เมื่อลูกลิงตัวโตติด COVID วันที่ 10 Nov 2022 ที่ผ่านมา ลูกลิงก็ต้องอยู่พักรักษาตัวอยู่ที่ Sydney กลับบ้านไม่ได้เพราะที่บ้านก็มีคุณแม่ที่เป็นคนป่วยอยู่ ภูมิต้านทานไม่เหมือนคนทั่ว ๆ ไป
- ก็ยังโชคดีที่ UNSW ก็เหลือ lecture อีกแค่ 1 อาทิตย์หลังจากนั้น - โชคดีที่เราก็ยังพอมี "ครอบครัว J" ที่อยู่ที่ Sydney ที่คอยให้ความช่วยเหลือ ส่งอาหารให้ลูกลิง ส่งยาให้ลูกลิง บอกได้เลยว่าถ้าเราไม่ได้ "ครอบครัว J" ที่ Sydney ที่คอยช่วยเหลือเราในช่วงนี้ อะไรหลาย ๆ อย่างคงลำบากน่าดู ครอบครัวเรารู้สึกซาบซึ้งและกราบขอบคุณจากใจจริง อะไรที่เราได้รับความช่วยเหลือจากใคร เราจะไม่ลืม ลูกลิงออกไปใช้ชีวิตเด็กมหาลัยใน Sydney ออกไปอยู่หอพักเองตั้งแต่ประมาณ Jun/Jul เราก็ปล่อยให้ลูกลิงออกไปใช้ชีวิตให้เต็มที่ จันทร์-ศุกร์ แล้วเสาร์-อาทิตย์ก็กลับบ้าน ลูกลิงเป็นลูกครึ่ง Thai-Singaporean และก็เกิดและเติบโตที่ออสเตรเลีย วัฒนธรรมการเลี้ยงดูที่ครอบครัวก็จะแตกต่างไปจากที่อื่น และราเป็นอาจารย์สอนหนังสือด้วย การเลี้ยงดูลูกของเรากับภรรยาก็แตกต่างกันไปอีก เราสอนลูกศิษย์ที่โรงเรียนก็พอจะรู้บ้างว่าเด็ก ๆ วัยนี้ต้องการอิสระ ต้องการพื้นที่ส่วนตัว ช่วงเวลาจันทร์-ศุกร์เราจะห้ามภรรยาเราเลย ห้าม text หาลูกลิง เพราะแรก ๆ แม่เค๊าก็จะ text หาลูกชายเค๊าบ่อยมาก ถามว่าทานข้าวหรือยัง วันนี้กินอะไรนั่น นี่ โน่น แต่ส่วนมากลูกชายก็จะส่ง text ตอบกลับแม่เค๊าแค่สั้น ๆ แค่ - Good - OK - Done เราก็เลยบอกภรรยาเราว่าไม่จำเป็นต้อง text หาลูกลิงบ่อยขนาดนั้นก็ได้ ลูกลิงเอาตัวรอดได้แหละ ของกินใน Sydney ก็เยอะแยะ ที่มหาลัยก็มีขาย เพื่อนเค๊าก็มี ก็ปล่อยให้เค๊าไปใช้ชีวิตอยู่กับเพื่อน ๆ เค๊าบ้าง ที่บ้านเราก็เลยไม่ text ลูกลิงอะไรเลย รอเจอกันตอนที่เราไปรับเค๊าที่สถานีรถไฟวันศุกร์ แล้วก็ค่อยถามไถ่กันดีกว่า Dealing กับวัยรุ่นก็ไม่ง่ายนะครับ ไอ้รักหนะ มันก็รักแหละ แต่เราก็ต้องให้พื้นที่สำหรับลูก ๆ ด้วย ก็จะมีแค่ช่วงที่ลูกลิงติด COVID นี่แหละที่เรากับภรรยาก็ text หาลูกลิงบ่อยหน่อย แต่ก็แค่ตอนเช้านะ วันเว้นวัน ไม่ได้ text ทุกวัน ถ้า text ทุกวันเดี๋ยวลูกก็รำคาญอีก วัยรุ่นเอาใจยากกกกกกกกก นี่เหมือนเป็นปรากฏการณ์ครั้งที่ลูกลิงบอกว่า "I miss home" คิดถึงบ้าน คิดถึงอาหารที่บ้าน คำพูดเหล่านี้จะไม่หลุดออกมาจากปากลูกลิงง่าย ๆ นี่แสดงว่าคงคิดถึงบ้านจริง ๆ ที่ Sydney ลูกลิงก็มีอาหารกล่องนะครับ ช่วงที่ติด COVID แต่เค๊าก็คงเบื่อละมั้ง คงอยากจะทานอะไรใหม่ ๆ ทุกวัน คงเบื่อกันอาหารไมโครเวฟที่หอพัก ณ วันนี้ ณ วันที่เขียน blog (27 Nov 2022) ลูกลิงตัวโตกลับบ้านแล้วครับ กลับมาตั้งแต่ Thu 24 Nov 2022 แล้ว การที่เราเห็นลูกลิงสองตัวมาเจอกัน เจี๊ยวจ๊าวกันวันเสาร์-อาทิตย์ ถึงแม้เสียงมันจะดังไปหน่อย (ช่วงที่ลูกลิงไม่อยู่ ที่บ้านก็เงียบมาก ก็ดีไปอีกแบบ) แต่มันก็ดูอบอุ่นดี ตกกลางคืนมาก็เลือกดูหนังใน Netflix กัน ดูด้วยกันหมดทุกคนเป็น family เก็บเกี่ยววันเวลาเหล่านี้เอาไว้ครับ เมื่อเค๊าโตเค๊าก็ต้องออกไปโบยบิน ชีวิตคนเราก็แค่นี้แหละครับ มีความสุขกับสิ่งรอบข้าง มีความสุขกับสิ่งที่มี สิ่งเล็ก ๆ ที่เรียกว่า "รัก" อย่าลืมบอกรักคนข้างกายทุกวันนะครับ ไม่ว่าจะเป็นทางวาจา, body langauge, หรือการกระทำ ทุก ๆ วินาทีที่ได้อยู่ด้วยกันนั้นมันมีค่ายิ่งนัก บันทึกเอาไว้เป็นความทรงจำ 27/11/2022 ในช่วงเวลาที่ยุ่งแสนยุ่ง สิ่งที่เราไม่อยากให้เกิดก็เกิดขึ้น
วันพฤหัสเช้า; 10 Nov 2022, 9:31am ลูกลิงตัวโตโทรมาจาก Sydney ว่าติด COVID ตอนนี้อยู่ที่หอพัก วันรุ่งขึ้นคงกลับบ้านไม่ได้ แล้วแพลนการใช้ชีวิตและการทำงานของวันนั้นก็ต้องเปลี่ยนไป เพราะที่เราแพลนกันเอาไว้คือ: - ศุกร์; 11 Nov 2022 เราต้องไปช่วยงานคอนเสิร์ตพี่ก้อง เบน ซานิ ที่ The Star City แล้วต้องพักที่ The Star 1 คืนเพราะงานคอนเสิร์ตเลิกดึก แล้วเราค่อยกลับบ้านเช้าวันเสาร์ - เราแพลนจะออกจากบ้าน วันศุกร์ 11 Nov 2022; 2pm - ลูกลิงเสร็จ lecture วันศุกร์ 12pm แล้วนั่งรถไฟกลับบ้านที่ Wollongong เลย แล้วมาอยู่เป็นเพื่อนแม่กับน้องสาว (ลูกลิงตัวเล็ก) เมื่อลูกลิงติด COVIDเขาก็กลับบ้านไม่ได้ ก็ต้องอยู่ต่อที่ Sydney จนกว่าจะหาย แล้วอาทิตย์หน้าค่อยกลับ ส่วนงานคอนเสิร์ตพี่ก้อง The show must go on. จริง ๆ เราไม่ไปก็ได้ เพราะการใช้ชีวิตทั่ว ๆ ไปของเรา "ครอบครัวมาก่อนเสมอ" แต่เราก็มีน้อง ๆ "Avengers Team" จาก QLD มาช่วยงานนี้ น้อง ๆ ก็คงอยากจะเจอเรา สำหรับเรา การทำธุรกิจ "ทีมงานเรามาก่อนเสมอ" รองลงมาจากครอบครัว เราก็ต้องไป เพื่อเติมพลังให้น้อง ๆ ก่อนที่น้อง ๆ จะกลับ QLD กัน ลำดับความสำคัญของการทำงานของเราคือ: 1. ครอบครัว 2. ทีมงาน 3. ลูกค้า เราก็เลยต้องเปลี่ยนแผน: - แจ้งข่าวนี้กับทางผู้จัดงานคอนเสิร์ต - แจ้งข่าวกับ "Agengers Team" ว่าเราจะยังคงไปช่วยงานเหมือนเดิม ไปเจอน้อง Avengers Team เหมือนเดิม แต่ไม่ได้อยู่ดูคอนเสิร์ต ไม่ได้ค้าง จะไปแค่ช่วยงานแจกบัตร เสร็จแล้วก็กลับเลย คิดว่าไม่น่าจะเกิน 7pm The show must go on แต่ครอบครัวก็ต้องมาก่อน งานสนุก งานบันเทิงเอาไว้ทีหลัง แค่เราได้มีส่วนร่วมในการโปรโมทงานนี้ เราก็ OK แล้ว วันงาน; 11 Nov 2022 งานก็ออกมาอย่างที่เห็นตามสื่อ พอเอาเข้าจริง ๆ กว่าจะได้ออกมาก็ 8:45pm วันพฤหัสเช้า 9:31am วันที่ลูกลิงโทรมาบอกเราว่าเขาติด COVID นอนอยู่ที่หอพัก และกว่า room mates จะกลับมาก็ 3pm คนเป็นพ่อเป็นแม่ก็เป็นห่วง เพราะกว่าเพื่อนจะกลับมาก็อีกตั้ง 6 ชั่วโมง โชคดี เราก็พอดี "ครอบครัว J" ที่อยู่ที่ Sydney ที่พอจะขอความช่วยเหลือได้บ้าง เราก็ให้น้องที่อยู่ที่ Sydney ช่วยซื้อ panadol, ที่วัดอุณภูมิ และ strepsils เอาไปแขวนไว้ที่ประตูหอพัก และเมื่อวาน (12 Nov 2022) ก็มีการส่งข้าวส่งน้ำ และยาอมแก้เจ็บคออย่างที่เห็นตามภาพ ขอบคุณ ขอบคุณจริง ๆ ที่เราก็ยังพอมีคนที่เราสามารถขอความช่วยเหลือในยามยากได้ แล้วยิ่งลูกลิงเกิดที่นี่ โตที่นี่ มีความเป็นฝรั่งสูง บางทีจะทำอะไรก็ต้องระวัง เราจะไปจู้จี้จุกจิกเขามากไม่ได้ และยิ่งเข้าเรียนมหาลัยแล้ว ยิ่งต้องระวังให้มาก วัยรุ่น เอาใจยาก ส่วนเรื่องยาแก้ COVID นั่น นี่ โน่น หมดสิทธิ์ครับ แม่เค๊าต้องเช็คก่อนว่ายาตัวนี้คือะไร ยังไง ผ่าน WHO มั้ย ฟ้าทะลายโจรอะไรนั่นหนะ ไม่ต้องพูดถึง ถ้าอันไหนไม่ผ่าน WHO เค๊าก็จะไม่ให้ถึงมือลูกชายเค๊าเป็นอันขาด พูดยากจ๊ะ แม่เค๊าเป็นสายวิทยาศาสตร์ล้วน ๆ จะมาเอาอะไรเหมือนคนไทยเราไม่ได้ ส่วนเราก็ "เพลียที่จะอธิบาย" ไม่พูดอะไรดีที่สุด แม่เค๊าจะเข้าไป website ของ governmment เองว่าต้องทำอะไรบ้าง ทานยาอะไรได้บ้าง อะไรที่ไม่ approved โดยรัฐบาล อะไรที่ไม่ approved โดยหน่วยงานที่น่าเชื่อถือได้ เค๊าก็ไม่เอา ไม่เห็นด้วยทั้งนั้น ก็ต้องปล่อยให้แม่เค๊าเป็นคนจัดการ เพราะแม่เค๊าคือ CEO ของบ้านตัวจริง เราเป็นแค่ทับหนุนพอ เมื่อวานน้อง "ครอบครัว J" ก็เป็นธุระให้อีกครั้ง ช่วยเอาเสบียงอาหารพวกซุบต่าง ๆ และยาอมแก้เจ็บคอ ไปให้ อย่างน้อยก็จะได้มีอะไรกิน จะมารอ room mate วิ่งซื้อนั่น นี่ โน่น ก็ไม่รู้จะทำได้มากน้อยแค่ไหน เพราะ room mate ก็ต้องไปเรียนด้วย เราดูแลกันเองนี่แหละดีที่สุด ขอบคุณ ขอบคุณ และก็ขอบคุณอีกครั้ง ใคร "someone" ที่ช่วยเป็นธุระในครั้งนี้ ไม่ว่าจะเมืองไหน อะไร ยังไง อุ่นใจเสมอ ถ้าเรามีสมาชิกของ "ครอบครัว J" อยู่ที่นั่น ตอนนี้ลูกลิงก็แค่ทาน panadol และ strepsils เราก็ไม่ได้ worry อะไรมาก เพราะลูกลิงเองก็วัคซีนไป 3 เข็มแล้ว คิดว่าน่าจะอีก 2-3 วัน ลูกลิงก็น่าจะ OK รอวันลูกลิงกลับบ้าน กราบขอบคุณใคร "someone" ที่ช่วยเป็นธุระให้ ...รักเสมอ... ตอนนี้ลูกลิงตัวโตเรียนอยู่ที่ UNSW, full-time
ที่ UNSW 1 ปีการศึกษามี 3 เทอม เป็น trimester full-time เรียนเทอมละ 3 วิชา 1 trimester เรียน 10 weeks 1 ปี เรียน 9 วิชา ลูกลิงย้ายไปอยู่หอพักนักศึกษาใน Sydney ตั้งแต่เทอมที่แล้ว เทอมแรก ลูกลิงมีเรียนแค่ 3 วัน; อังคาร พุธ พฤหัส และก็เดินทางไปกลับทุกวัน เราเห็นลูกเดินทางเหนื่อย คนเป็นพ่อเป็นแม่ก็สงสารจับใจ ก็เลยให้ไปเช่าหออยู่เลยละกันตอนเทอมที่ 2 Sydney-Wollogong ไม่ไกล แต่ถ้าต้องเดินทางไปเรียนทุกวันแบบนั้น มันก็อาจจะกระทบกับการเรียนของลูกได้ เทอมที่ 2 ลูกลิงลงเรียนแค่ 2 วิชาตามที่เราแนะนำ เพราะเราอยากให้ลูก enjoy the uni life ให้มากที่สุด ไม่ต้องรีบจบ เรียนไป หาประสบการณ์ชีวิตไป แบบบนี้ดีกว่า เรากับภรรยาผ่านชีวิตการเรียนที่มหาลัยที่ประเทศออสเตรเลียมาก่อน เรารู้ดีว่ามันเป็นยังไง เราก็อยากให้ลูกเราสนุกกับชีวิตการเป็นนักเรียนมหาลัยได้มากที่สุด พอเทอม 2, ลูกลิงเรียนแค่ 2 วิชา มีเรียน 3 วันเหมือนกัน แต่เรียน online 2 วัน เรียน practical แค่ 1 วันคือวัพฤหัส เอ๊า พอลูกลิงไปเช่าหอพักใน Sydney; $319/week (daddy จ่าย, หักผ่านบัญชีทุก ๆ 2 weeks) แล้วก็มาดันมีเรียนแค่อาทิตย์ละ 1 วันนี่นะ แล้วอีก 2 วันที่เหลือก็เรียน online เรียน online จริง ๆ แล้วก็เรียนอยู่ที่บ้าน อยู่ที่ Wollongong ก็ได้ แต่ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว ลูกลิงได้เช่าหอพักเอาไว้แล้ว ลูกลิงก็เลือกที่จะเข้าไปใช้ชีวิตที่ Sydney ได้เดิน เล่น เที่ยว กับเพื่อน ๆ ของเขา ซึ่งเราก็สนับสนุนเต็มที่ เราอยากให้ลูกเราได้ experience ชีวิตข้างนอกให้เต็มที่ ชีวิตช่วงเรียนมหาลัยมันเป็นอะไรที่สนุก เราไม่อยากให้ลูกเคร่งแต่เรื่องการเรียนอย่างเดียว เทอมที่แล้ว เทอม 2; ลูกลิงมีเรียน อังคาร พุธ พฤหัส แต่ก็เรียน online วันอังคารและวันพุธ เขาก็จะเข้า Sydney วันจันทร์เช้า เพื่อไป rock climbing กับเพื่อน ๆ เขาบ้าง กิจกรรมวันจันทร์ของลูกลิงกับเพื่อน ๆ วันจันทร์ก็จะเป็น rock climbing เอย, ice skating เอย หรือบางทีก็พากันไปยิงธนู ชีวิตเด็กมหาลัย มันต้องแบบนี้สิ ส่วนเรื่องการเรียน ไม่ต้องห่วง ลูกลิงได้ HD ทั้ง 2 วิชา (HD: High Distinction) Physics กับ Maths เราก็เลยไม่ค่อย worry เรื่องการเรียนลูกเท่าไหร่ เราอยากให้เขา experience ชีวิตเด็กมหาลัย และการใช้ชีวิตนอกบ้านให้มากที่สุด เทอมนี้เทอม 3 เทอมสุดท้าย ลูกลิงลงเรียน full-time 3 วิชา ซึ่งเราก็ไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่ เอาจริง ๆ คือเราไม่อยากให้ลูกเครียด ไม่อยากให้ลูกเรียนหนัก เราอยากให้ลูก enjoy uni life มากกว่า แต่... anyway เมื่อลูกลิงเลือกที่จะลงเรียน 3 วิชา เราก็ต้องปล่อยเขา พอเทอมนี้ลูกลิงลงเรียน 3 วิชา ตารางเรียนลูกลิงก็ออกมาแน่นเอี๊ยดเลย กระจาย ๆ กันไป สรุปคือเรียนทุกวัน จันทร์-ศุกร์ แต่เรียนแบบกระปิดกระปอย เรียนวันละนิดวันละหน่อย เทอมนี้ลูกลิงก็เลยอยู่ที่ Sydney ซะเป็นส่วนใหญ่ ไป Sydney วันจันทร์เช้า วันศุกร์เลิกเรียน ก็กลับบ้าน สรุปเทอมนี้ก็กลับบ้านแค่ เสาร์-อาทิตย์ เอง เราก็ต้องปล่อยให้ลูกลิงออกไปโลดแล่น ออกไปโบยบิน ใช้ชีวิตของเขา เขากลับบ้านมาเสาร์-อาทิตย์ เขาก็ยังอ่านหนังสือ ทำการบ้านทุกวัน ไม่เว้นเสาร์-อาทิตย์ เหมือนเช่นเดิมตอนสมัยเรียน hig school ที่บ้านเราเป็น "open door" policy ห้องนอนทุกห้องห้ามปิดประตู ปิดประตูก็ต่อเมื่อตอนเข้านอนเท่านั้น เวลาเราเดินผ่านห้องลูก เราก็จะเห็นเสมอว่าลูกลิงทำอะไรอยู่ เราก็ happy แล้ว ความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ ของพ่อแม่ ความสุขที่ไม่ต้องไปซื้อมาด้วยเงินทอง คนเรารักกัน ไม่จำเป็นต้องเจอหน้ากันทุกวันก็ได้ ระหว่าง weekdays ที่ลูกลิงไปใช้ชีวิตอยู่ที่ Sydney เรากับภรรยาก็ไม่ text ไม่ call ปล่อยให้เขามีอิสระในการใช้ชีวิตในเมืองของเขาไป ที่พักของลูกลิงค่อนข้างสะดวก อยู่ใจกลางเมืองเลย ใกล้ Central station เดินไป China town ได้ เดินไป Thai town ได้ เทอมที่แล้ว เราเคยถามลูกลิงว่าถ้าเราซื้อ apartment ให้ที่ Hurstville ลูกจะมาอยู่มั้ย เดินทางประมาณ 30 นาทีถึง Central station จะได้ไม่ต้องไปเสียค่าเช่าหอพัก สรุป ลูกลิงบอกว่าไม่เอา ชอบอยู่ใน Sydney มากกว่า ใกล้ทุกอย่าง สะดวกทุกอย่าง อ๊ะ... ซะงั้น กลายเป็นเด็ก Sydney ไปแล้ว Hurstville ก็เลยหมดสิทธิ์ anyway... ช่วง weekend แบบนี้ ลูกลิงกลับบ้าน ก็นั่งทำการบ้าน นั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องเค๊า บางทีเขาก็มีเล่นเกมส์ออนไลน์กับเพื่อนสมัย high school บ้าง เราก็นั่งทำอะไรอยู่ข้างนอก แค่ได้ยินเสียงลูกหัวเราะกับเพื่อน ๆ เขาเวลาเขาเล่นเกมส์ออนไลน์ คนเป็นพ่ออย่างเราก็มีความสุขแล้วครับ มีความสุขกับสิ่งเล็ก ๆ รอบข้างกายเรานะครับ ชีวิตเป็นสิ่งไม่แน่นอน ทำวันนี้ให้ดีที่สุดก็พอ "สุข" ที่สุด ณ จุดที่เป็น บันทึกเอาไว้เป็นความทรงจำ.... "The Paopengs" 02/10/2022 ประเทศออสเตรเลีย เท่าที่เรารู้นะ มีโรงเรียนสอน ballet แบบ full-time อยู่ที่ Melbourne และ Brisbane เท่านั้น ทั้ง 2 โรงเรียนใช่ว่าทุกคนจะสมัครเรียนได้เลย ทุกคนต้องทำการ audition เพื่อที่จะเข้าเรียน คือทางโรงเรียนเป็นฝ่ายเลือกเรา ไม่ใช่เราเลือกโรงเรียน
ที่ Melbourne ก็จะเป็น Australian Ballet Academy ที่ Brisbane ก็จะเป็น Brisbane Ballet Academy สำหรับคนที่เรียน full-time ทางโรงเรียนก็จะมีให้เรียนวิชาการทั่ว ๆ ไปด้วยนะครับ ไม่ใช่เรียนแค่ ballet อย่างเดียว ในขณะเดียวกัน ทาง academy เองก็จะมี intensive traning programme ของใครมัน ที่คนภายนอกสามารถเข้ามา join ได้ ที่ Melbourne จะมีเป็น summer camp ช่วง summer ที่ Brisbane จะเป็น 1-week intensive programme ทุก ๆ เทอม ปีหนึ่งมี 4 เทอมก็ 4 ครั้ง ครั้งละ 1 อาทิตย์ ปีที่แล้วลูกลิงตัวเล็ก audition ได้ที่ Brisbane Ballet Academy และก็เป็นนักเรียนคนเดียวใน class ที่โรงเรียนที่ลูกลิงเรียนอยู่ตอนนี้ ที่ audition ได้ เพื่อน ๆ หลายคนที่บินไป audition ด้วยกันไม่ได้ซักคน ลูกลิงตัวเล็กได้คนเดียว เรากับครอบครัวก็พร้อมสนับสนุนเต็มที่ เพราะทุก ๆ เทอมลูกลิงกับแม่ลิงต้องบินมา 1 อาทิตย์ ก็มีบ้างที่เราบินมาสมทช่วง weekend แล้วก็บินกลับด้วยกัน ทางโรงเรียนของลูกลิงตัวเล็กก็ให้การสนับสนุนเต็มที่อยู่แล้ว เพราะเป็น performing arts high school ช่วงที่ขาดเรียนไป 1 อาทิตย์ ถือว่าไปเรียน ไม่ได้ขาดเรียน... ดีไปอีก เทอมที่แล้ว อีกแค่ 1 อาทิตย์ก่อนที่ลูกลิงกับแม่ลิงจะบินไปวันอาทิตย์ เรากับลูกลิงตัวโตกะจะไปบินไปสมทบวันอังคาร และก็จะอยู่เที่ยวด้วยกันที่โน่น แล้วบินกลับด้วยกัน และเราก็กะจะไปทำงานด้วย ไปทำ face-to-face consultation แต่ทุกอย่างก็ต้องเปลี่ยน เพราะแฟนเราตรวจเจอโรคร้ายที่เต้านม ก็เลยต้องยกเลิกทุกอย่างเลย ตั๋วเครื่องบินก็ไม่มีปัญหาอะไร เพราะพวกเราบิน Qantas ก็ได้เป็น credit เอาไว้บินรอบต่อไป ลูกลิงก็เสียใจที่ไม่ได้ไปเรียน ไม่ได้ไปเจอเพื่อน ๆ ที่เรียน ballet ด้วยกันที่โน่น เพราะแต่ละคนบินมาจากแต่ละที่ แล้วมาเจอกัน 1 อาทิตย์ ลูกลิงได้เพื่อนใหม่ ไม่ว่าจะมาจาก Canberra เอย, Newcastle เอง ทาง academy ก็ใจดี บอกว่าลูกลิงว่างเมื่อไหร่ก็บินมาเรียนได้ แต่ก็จะเรียนกับนักเรียน full-time ที่ academy ไม่ใช่กลุ่มเดียวกันกับเพื่อน ๆ ที่เรียนช่วง intensive week ไหน ๆ เราก็จ่ายเงินไปแล้ว ค่าเรียนไม่ถูกครับ แต่เพื่อลูกน้อย คนเป็นพ่อเป็นแม่ก็ต้องทำแหละ จะถูกจะแพงมันก็ต้องสู้ให้ถึงที่สุด แต่มันก็อยู่ใน range ที่ครอบครัวเราไหว ส่วนค่ากิน ค่าอยู่ 1 อาทิตย์ ก็เยอะครับ แต่ก็ OK ครอบครัวเราไหว เทอมนี้ เดือนนี้ 17-23 July 2022, daddy ก็เลยต้องเป็นคนพาลูกลิงไป ก็ต้องไปรับส่งทุก ๆ วัน daddy ก็ต้องทำ lunch box ทุก ๆ วัน เพราะแม่ลิงเองก็ต้องทำคีโม ก็ต้องพักผ่อนอยู่ที่บ้าน ช่วงนี้ daddy ก็ต้องทำทุกอย่าง ไหน ๆ ลูกลิงก็ดูเหมือนว่า 99.99% น่าจะปักหมุดอยู่ที่ Brisbane น่าจะเรียนต่อ QUT หลังจากจบ year 12 เรากับภรรยาก็เลยต้องมองหาบ้าน หา apartment หลังต่อไปที่ Brisbane ซะเลย จะได้ไปต้องไปเช่าเขาเวลาลูกลิงไปเรียนที่โน่น แต่ก็อีก 4 ปีแหละกว่าลูกลิงจะจบ year 12 แต่การเตรียมตัวล่วงหน้าเป็นสิ่งที่ดี ถ้าได้บ้านหรือ apartment ที่สร้างเสร็จแล้ว เราก็ปล่อยให้เช่าได้ อีก 4 ปีค่อยไปอยู่ก็ได้ ตอนนี้เราก็ต้องจัดการเรื่องภาษี เรื่อง paperwork อะไรให้พร้อมก่อน แล้วค่อยมองหาบ้าน มองหา apartment จะกู้หรือจะซื้อสดก็ว่ากันไป ดูท่าทางน่าจะกู้นะ เพราะบ้านหลังก่อน ๆ ของเราก็มี equity อยู่ เดี๋ยวต้องคุยกับ RAMS ถ้าพวกเราได้บ้านหรือ apartment ที่ Brisbane ให้ลูกลิง อีก 4 ปีก็จะเป็นอะไรที่ลงตัว เพราะอีก 4 ปี apartment ที่เราซื้อไว้ที่ Gold Coast, Surfers Paradise ที่จะเสร็จพอดี; 7-Star Residence Hotel/Resort... อะ ว่ากันไป อันนี้ซื้อไว้ไปอยู่เอง เป็น holiday home ช่วง winter ก็จะได้หนีหนาวจาก NSW เพราะยังไงเราอยู่ที่ไหนก็ทำงานได้อยู่แล้ว และฐานลูกค้าเราก็ QLD ก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เรากับภรรยาก็คิดว่าเป็นการ plan เอาไว้ล่วงหน้าอีก 4 ปีที่ลงตัว ลูกลิงตัวเล็กก็เหมือนว่าได้ปักหมุดเอาไว้แล้วที่ Brisbane เราก็ต้องปล่อยเขา ชอบที่ไหนก็ไปที่นั่น ก็แค่นั้นเอง ครอบครัวเราไม่บังคับ ขอให้ลูก ๆ happy ก็พอ ส่วน mummy & daddy เมื่อลูกลิงทั้ง 2 เรียนจบมหาลัยกันหมดแล้ว เราก็อาจจะย้ายไปอยู่ WA ก็ได้ เพราะใกล้สิงคโปร์ ใกล้เมืองไทย มันเป็นความต้องการของภรรยา สามีที่ดีต้องตามใจภรรยาครับ อะ... ว่ากันไป :) อีกหนึ่งเรื่องราวของชีวิต เขียนเอาไว้เป็นความทรงจำ... เขียนตอนว่าง ๆ ช่วง weekend เทอมที่แล้วลูกลิงตัวโตเรียนที่ UNSW อาทิตย์ละ 3 วัน
นอกนั้นก็เรียน online เห็นลูกลิงต้องเดินทางไกลแบบนั้นอาทิตย์ละ 3 วัน เราก็อดที่จะสงสารลูกไม่ได้นะ กลับมาถึงบ้านลูกก็เพลีย ๆ เหนื่อย ๆ อ่านหนังสือได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย คนนี้เขาเด็กเรียนอยู่แล้ว เราก็ไม่อยากไปทำให้ชีวิตการเรียนเขาสะดุด เราก็อยากจะส่งเสริมเขาให้ถึงที่สุด บ้านนี้จะทำอะไร ต้องไปให้สุดทาง ครึ่ง ๆ กลาง ๆ daddy ไม่ค่อยชอบ เอาเถอะ เขาอ่านหนังสือได้ในรถไฟ แต่ร่างกายมันก็ไม่ 100% อยู่ดี เพราะเพลียกับการเดินทาง เทอมนี้ลูกลิงได้หอพักใน Sydney แล้ว ถึงแม้จะมีเรียนแค่อาทิตย์ละ 1 วันก็เถอะ นอกนั้นก็เรียน online ลูกลิงก็อยากจะทำกิจกรรมอะไรอย่างอื่นที่ Uni ด้วย ไม่ใช่เรียนเสร็จก็ต้องรีบขึ้นรถไฟกลับบ้าน อันนี้ daddy กับ mummy ก็เห็นด้วยและ give him a full support in whatever he wants to do เทอมนี้ลูกลิงก็ได้หอพักแถว ๆ UTS, USYD เพื่อที่ลูกลิงจะได้ hang out กับเพื่อน ๆ ได้ ได้ใช้ชีวิตเด็ก Uni อย่างคุ้มค่า แน่นอน ทุกอย่างมาพร้อมกับค่าใช้จ่าย แต่เราก็เอาอยู่ หอพักนี้เต็มไปด้วยเด็ก UTS ซึ่งเราก็ว่าดีออก ก็บอกกับลูกว่า "หนูจะได้มีเพื่อนใหม่ ๆ ต่าง uni ด้วยไง" และหอพักก็ใกล้ USYD เดินไปใช้ห้องสมุดของ USYD ได้ Note: เราใช้คำว่า "หนู" กับลูก ๆ พูดแบบไทย ๆ ปนอังกฤษ ลูกลิงไม่รู้หรอกว่าคำว่า "หนู" แปลว่าอะไร ลูกลิงต้องเดาเอา แต่เราคิดว่ามันฟังแล้วมัน soft มันลื่นหูดี ลูกลิงไม่มีเรียนวันศุกร์ เราก็แนะนำให้ลูกลิงยังติดต่อเพื่อน ๆ ที่สนิทที่ UOW อยู่ อย่าทิ้งเพื่อน ๆ กลุ่มนี้ เพราะเพื่อน ๆ ที่เรียนที่ UOW ก็เป็นเพื่อนที่ดี ๆ กันทั้งนั้นเลย เด็ก top class, เด็กห้องหนึ่ง เด็กเรียน เราก็อยากให้ลูก keep connection เอาไว้ ลูกลิงเรียนเสร็จวันพฤหัส ก็กลับบ้าน วันศุกร์ he ก็เข้าไปที่ UOW ไปเล่น table tennis กับเพื่อน ๆ ไปอ่านหนังสือกับเพื่อน ๆ ในห้องสมุด เพราะเพื่อน ๆ จาก high school; 95% ก็เรียนต่อที่ UOW กัน เพราะสะดวก ไม่ต้องเดินทาง การที่ลูกลิงออกไปอยู่เองที่หอพักก็ดีเหมือนกัน ที่บ้านคนก็ไม่พลุกพล่าน หลาย ๆ คนอาจจะบอกว่า huh... ทำไม daddy พูดแบบนี้ hmmm.... พวกเราเติบโตกันมาแบบสังคมเมืองนอกจ๊ะ ไม่ได้ไทยจ๋า ไม่ได้ Asian จ๋า รักกัน ไม่ต้องเจอหน้ากันทุกวันก็ได้ อาทิตย์หนึ่ง ลูกลิงกลับบ้าน 3 วัน อยู่หอ 4 วัน เราคิดว่ามันเป็นอะไรที่ลงตัว ทุกคน have their own spaces, their own lives ว่างั้นเถอะ และลูกลิงก็เกิดที่นี่ เติบโตที่นี่ เขาก็ต้องใช้ชีวิตแบบคนที่นี่ ก็จะกึ่ง ๆ Thai Singaporan & Australian คละเคล้ากันไป ส่วนตัวเรา เราคิดว่าเป็นอะไรที่ลงตัว คนอื่นคิดยังไงเราไม่รู้ นั่นคือปัญหาของเขา ไม่ใช่ปัญหาของเรา เมื่อลูกลิงต้องออกไปอยู่หอเอง daddy ก็ต้องพามา Kmart มา shopping เครื่องนอน ๆ ต่าง ๆ นานา ที่หอพักมีเครื่องนอนให้ แต่ไม่ฟรีจร้าาาาาาาาา ทุกอย่างต้องซื้อ ทุกอย่างเป็นเงินเป็นทองหมด โอ๊ยจะบ้าตาย ซักผ้าครั้งละ $3 อบผ้าครั้งละ $3 ลูกลิงก็ต้องซักผ้าเอง อบผ้าเอง daddy กับ mummy สบายละ!!! หนูจัดการ laundry ของหนูเองนะลูก.... :) ก็ไม่คิดว่าวันนี้จะมาถึง เมื่อนกน้อยต้องออกไปโบยบิน daddy ก็ต้องทำงานหนัก work hard จ่ายค่าหอ ลูกลิงก็มีสอนพิเศษด้วย ก็ได้เป็นเงินค่าขนม เป็น pocket money ของเขา daddy ก็ดูแลเรื่องค่าหอพักไป แค่ลูกลิงออกไปใช้ชีวิตนักศึกษาให้คุ้มค่า กลับบ้านทุก weekend เราก็ happy แล้ว สุขที่สุด ณ จุดที่เป็น บันทึกเอาไว้เป็นความทรงจำ Something to warm your heart this windy weekend. 12/06/2022 ปีนี้ลูกลิงตัวโตเข้ามหาลัยแล้วครับ
ถ้าหลานชายเรายังอยู่ ปีนี้ลูกลิงต้อง take gap year แล้วไปอยู่เมืองไทย 1 ปีเต็ม ๆ ไปเพื่อไปเรียนภาษาไทย ไปเพื่อไปเรียนรู้วัฒนธรรมไทย เพราะที่บ้านเราใช้ภาษาอังกฤษกัน และก็ใช้ชีวิตเหมือนคนออสเตรเลียนทั่ว ๆ ไป เราก็เลยอยากจะให้ลูกลิงไปซึมซับวัฒนธรรมไทยและเรียนภาษาไทยที่โน่น แต่ทุกอย่างก็ต้องเปลี่ยน เมื่อหลานชายเราไม่อยู่ เพราะลูกลิงสนิทกับหลานชายเรา ก็กะว่าจะให้ไปเดินเล่นโต๋เต๋ด้วยกัน 2 พี่น้อง ให้ลูกเราไปนั่งเรียนมหาลัยกับหลานชายเรา (ทำได้ เชื่อสิ) หรือไม่ก็ไปช่วยขายของอยู่ที่ร้าน ให้ลูกเราได้พูดภาษาไทย ให้หลานเราได้พูดภาษาอังกฤษ เมื่อหลานชายเราไม่อยู่ ลูกลิงไปเมืองไทย 1 ปี ก็คงไม่มีเพื่อน เราก็เลยเปลี่ยนแผน บอกลูกว่า ไม่ take gap year ก็ไม่เป็นไร เพราะเรื่อง gap year พวกเราเตรียมตัวและคุยกันเอาไว้ตั้งแต่เด็ก ๆ ยังเล็ก ๆ อยู่ เพราะเราจะไม่สอนลูกพูดภาษาไทย ลูกต้องไปเรียนรู้เอง ถ้า daddy มาที่ประเทศออสเตรเลียแล้วมาเรียนภาษาอังกฤษเองได้ หนูก็ต้องไปเมืองไทยแล้วเรียนภาษาไทยเองได้เหมือนกัน พวกเราคิดกันแบบนี้ เลยไม่ได้สอนลูกภาษาไทยเลย anyway... วกเข้ามาที่ลูกลิง ปีนี้ลูกลิงได้รับ offer ทั้ง 3 มหาลัยที่ลูกลิงสมัครไป; UOW, UTS, UNSW ก็แน่นอนอยู่แล้ว 99.99% เราเดาใจลูกลิงอยู่แล้วว่าถ้าได้ UNSW เขาก็ต้องไป UNSW เพราะนี่คือ มหาลัย 1st ranking ของ NSW UOW แต่ก่อนก็เป็น Teacher College ของ UNSW นะครับ ดังนั้น UOW และ UNSW ก็มี history ซึ่งกันและกันอยู่ เพราะ UOW ก็แยกตัวออกมาจาก UNSW เพราะแต่ก่อน UOW ก็เป็น campus ของ UNSW สำหรับเราแล้ว ถ้าลูกลิงเลือกเรียนที่ UOW เราก็ OK เพราะถ้าเรียนที่ UOW ลูกลิงก็แทบจะไม่มีค่าใช้จ่ายเลย เพราะบ้านห่างจากมหาลับแค่ 5-10 นาที anyway... เขาก็เลือก UNSW ตามที่เขาตั้งเป้าหมายเอาไว้ เราก็ต้องยินดีกับเขาและคอย support เขา in every step along the way UNSW 1 ปี full-time ต้องเรียน 9 วิชา 1 ปีมี 3 เทอม แบ่งเป็นเทอมละ 3 วิชา เทอมแรก เทอมนี้ ลูกลิงก็เรียน full-time เลย เรียน 3 วิชา ซึ่งเราก็ไม่เห็นด้วยเท่าไหร่ เราอยากจะให้ลูกลิง enjoy ชีวิตของการเรียนมหาลัยมากกว่า เรียนไปด้วย ทำกิจกรรมไปด้วย ชิล ๆ เรียนเทอมละ 2 วิชาพอ ไม่ต้องรีบจบ อะไรประมาณนี้ แล้วไปลงเรียนเพิ่มช่วง summer อีก 1 วิชาได้ เราคิดว่าเรียนไปช้า ๆ ไม่ต้องรีบ เพราะไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องรีบ แบบนี้เราคิดว่าชีวิตน่าจะมีความสุขมากกว่านะ เรื่องทำงานไม่ต้องพูดถึง เราคิดว่าเราเตรียมอะไรไว้ให้ลูก ๆ หมดแล้วทั้ง 2 คน (3 คน ถ้าหลานชายยังอยู่) Investment properties อะไรต่าง ๆ จาก 3 ประเทศที่เรามี ก็น่าจะ support life style ที่พวกเราต้องการได้ จริง ๆ แล้วไม่ต้องดิ้นรนอะไรมากก็ได้ แต่... anyway... ลูกลิงก็เรียน 3 ตัว ผลสอบ mid-term ก็ออกมาดี 100% mid-term Maths อีก 2 วิชายังไม่รู้; Physics กับ Engineering เทอมนี้ลูกลิงไปเรียนที่ UNSW แค่ 3 วัน ที่เหลือก็เรียน online ได้ แรก ๆ เราก็ขับรถรับส่ง Wollongong-Sutherland (45 นาที) แล้วลูกลิงก็นั่งรถไฟจาก Sutherland ไป Central Station (30 นาที) แล้วนั่ง tram อีก 6 นาทีไป UNSW เรารับส่งอยู่ได้ 3-4 อาทิตย์เอง ลูกลิงก็ขอนั่งรถไฟจาก Wollongong เลยละกัน เพราะเขาอยากจะอ่านหนังสือในรถไฟ เพราะเขาบอกว่าเขาอ่านหนังสือในรถไม่ได้ เวลา daddy ขับรถส่ง เอ๊า... ซะงั้น แต่ก็... anyway... เขาโตแล้ว เขาอยากทำอะไรก็ต้องปล่อยเขา แต่เราก็พยายามบอกอยู่ว่า เทอมหน้าเรียนแค่ 2 ตัวพอนะลูก เราผ่านชีวิตการเป็นเด็กเรียนมาก่อน เรารู้ว่ามันเป็นยังไง OK แหละ มันรู้สึกดีเมื่อเราสอบหรือเขียน essay ได้ 95% ได้ 100% แต่เราก็ต้อง enjoy the Uni life ด้วย วันและเวลามันไม่เคยหวนกลับ ตั้งแต่ครอบครัวเราสูญเสียหลานชายเราไป มุมมองและการใช้ชีวิตของพวกเราเปลี่ยนไป เราอยากให้ลูกลิง enjoy life มากกว่า ลูกลิงเลือกที่จะเรียนที่ UNSW แทนที่จะเรียนที่ UOW เราก็เคารพการตัดสินใจของเขา มันก็คงเป็นความภูมิใจของเขาแหละ เพราะ UNSW Engineering ก็ไม่ได้เข้าได้ง่าย ๆ ATAR ต้อง 90+ (ATAR = Australian Tertiary Admission Rank) ในขณะที่เรียนที่ UOW ลูกลิงแทบจะไม่มีค่าใช้จ่ายเลย เพราะ free bus ก็อยู่ตรงหน้าบ้านเราเอง นั่งรถบัสไป 10 นาที หรือเราขับรถไปส่ง 5 นาที แต่....anyway... นั่นก็คือการตัดสินใจของลูก ๆ เราก็ต้อง support ทุก ๆ การตัดสินใจของพวกเรา ลูกลิงตัวโตก็เรียน Engineering ที่ UNSW ลูกลิงตัวเล็ก ตอนนี้ก็ปักหมุดไว้ที่ QUT (Bachelor of Dance) Brisbane เตรียมตัวเจอป่วนได้เลยจ๊ะ อีก 4 ปี เทอมแรกของ UNSW ผ่านมาครึ่งเทอมแล้ว อีกครึ่งเทอมจะเป็นยังไง เรายังไม่รู้ และอีกเทอมต่อ ๆ ไปจะเป็นยังไง เราไม่รู้ ทุกวันนี้ ขอแค่ทุกคนในครอบครัวมีความสุขก็พอแล้ว อย่างอื่น เรื่องของนอกกาย ถ้าไม่ตาย พวกเราก็คงหาเอาใหม่ได้ บันทึกเอาไว้เป็นความทรงจำ ครอบครัว "Paopeng" และลูกลิงของ daddy 03 Apr 2022 ปีนี้ลูกลิงลงแข่งสนาม Australian Classical Challenge ที่ Newcastle
ชื่อสนามแข่งก็บอกอยู่แล้วว่าเป็น classical dance ดังนั้นมันจะไม่มี Jazz, Hip Hop หรือ dance อื่น ๆ ลูกลิงก็ลงแข่ง 2 categories ด้วยกันคือ: - ballet และ - contemporary การแข่งขัน เป็นการแข่ง 3 วัน; Fri-Sat-Sun ก็มีรอบคัดเลือก และรอบ finallist ทั้ง 2 ประเภทมีคนเข้าแข่งขันประมาณ 80 คน และ finallist ก็แค่ 15 คนเท่านั้น แล้ว 15 คนนี้ก็ไปแข่งกันวันสุดท้าย ว่าใครจะได้ที่ 1-2-3 ลูกลิงไม่ติด finallist ของ comtemporary เพราะผู้เข้าแข่งขันก็เยอะจริง ๆ มาจากแทบทุกที่ของ NSW แต่ลูกลิงก็ได้ประสบการณ์และได้เจอเพื่อน ๆ ของเขา ทั้งเพื่อนใหม่และเพื่อนเก่า เอาจริง ๆ นะ ทุก ๆ สนามแข่งที่ลูกลิงไป ลูกลิงก็จะเจอคนแข่งเดิม ๆ ความสนิทสนม ความเป็นเพื่อนก็เริ่มขึ้น หลังจากการแข่งขันลูกลิงก็ยังคงติดต่อเพื่อน ๆ ที่เขาได้ไปเจอ ซึ่งเราคิดว่ามันเป็นการดีมากเลย แม่ ๆ เองก็เริ่มสนิทกันมากขึ้น เพราะเจอกันบ่อยเวลาลงแข่ง บางที่เขาก็ฝากเราให้ดูแลลูกเขา บางทีเราก็ฝากเขาให้เขาดูแลลูกเรา ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน บางทีลูกเราเข้ารอบ ลูกเขาไม่เข้ารอบ เราก็ต้องเก็บอาการ แต่มันก็เป็น part of the fun กิจกรรม dance เป็นกิจกรรมของลูกลิงตัวเล็กและแม่ของเขา 2 คนแม่ลูกเขาก็จะคุยกันกระนุ๊งกระนิ๊ง analyse การ dance ต่าง ๆ นานา ซึ่งเราฟังไม่รู้เรื่องหรอก และก็น่าเบื่อสำหรับเรา แต่แม่กับลูกเขามีความสุขกันเวลาพวกเขา 2 คนคุยกันเรื่องนี้ เราว่ามันก็เป็นอะไรที่ happy ดีนะ ทุกคนมีความสุข ครอบครัวมีความสุข มันก็อยู่กันง่าย เรามีหน้าที่แค่เป็นคนขับรถ ขับไป drop ที่สนามแข่ง แล้วก็ขับไปรับ เราก็กลับมานั่งทำงานต่อที่โรงแรม เกิดเป็น J ต้องอดทน สิบล้อชนต้องไม่ตาย การแข่งครั้งนี้: - contemporary ลูกลิงไม่ได้เข้ารอบ 15 คนสุดท้าย ก็ไม่เป็นไร ลูกลิงได้ประสบการณ์ ได้เพื่อน - ballet ลูกลิงได้เข้ารอบ 15 คนสุดท้ายจาก 80 คน ซึ่งเราถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว พอติด finallist 15 คน ลูกลิงก็ต้อง dance อีกรอบวันชิง แต่ก็ไม่ได้ตำแหน่งอะไร ไม่ได้ติดอันดับ 1-2-3 แต่ก็ไม่เป็นไร จริง ๆ ทุกคน 15 คนสุดช้ายคือ "ชนะ" แล้ว ทุก ๆ กิจกรรมของลูกมีค่าใช้จ่ายนะครับ คุณพ่อคุณแม่ที่มองหากิจกรรมให้ลูกก็ต้องเผื่อค่าใช้จ่ายตรงจุดนี้เอาไว้ด้วย ยิ่งต้องมีการแข่งขันต่างถิ่นด้วยหละก็ - ค่าเดินทางเอย - ค่าที่พัก ค่าโรงแรมเอย - ค่ากินเอย ชีวิตไม่ง่าย แต่ก็เป็น activity ที่ลูกลิงชอบ ถ้าลูกลิงชอบ คนเป็นพ่อเป็นแม่ก็ต้องให้การสนับสนุน สำหรับเราแล้ว ก็ถือว่าเป็นการพักผ่อน เปลี่ยนบรรยากาศ เปลี่ยนสถานที่การทำงาน เพราะเราทำงานจากที่ไหนก็ได้; Work From Anywhere (WFA) กิจกรรม dance เป็นกิจกรรมของลูกลิงตัวเล็ก ถ้าไปแข่งต่างถิ่นแบบนี้ พวกเราก็จะ "ไปไหนไปกัน" ไปด้วยกันหมดทั้งบ้าน 4 คน ลูกลิงตัวโตก็จะหอบ computer หอบการบ้านมานั่งทำที่โรงแรมด้วย แต่ปีนี้ 2022 ลูกลิงตัวโตเข้าเรียนมหาลัยแล้ว และเริ่มโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ดูแลตัวเองได้ บางทีเขาก็เลือกที่จะไม่ไปกับพวกเราด้วย เราก็เอาเขาไปฝากไว้กับบ้านเพื่อนที่สนิทกัน เขาโตแล้ว เขาจัดการอะไรต่าง ๆ นานาของเขาเองได้ การไปแข่งที่ Newcastle ในครั้งนี้ เราก็เห็นลูกลิงตัวเล็กพูดถึงเพื่อนคนนั้น เพื่อนคนนี้ เราก็มีความสุข แสดงว่าลูกลิงได้เพื่อนใหม่ ๆ แม่ลิงเองก็เล่าถึงเหตุการณ์ประทับใจหลาย ๆ อย่างจากพวกแม่ ๆ อะไรของเขา เราเห็นแม่ลูกเค๊าคุยกัน 2 คนกระนุ๊งกระนิ๊ง เราก็ดีใจ ถึงแม้ว่าเราจะไม่ค่อยรู้เรื่องว่าเขาคุยกันเรื่องอะไร ก็เป็นอีกหนึ่ง weekend activity ที่มีความสุข ถึงแม้จะขับรถไกล Wollongong - Newcastle; 3 hr ก็เถอะ 3 hr สำหรับ เราเฉย ๆ ขับสบาย ขับแป๊บเดียว บันทึกเอาไว้เป็นความทรงจำตอนที่เขายังเด็ก ๆ เดี๋ยวพอเขาโตขึ้น daddy ก็จะอ่าน blog พวกนี้ให้เขาฟัง (เป็นภาษาอังกฤษ) ผลสอบ HSC ของลูกลิงตัวโตที่เป็นที่น่าพอใจมาก... ถึงมากที่สุด
ได้ band 6 ถึง 4 วิชาจากทั้งหมด 6 วิชา Daddy กับ Mommy ไม่สามารถ take credit อะไรใด ๆ จากความสำเร็จของลูกลิงในครั้งนี้ได้ เพราะลูกลิงบริหารและจัดการการอ่าน การเรียน การเตรียมตัวสอบของลูกลิงเอง ลูกลิงไม่มี private tutor (ไม่จำเป็น) ลูกลิงจะพากันไปติว ไปนั่งอ่านหนังสือกับเพื่อน ๆ หลังเลิกเรียนทุก ๆ วันอังคารที่ห้องสมุด เราก็มีหน้าที่ขับรถไปรับลูกลิงทุก ๆ วันอังคาร 5pm ที่ห้องสมุดในเมือง บางทีก็ช่วยส่งเพื่อนของลูกลิงด้วย หรือบางทีลูกลิงให้พ่อของเพื่อนมาส่ง สลับกันไป ลูกลิงจัดสรรค์เวลาของเขาเอง ลูกลิงเรียนอยู่ top class จึงมีเพื่อน ๆ ที่ดี ช่วยกันดัน ช่วยกันแข่งขันแบบ friendly friendly ไม่ได้แข่งขันว่า "ฉันต้องได้ที่ 1 ของวิชานั้น ๆ ตลอด" แต่ลูกลิงก็ได้ที่ 1 แทบทุกวิชา บางเทอมก็สลับกันกับเพื่อนสนิทเค๊า เราก็ว่าดีออก มันเป็นอะไรที่ friendly compettition ลูกลิงเกิดที่นี่ ใช้ชีวิตที่นี่ ก็มีเพื่อนเป็นฝรั่ง ซึ่งเป็นเรื่องปรกติ เพื่อนในกลุ่มของลูกลิงน่ารักทุกคน เพราะเป็นเด็กเรียน ดังนั้นเวลาที่ลูกลิงขออนุญาตเราไปไหนมาไหนกับเพื่อน ๆ ของเขา เราก็อุ่นใจเสมอว่าพวกเขาจะไม่ไปทำอะไรนอกลู่นอกทาง สำหรับคนที่เป็นพ่อเป็นแม่ มันก็อุ่นใจ สบายใจดีนะ การที่เขาได้เรียนอยู่ใน top class อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดีนั้นสำคัญมาก ที่ออสเตรเลียก็มี top class, bottom class นะครับ เราเป็นอาจารย์ เรารู้ดี ออสเตรเลียก็มีปัญหาทางด้านการศึกษาเยอะ ต้องคนที่ทำงานหรือคลุกคลีอยู่กับวงการการศึกษาถึงจะรู้ กรุณาอย่ามโนว่าประเทศออสเตรเลียต้องดีไปหมดซะทุกอย่าง ถ้าใครได้เห็นนักเรียน bottom class แล้วหละก็ เขาจะรู้ว่า "นรกบนดิน" นั้นมีจริง!!! อาจารย์ที่จบใหม่ ๆ ลาออกกันเยอะแยะ เพราะความเครียดและรับมือกับเด็ก bottom class ไม่ได้ ที่ NSW; Department of Education หรือกระทรวงศึกษาธิการของ NSW เราถึงต้องมี "Stress Leave" สำหรับครูอาจารย์ในโรงเรียน!!! ในฐานะที่เราเองก็เป็นอาจารย์ด้วย เราก็เลยอุ่นใจที่ลูกลิงได้เรียน top class ได้อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดีและมีกลุ่มเพื่อน ๆ ที่ดี ที่ช่วยกันเรียน ผลสอบ HSC ของลูกลิง 20 Jan 2022 เป็นที่น่าพึงพอใจมากถึงมาที่สุด ลูกลิงได้ band 6 ถึง 4 วิชา จากทั้งหมด 6 วิชา band 6 คือคะแนน 90% ขึ้นไป ลูกลิงติด ติด list ของ "Distinguished Achiever HSC" ของ NSW ด้วย จาก top band ที่ได้ 4 วิชา เพราะคนอื่นถ้าได้ band 6, เขาก็อาจจะได้แค่ 1-2 ตัวอะไรประมาณนี้ เราก็ต้องยก credit ให้กับลูกลิง เพราะเขาก็มุมานะของเขาจริง ๆ อ่านหนังสือ 7 วัน 7 คืน เริ่มเรียนจริงจังตั้งแต่ year 10 แล้ว year 10-11-12; มุมานะมา 3 ปี ผลก็ออกมาดี ครอบครัวอื่นอาจจะต้องบังคับให้ลูก ๆ เรียนหรือตั้งใจอ่านหนังสือ แต่ครอบครัวเราบอกให้ลูก "พักบ้าง" อย่าอ่านหนังสือดึก อย่าทำการบ้านดึก อะไรประมาณนี้ คือมันดีงามมากถึงมากที่สุด สรุปลูกลิงได้รับการตอบรับจากทั้ง 3 มหาลัยที่ลูกลิงเลือก: - UNSW - UOW (early entry) - UTS (early entry) มันก็เลยกลายเป็น "เราเลือกเขา" ไม่ใช่ "เขาเลือกเรา" คือมันอิ่มใจ สุขใจอย่างบอกไม่ถูก ที่เราเป็นฝ่ายเลือก ไม่ใช่เป็นฝ่าย "ถูกเลือก" ลูกลิงได้ band 6, 4 วิชา ก็เลยติด "Distinguished Achiever HSC" list ของ NSW ด้วย จาก 3 มหาลัยที่ลูกลิงสมัครไป ลูกลิงได้รับการตอบรับหมด สาขา Engineering ทั้งหมด ลูกลิงก็คงเลือกที่จะไปเรียนที่ UNSW จาก band 6 ที่ลูกลิงได้ และคะแนน ATAR (Australian Tertiary Admission Rank) ที่ลูกลิงได้ ทำให้ลูกลิงได้รับทุนเรียนฟรี 1st year ของ Engineering ที่ UNSW ด้วย ทุนที่ได้รับคือ UNSW Academic Achievement Awards Scholarship ก็ทุนการศึกษาสำหรับนักเรียนที่มีผลการเรียน ก็ปลื้มปริ่มกันไปอีก ที่เหลือเราก็คงต้องมาดูกันว่าลูกลิงจะลงทะเบียนวิขาอะไรบ้าง ถ้าลูกลิงสามารถเลือกลงวิชาที่ตารางเรียนออกมาไม่กระจายกันมาก ไปเรียนแค่ 3-4 วันอะไรประมาณนี้ การเดินทางจาก Wollongong ไป UNSW ก็น่าจะง่าย แต่ daddy ก็คงไม่ปล่อยให้ลูกลิงนั่งรถไฟจาก Wollongong ไป UNSW เอาจริง ๆ นะ เราก็กลัวลูกเราเหนื่อย กลัวมีผลกระทบกับการเรียน เราก็อาจจะขับรถรับส่ง Wollongong-Sutherlands แล้วให้ลูกลิงนั่งรถไฟจาก Sutherlands เข้าไปในเมือง เพราะ Sutherlands จะมีรถไฟทุก ๆ 5-10 นาที จะได้ไม่มีปัญหาในเรื่องของการเดินทาง In the long run, เราก็คงต้องหาเช่าบ้าน เช่า apartment ให้ลูกลิง ก็กะจะเช่าแถว ๆ Sutherlands นี่แหละ ถ้าในเมืองก็คงจะแพงเกิน และ Sutherlands ก็ไม่ไกลจาก Wollongong เวลาลูกลิงกลับบ้านหรือเวลาเรามารับ-ส่ง ก็น่าจะง่าย Anyway... นี่ก็แค่ plan เพราะต้องดูตารางเรียนของลูกลิงด้วย แต่แค่ plan ก็มีความสุขแล้ว เราเห็นลูกได้เรียนในสิ่งที่เขาอยากจะเรียน ในสถาบันที่เขาอยากจะเรียน ที่เขียนมาทั้งหมด ก็แค่อยากจะบันทึกเอาไว้เป็นความทรงจำของครอบครัวเรา แก่ตัวมาเราก็จะคงกลับมาอ่าน blog พวกนี้ต่าง ๆ นานา Dec 2021 ลูกลิงตัวโตสอบ HSC เสร็จแล้ว จบ year 12 แล้ว รอเข้ามหาลัย
ณ วันที่แดดร่มลมตก ลูกลิงนั่ง ๆ นอน ๆ อยู่บนโซฟาก็ดู YouTube หรือ Netflex เขาก็บอกแม่ของเขาว่า เขาสอบ HSC เสร็จแล้ว และตอนนี้เขาคบกับคน ๆ หนึ่งอยู่นะ เขาบอกว่าเขารอให้สอบ HSC เสร็จก่อนแล้วค่อยบอกพ่อกับแม่ "หน้าที่มาก่อนสิทธิ" ดีมากครับเลยลูก หนูก็ทำหน้าที่ของหนูในเรื่องของการเรียนก่อน เรื่องความรัก ๆ ใคร่ ๆ อะไรเอาไว้ทีหลัง แต่จริง ๆ แล้วพ่อกับแม่ก็รู้แล้วหละ แค่ไม่ต้องการคาดคั้นอะไร ถึงเวลาที่เขาอยากจะบอกเขาจะบอกเราเอง เพราะลูกลิงก็ดูเหมือนจะให้ความสนใจกับเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งเป็นพิเศษ เราเริ่มสังเกตมาตั้งแต่ year 9 แล้ว และเราก็เคยถามไปแล้วครั้งหนึ่งว่าลูกเป็นอะไรกัน ออกเดทกันหรือเปล่า ลูกลิงบอกว่าเปล่า เป็นแค่เพื่อนกัน และหลังจากนั้นเราก็ไม่เคยถามเรื่องนี้อีก แต่ก็สังเกตถึงความสนิทสนม เราก็เดาเอาว่าลูกชายเราคงไปจีบเขา แล้วเขาคงไม่เล่นด้วย ก็เลยคบกันแบบเป็นแค่เพื่อนกันเฉย ๆ หรือเปล่า เพราะเพื่อนผู้หญิงคนนี้ก็เป็นเด็ก top class เรียนเก่ง เป็นผู้หญิงคนเดียวที่เรียน Maths Extension I และเราก็เจอลูกลิงเดินด้วยกัน 2 คนเวลาเราไปรับหรือไปส่งช่วงเวลาที่ลูกลิงเรียน Maths Extension เพราะ Maths Extension ต้องเรียนหลังเลิกเรียน เพราะเป็นวิชาสำหรับเด็ก gifted ก็เลยต้องเรียนนอกตารางเรียน ถามว่าเราเลือกใหมถ้าลูกลิงจะคบใครซักคน บอกเลยว่า "เลือก" เพราะ เราเองก็เป็นเด็กห้อง 1 และถ้าเราจะคบใครซักคน ก็คงต้องอยู่ห้อง 1 หรือ top class เหมือนกัน ไม่งั้นก็คุยกันลำบาก คุยกันคนละภาษา ถ้าลูกเราจะคบใครซักคน ก็ขอละกัน ให้มี IQ นิดหนึง หาพื้นที่สามเหลี่ยมได้ป๊ะ จำสูตรพื้นที่ของวงกลมได้มั้ย daddy เรื่องเยอะหรือเปล่าเราไม่รู้ รู้แค่ว่าเป็นคนดีอย่างเดียวไม่พอหรอก ต้องฉลาดด้วย daddy เป็นอาจารย์สอนวิชาคอมพิวเตอร์และคณิตศาสตร์ ถ้าคนที่ลูกลิงคบด้วยเรียนดีอยู่ในระดับหนึ่งมันก็ง่าย งั้นเราคุยภาษาเดียวกัน จริง ๆ แล้วเราก็สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของลูกลิงตั้งแต่ year 9 แล้วแหละ ที่ไป excursion ที่ NT 15 วัน เพราะลูกลิงซื้อของฝากมาฝากเพื่อน และขอไปเจอเพื่อนที่ shopping mall ปรกติลูกเรา 2 คนจะไม่ไปเดินที่ shopping mall เลิกเรียนต้องกลับบ้าน อ่านหนังสือ ทำการบ้าน หรือทำพวก after school activity ไม่ใช่ไปเดินเล่นที่ shopping mall |
บันทึกเรื่องราวต่าง ๆ ของคุณพ่อลูก 2 Archives
April 2023
|