดท้ายสำหรับเด็ก year 12 แล้ว เทอมหน้าก็ต้องสอบ HSC และเตรียมตัวเข้ามหาลัยกันหรือเตรียมตัวไปทำอะไรต่อมิอะไรกับชีวิตของพวกเขา เรียน online ผ่าน Zoom ผ่าน Google Classroom บางวิชามันก็ไม่เหมือนเรียนใน classroom หรอก แล้วเด็ก ๆ ก็สูญเสียโอกาสในการ interact กับเพื่อน ๆ ของเขา เพราะนี่คือเทอมสุดท้ายที่พวกเขาจะได้ใช้ชีวิตใน high school ด้วยกัน เราอยากให้ลูกเรา enjoy his last term in high school ก็แค่นั้นเอง ลำพังตัวลูกเองก็ไม่ค่อยเท่าไหร่หรอก ดูเหมือนว่าเขาก็ใช้ชีวิตตามปรกติ แต่ในฐานะของคนที่เป็นพ่อแม่ และยิ่งเราเป็นอาจารย์สอนหนังสือด้วย เรารู้ว่าการเรียนการสอนของ year 12 สำคัญแค่ไหน เราก็ได้แต่สงสารเด็ก ๆ อยากให้เขามีประสบการณ์ที่ดีของ last term in high school ก็แค่นั้นเอง มันจะได้เป็น long lasting memories ของพวกเขา ก็ได้แต่หวังว่าเด็ก ๆ จะได้กลับเข้าห้องเรียนต้นเดือนหน้า ตอนนี้ทางโรงเรียนก็ต้องประชุมผู้ปกครองของ year 12 ผ่าน Zoom ว่าทางโรงเรียนจะมี plan มีอะไร ยังไง กับการรับมือของการ lockdown ในครั้งนี้ ขอให้มันจบ ๆ ภายในเดือนนี้เถอะ |
บันทึกเรื่องราวต่าง ๆ ของคุณพ่อลูก 2 Archives
March 2024
|