TV ที่บ้านเราก่อนหน้านี้ก็เป็นแค่ flatscreen TV ธรรมดา ไม่ใช่ Smart TV หรือว่าอะไร เพราะปรกติแล้วเรากับภรรยาเป็นคนไม่ชอบดู TV เพราะเราทั้ง 2 คนมีพื้นฐานเป็นเด็ก IT ดังนั้นเราจะใช้เวลาอยู่กับคอมพิวเตอร์มากกว่าการดู TV
ส่วนตัวเราเองก็ทำงาน เวลาว่างก็ออกกำลังกายและก็อ่านหนังสือ เราคิดว่าการดู TV เป็นอะไรที่ไม่ได้ก่อเกิดประโยชน์อะไรมาก มันก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งของ entertainment ซึ่งเราสามารถหา entertainment ได้ในหลายรูปแบบนอกเหนือจากการดู TV TV จริง ๆ แล้วเรามีเอาไว้ให้ลูกลิง 2 ตัวมากกว่า เพราะที่บ้านเราจะไม่มีพวกเกมส์ console ก็จะมี choice ให้ลูก ๆ เลือกระหว่างหนังสือกับ TV แค่นั้นเอง เราก็เลย manage ลูกได้ง่ายหน่อย ตามสไตล์คนเป็นอาจารย์ มันก็เลยไม่ค่อยมีปัญหา เมื่อเดือนที่แล้ว TV ที่บ้านเราเริ่มมีปัญหา หน้าจอไม่ค่อยชัด สีไม่ค่อยชัด สำหรับเรา เราก็ไม่ค่อยได้สนใจอยู่แล้ว เพราะเราไม่ค่อยได้ดู TV แต่เราทนเห็นลูก ๆ บ่นไม่ได้ ก็เลยตัดสินใจไปซื้อเครื่องใหม่มาให้ คราวนี้ก็เลยซื้อเป็น Smart TV ซะเลย มันจะได้จบ ๆ ไป เราซื้อยี่ห้อ Hisens เป็นยี่ห้อมาจากจีน ราคาถูก เพราะคงอยากจะเริ่มตีตลาดในต่างประเทศ เราจะสังเกตุได้ว่าโรงแรมหรือที่พักหลาย ๆ ที่ตอนนี้ก็ใช้ TV ยี่ห้อนี้กัน เราคิดว่ามันก็ไม่น่าจะเลวร้ายอะไรมาก เราก็เลยตัดสินใจซื้อยี่ห้อนี้ เราไปซื้อกันที่ The Good Guys 32 นิ้ว ราคา $369 แต่เราคิดค่าพนักงานขายรู้สึกจะลดให้อีกนะ เพราะคนขายมีลูกสาวที่ไปโรงเรียน dance โรงเรียนเดียวกันกับลูกลิงตัวเล็กของเรา คนขายรู้จักกันกับภรรยาของเรา ก็เลยได้ราคาพิเศษ เราจำไม่ได้ว่าราคาเท่าไหร่ แต่เราก็คิดว่า $369 ก็ถือว่าถูกแล้ว ถ้าเปรียบเทียบกับยี่ห้ออื่น ๆ สำหรับเราแล้ว เราคิดว่าอะไร ยังไงก็ได้ ไม่ต้องแพงมาก เพราะเราไม่ได้เล็งเห็นประโยชน์อะไรของ TV เลยจริง ๆ เราคิดว่าการดู TV เป็นการบริหารเวลาที่ไม่ค่อยคุ้มค่าเท่าไหร่ แต่บางทีมันก็ต้องซื้อเพราะที่บ้านมีลูกลิงที่เขายังดู TV กันอยู่ เราก็ต้อง compromise ด้วยในจุดนี้ เราซื้อ Smart TV มา แต่ก็มีข้อแม้กับลูกลิงว่า: 1. ลูกลิงตัวโตต้องเป็นคน setup เองทุกอย่าง เพราะเราไม่มีเวลาอะไรจุกจิกกับเรื่องแบบนี้ เราบอกลูกลิงว่า เราจะซื้อมา แล้วก็จะวางไว้ตรง living room ถ้าเขาอยากจะดูและได้ TV ใหม่ หลังเลิกเรียนเขาก็ต้องหาเวลา setup TV เอง 2. ลูกลิงจะต้องเอา TV ตัวเดิม ซึ่งมันก็ยังใช้งานได้อยู่ ออกไปวางไว้ข้างนอก ที่หน้าบ้านเพื่อให้คนอื่นนำเอาไปใช้ต่อ "เก่าเรา อาจจะใหม่สำหรับเขา" ก็เป็นได้ ซึ่งลูกลิงก็ตกลงตามเงื่อนไขข้างบน เลิกโรงเรียนมาตอนเย็น ลูกลิงก็รีบ setup Smart TV เลยทันที ด้วยความตื่นเต้น เหมือนได้ของเล่นชิ้นใหม่ ลูกลิงต่อ WiFi เอง, setup เข้า YouTube เอง อะไรเอง และลูกลิงก็เอาเครื่องเก่าออกไปวางไว้หน้าบ้าน (หลังจากเช็ดและทำความสะอาดแล้ว) ซึ่งก็มีคนมายกเอาไปภายในวันนั้นเลย สรุปลูกลิงใช้ Smart TV เป็น เราใช้ไม่เป็น (เราเป็นอาจารย์สอน IT ใช่มั้ย) แต่ก่อนที่ลูกลิงจะไปสิงคโปร์ เราก็บอกลูกลิงให้โชว์เราก่อนว่าใช้อะไร ยังไง ต่อเข้ากับ YouTube ทำแบบไหน อะไรต่าง ๆ นานา ลูกลิงเริ่มโตแล้ว เป็น young adult แล้ว เริ่มทำโน่น ทำนี่ได้เอง เราก็เริ่มสบาย เราไม่ต้องไปวุ่นวายอะไรกับเขามาก แค่ manage และดูอยู่ห่าง ๆ ก็พอ นี่แหละชีวิตของคนเป็นพ่อ ลูกลิงตัวโต ปีนี้เขาก็มีออกไปข้างนอกบ้าง กับเพื่อน ๆ ของเขา เพราะปีนี้ลูกลิงตัวโตก็อยู่ year 9 แล้ว ส่วนมากเราจะไปดูหนังกับเพื่อน ๆ ของเขา แต่ก็ไม่ได้บ่อยอะไร ปีนี้ไม่น่าจะถึง 5 ครั้งด้วยซ้ำ
แรก ๆ แม่เขาก็จะเป็นห่วงนิดหนึง เราก็เป็นห่วงเหมือนกันแต่ก็ไม่มาก แรก ๆ เราก็จะถามว่าไปกับใครบ้าง ไปกันกี่คน แต่ละคนชื่ออะไร เพราะบางทีเวลาลูกลิงมาขออนุญาตเราไปดูหนัง เขาจะเป็นอะไรที่คลุมเครือมาก คือเขาจะบอกแค่ว่า จะไปดูหนังกับ "เพื่อน" แค่นี้จริง ๆ ข้อมูลที่เขาให้เรามา เราก็ต้องถามว่า ไอ้คำว่า "เพื่อน" เนี๊ยะ มันกี่คนกันแน่ แต่ละคนชื่ออะไร เพราะลูกลิงก็มีทั้งเพื่อนจาก high school และเพื่อนที่เรียนศิลปะหลังเลิกเรียนด้วย นั่นแหละ คือเราต้องถามเขา เราถึงจะได้ข้อมูล แล้วเราจะบอกว่าให้ไปหรือไม่ให้ไป แต่ก็ให้ไปทุกทีนะ แรก ๆ แม่เขาก็จะไปส่งที่โรงหนัง แต่ให้กลับเอง หลัง ๆ พวกเราก็ปล่อยให้ลูกไปเอง นั่งรถบัสฟรีหน้าบ้าน ไปลงหน้าโรงหนัง แต่เราก็ต้องบอกลูกว่าต้องถึงบ้านกี่โมง มีอยู่ครั้งหนึ่ง เราบอกลูกลิงว่า ต้องถึงบ้าน 4:30pm แต่เขาก็ดันกลับถึงบ้านสาย เพราะเหตุผลเรื่องรถบัสมาไม่เป็นเวลา ร้อยแปดพันเก้าของเขา เราก็เตือนไปแล้วว่า ถ้าเราบอกว่าต้องถึงบ้าน 4:30pm แสดงว่า you ก็ต้อง reverse engineer เอาเองว่าต้องขึ้นรถบัสกี่โมง และรถบัสมันก็เป็น public transport มันก็ต้องเผื่อเหลือเผื่อขาดด้วย นั่นก็เป็นหนึ่งบทเรียนที่ลูกลิงจะต้องเรียนรู้ ถ้าเขาอยากให้เราอนุญาตออกไปข้างนอกกับเพื่อนอีก หลังจากเหตุการณ์เรื่องไปงานวันเกิดของเพื่อนผ่านลุล่วงไปได้ ลูกลิงก็จะขอไปข้างบอกกับเพื่อนบ่อยขึ้น แต่ไม่ใช่งานกลางคืน จะเป็นไปที่ beach หน้าบ้านหลังเลิกเรียน huhhhhh อะไรนะลูก beach หน้าบ้านเนี๊ยะ เราไปกันจะร้อยรอบ พันรอบแล้วมั้ง ทะเลเหรอ มองจากหน้าบ้านเราก็เห็นแล้ว แต่ลูกลิงก็บอกว่าพอดีเพื่อนเขาเรียนวิชาถ่ายรูป จะต้องไปเก็บรูปภาพทำการบ้าน เขาอยากออกไปเล่นกับเพื่อน ๆ ด้วย hmmm... ข้ออ้างเริ่มเยอะนะเนี๊ยะ แต่เราก็ให้ลูกลิงไปแหละ เพราะมันก็อยู่แค่หน้าบ้านเราเอง แต่ก็กำหนดเวลาให้ลูกลิงกับมาก่อน dinner time ที่บ้านเราทานข้าวเร็ว ประมาณ 6pm เราก็ทาน dinner แล้ว ดังนั้นลูกลิงต้องกลับถึงบ้านไม่เกิน 5:30pm อะไรประมาณเนี๊ยะ การให้ลูกลิงออกไปข้างนอก เราเป็นอาจารย์ ทุกอย่างต้องมีกฎเกณฑ์ สามารถจับต้องได้ อย่างเช่นกลับบ้านไม่เกิน 5:30pm ดีกว่าบอกว่า กลับถึงบ้านตอนเย็น ๆ ค่ำ ๆ เพราะคำนิยามของเย็น ๆ ค่ำ ๆ ของเรากับลูกอาจจะไม่เหมือนกันก็ได้ |
บันทึกเรื่องราวต่าง ๆ ของคุณพ่อลูก 2 Archives
October 2023
|