ช่วง school holidays ที่ผ่านมา ครอบเราพากันไปเที่ยว Nelson Bay; 4 วัน
เราเคยไปเที่ยว Newcastle นานแล้ว ประมาณ 10 กว่าปีที่แล้ว นอกนั้นก็แค่ขับผ่านเฉย ๆ ปิดเทอมของ NSW ที่ผ่านมาพวกเราก็เลยพากันไปเที่ยวที่ Nelson Bay เพราะปรกติ July ของทุก ๆ ปีพวกเราจะ busy พาตัวเล็กตะลอนแข่ง dance กัน ปีนี้เจอ Covid ก็เลยยกเลิกการแข่งขัน dance ช่วง July ไป ปีนี้พวกเราก็เลยมีโอกาสเที่ยว 4 วันที่ Nelson Bay เราบอกลูก ๆ ว่าจะเป็นอะไรที่ unrush คือไปเรื่อย ๆ ขับเล่นไปเล่นที่นั่นบ้าง นั่งทานอะไรที่นี่บ้าง ก็แค่นั้นเอง จะไม่มีการเร่งรีบเป็นอันขาด ลูกลิงตัวโตเป็นคนชอบถ่ายรูป และชอบทำอะไรใน Photoshop ถ้าเขามีเวลา แถว ๆ Nelson Bay บนถนนแคบ ๆ ริมชายฝั่ง เราก็ขับรถเล่นกันเอื่ย ๆ daddy ก็มีหน้าที่ขับไป อาจจะไม่ได้ดูข้างทางอะไรมาก ลูกลิงก็บอกว่าเห็นอะไรสักอย่างที่เขาอยากจะถ่ายรูป daddy ก็ไม่ได้ตั้งใจฟัง เพราะเราก็มัวขับรถ และก็ขับไปเรื่อย ๆ ลูกลิงบอกว่าอยากจะถ่ายรูป OK ได้เลย daddy ก็ต้องขับไปอีกประมาณ 1 km เพื่อเลี้ยวรถกลับมาให้เค๊าได้ถ่ายรูปกัน ที่ต้องขับไปไกลขนาดนั้นเพื่อเลี้ยวรถก็เพราะว่าถนนมันแคบมากจริง ๆ หลังจากที่เลี้ยวรถกลับมาให้เขาได้ถ่ายรูปกัน เขาก็ happy กระดี๊ะกระด๊านะ แต่เราก็รออยู่ในรถ daddy ไม่ใช่คนอารมณ์ศิลปินอะไรขนาดนั้น บางทีกับการกระทำเล็ก ๆ น้อย ๆ แค่เลี้ยวรถกลับมาให้ลูกได้ถ่ายรูป ได้ทำในสิ่งที่เขารัก แค่นี้เอง ก็ make his day แล้วหละ อย่าลืมทำอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้กับคนรอบข้างด้วยนะครับ มันอาจจะไม่ได้เป็นอะไรที่ใหญ่โตมาก แต่มันอาจจะทำให้ใครหัวใจพองโตได้ ตั้งแต่เราสูญเสียหลานชายเราไป
บอกได้เลยว่า ทุก ๆ วันหัวใจเราบอบช้ำมาก คนที่ยังอยู่ คนที่ยังเหลือ ก็ต้องดูแลกันไป กับลูกเราทั้ง 2 คน ปรกติเราจะไม่ค่อยอะไรมากมายกับพวกเขามาก เพราะเขาก็มีแม่เขาคอยดูแลอยู่แล้ว เราก็เน้นทำงานมากกว่า ถึงแม้ว่าเราจะมีเวลาให้ซึ่งกันและกันช่วงเสาร์ อาทิตย์ บางทีเราก็ติด นั่น นี่ โน่น หรือไปไหนมาไหนด้วยกัน ก็ไปกันตามปรกติ ตามประสาครอบครัว เป็นครอบครัวปรกติ ไม่ได้อะไรมากมาย ความรักความห่วงใย มันมีให้กันแหละ ถึงแม้เราไม่พูด ไม่ได้ปฏิบัติออกมาเป็นรูปธรรมมาก ความรู้สึกมันก็สัมผัสได้ ตั้งแต่เราสูญเสียหลานชายเราไป เราแสดงถึงความรักต่อลูกเรามากขึ้น แสดงออกอะไรที่เขาสามารถสัมผัสได้ โดยเฉพาะลูกชายคนโต ช่วงนี้เขาเรียนหนัก เราก็เดินเข้าไปที่ห้องเขาบ่อย ๆ ถามไถ่ว่าหนูอ่านวิชาอะไรอยู่ ทำการบ้านวิชาไหน เอาลูบหัวเบา ๆ ให้เขารู้ว่าเรารักและห่วงใย คนโตก็แตกต่างจากคนเล็กหน่อย เพราะคนเล็กเป็นผู้หญิงและยังเด็กอยู่ ชอบ dance ชอบสนุก เป็นคนช่างพูด ลูกผู้หญิง เราก็ kiss ที่ผมที่หัวอะไรได้ แต่ถ้าลูกชายก็ลูบผมเขาเบา ๆ ลูบหัวเขาเบา ๆ หรือบางทีก็เอาลูบหลังเขาเวลาเขานั่งอ่านหนังสือ การแสดงเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ ลูกสามารถสัมผัสได้ถึงความรักที่เรามีต่อเขา ทุก ๆ วันเราแสดงถึงความรักต่อลูก ๆ อยู่เรื่อย ๆ เพราะเราไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นวันไหน ก็เพราะชีวิตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน สำหรับคุณพ่อคุณแม่ อย่าคิดว่าเราต้องแสดงออกถึงความรักเฉพาะตอนที่เขายังเด็ก ๆ อยู่เท่านั้น ตอนลูก ๆ โตแล้ว เราก็ยังสามารถแสดงออกถึงความรักและความใยที่เรามีต่อเขาได้ แสดงให้เป็นรูปธรรมไปเลย อย่าเหมาหรือคิดเอาว่าลูกก็คงรู้แหละ บางทีถ้าเราบอกหรือแสดงออก มันก็ทำให้อีกฝ่ายหัวใจพองโตได้ กับคำพูดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่บางทีลูกก็ไม่เข้าใจหรอกว่า daddy พูดว่าอะไร เพราะบางที daddy ก็พูดภาษาไทย เด็ก ๆ ไม่เข้าใจ แต่ก็น่าจะสัมผัสรับรู้ถึงน้ำเสียงที่อ่อนโยนและเปลี่ยนไปของ daddy ได้ บางทีเราก็พูดเป็นภาษาไทยว่า "อะไรนะลูก" "อะไรเหรอลูก" ด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน บางทีมันก็เป็นการ make conversion แบบง่าย ๆ เพราะบางทีเราพูดภาษาไทยกับพวกเขา เขาก็พูดเลียนแบบกลับมา เพราะพวกเขาไม่เข้าใจและไม่รู้ว่ามันหมายถึงอะไร ลูกเราพูดภาษาไทยไม่ได้จ๊ะ :) และก็ไม่เคยคิดจะสอน ถ้าเขาอยากจะเรียนรู้ก็ให้เขาไปเรียนรู้และขวนขวายเอง เราไม่ต้องการที่จะไปบังคับใครให้เป็นแบบไหน กับชีวิตที่มันไม่มีอะไรแน่นอนเลย อย่าลืมบอกรักกันทุกวัน กอดกันไว้ให้แน่น ๆ เราไม่รู้หรอกว่าพรุ่งนี้ ชีวิตเราจะเป็นแบบไหน Don't take it for granted. ที่ NSW ปิดเทอม 2 อาทิตย์
อาทิตย์ที่แล้วกับอาทิตย์นี้ ลูกลิงตัวเล็ก ไม่ได้ทำอะไรมาก ก็มี dance photo shoot บ้างเล็กน้อย และก็ไปเล่นบ้านเพื่อนช่วง weekend แค่นั้นเอง แต่ลูกลิงตัวโตสิ เจ๋งกว่า ลูกลิงบอก daddy ว่าเขาจะ study ช่วงปิดเทอม huh... อะไรนะลูก เอาใหม่สิ... เขาบอกว่าจะเตรียมตัวเรียนพวก topics ต่าง ๆ ของเทอมหน้าไว้เลย ของวิชา Physics, Advanced Maths และ Maths Extension เฮ้ย หนูไม่ได้โกหก daddy ใช่มั้ย ไม่ได้หลอก daddy ให้ดีใจใช่มั้ย เราก็เลยแกล้งภามว่า แล้ว you จะเรียนยังไง จะทำเป็น self-study อะไรแบบนี้เหรอ เขาบอกว่าใช่ เขารู้อยู่แล้วว่าเทอมหน้าจะเรียน topics อะไรบ้าง เพราะมันอยู่ใน booklet; study guide แล้ว เดี๋ยวเขาก็จะ search ใน YouTube และ Internet ก็อ่านและ take note ของเขาเอง เราก็แอบดีใจหนะนะที่ลูกเราคิดได้แบบนั้นของเขาเอง เราไม่ได้บังคับหรือชี้แนะอะไร เพราะปรกติเราก็เห็นเขาตั้งใจเรียนอยู่แล้ว หรือเขาอาจจะอยากรักษาตำแหน่งที่ 1 ของเขาหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่เราก็ไม่กดดันลูก เอาที่ลูกสบายใจ บางทีการที่เราปล่อยให้เขาเลือก ให้เขาทำในสิ่งที่เขาชอบ เขาก็จะขวนขวายหาความรู้ของเขาเอง คนเป็นพ่อเป็นแม่ก็ชื่นใจนะ เราก็ได้แต่คอย support เขา 1 week ที่ผ่านมาและช่วง weekend เขาก็ทำให้เราเห็นว่า เขาก็ทำแบบนั้นจริง ๆ เพราะเวลาส่วนใหญ่เขาก็นั่งอ่านหนังสืออะไรของเขา หรือไม่ก็หาข้อมูลอะไรของเขาอยู่หน้า laptop ที่บ้านเราจะเป็น open door policy คือทุกห้องต้องเปิดประตูตลอด ใครจะทำอะไรในนั้นก็ตาม เราต้องสามารถมองเห็นได้ว่าลูกลิงทำอะไรอยู่ และหน้าจอ computer ต้องหันไปทางประตู เราต้องสามารถมองเห็นหน้าจอ computer ของเขาด้วย ไม่มีอะไรปิดบัง จะปิดประตูก็ต่อเมื่อเฉพาะเวลาเข้านอนเท่านั้น เท่าที่เราสังเกต ก็ OK นะ ลูกลิงก็ตั้งใจเรียนอยู่ในระดับหนึ่ง ไม่ได้เคร่งเครียดมาก เพราะเป็นช่วงปิดเทอม เราก็คิดว่า แค่ลูกเราทำได้แค่นี้ก็ดีแล้ว ปิดเทอมดีกว่าเอาเวลาไปเตร็ดเตร่ หรือว่า he จะเริ่มโตเป็นผู้ใหญ่ มีความคิดความอ่าน ความรับผิดชอบแล้วจริง ๆ ... |
บันทึกเรื่องราวต่าง ๆ ของคุณพ่อลูก 2 Archives
October 2023
|