ช่วง summer โรงเรียนที่ประเทศออสเตรเลียปิดเทอมใหญ่
ทุก ๆ 2 ปีครอบครัวก็ต้องไปเยี่ยมญาติลและครอบครัว ทั้งฝั่งของสิงคโปร์และก็ฝั่งของเมืองไทยด้วย แต่ก่อนพวกเราไปกันทุก ๆ ปี หลัง ๆ มาเราก็รู้สึกเบื่อ แทนที่จะกลับเมืองไทยหรือสิงคโปร์ เราก็ขอเลือกไปเที่ยวที่อื่นดีกว่า หลัง ๆ มาพวกเราก็เลยเลือกที่จะไปกลับไปเยี่ยมครอบครัวทั้ง 2 ฝ่าย ทุก ๆ 2 ปี ในปีที่พวกเราไม่กลับสิงคโปร์ ครอบครัวที่สิงคโปร์ก็เดินทางมาที่ประเทศออสเตรเลียแทน เพราะพวกเขาเดินทางกันง่ายอยู่แล้ว ขอวีซ่าง่าย ลูกลิงทั้ง 2 เป็นหลานแค่ 2 คนในตระกูลของครอบครัวที่สิงคโปร์ เพราะครอบครัวอื่น ๆ เขาไม่มีลูกกัน ดังนั้นลูกลิงจะถูกดูแล เอาอกเอาใจจากครอบครัวฝั่งของสิงคโปร์เสมอมา สิ่งของเครื่องเล่น เสื้อผ้าของใช้ เราแทบไม่ต้องทำอะไร เพราะยายและน้าทั้ง 2 จะซื้อให้อยู่ตลอดเวลา ลูกลิงชอบสิงคโปร์มากกว่าเมืองไทย เพราะทุกคนที่บ้านพูดภาษาอังกฤษ และเวลาออกไปไหนมาไหนข้างนอก คนที่สิงคโปร์ก็พูดภาษาอังกฤษได้ เพราะภาษาอังกฤษคือภาษาทางราชการของประเทศสิงคโปร์ ไม่ใช่ภาษาจีน ไม่ใช่ภาษามาเลย์ หรือภาษาอินเดีย ดังนั้นการดำเนินชีวิตของลูกลิงทั้ง 2 ที่สิงคโปร์ก็จะง่ายและสะดวกกว่าการกลับไปเมืองไทย เพราะลูกลิงทั้ง 2 พูดภาษาไทยไม่ได้ (เดี๋ยวคงต้องได้เขียน blog ในเรื่องนี้ด้วย) ลูกลิงกับแม่ของเขาพากันไปที่สิงคโปร์ก่อนแล้ว ตั้งแต่ก่อนปิดเทอมด้วยซ้ำ ช่วงนี้ daddy ก็อยู่ที่บ้านคนเดียว เพื่อที่จะได้ทำงานเงียบ ๆ ทำงานที่บ้านบ้าง เข้าไปเจอลูกค้าที่ office บ้าง เพราะช่วง Christmas และปีใหม่เราไม่ได้หยุดทำการ เราก็ยังทำงานตามปรกติ ลูกลิงชอบสิงคโปร์เพราะว่าของกินเยอะ อาหารราคาถูก ถูกว่าที่ออสเตรเลียมาก และค่าเงินของสิงคโปร์ก็เท่า ๆ กับของออสเตรเลีย ที่สิงคโปร์การเดินทางสะดวกสบาย หรือจะข้ามไปฝั่งมาเลเซียก็ไปง่าย ขับรถข้ามไปก็ได้ หรือจะนั่งรถบัสข้ามไปก็ได้ ดังนั้นจึงไม่แปลกที่บางทีลูกลิงและครอบครัวที่สิงคโปร์พากันข้ามไปทานข้าวที่ประเทศมาเลยเซียด้วย ใช่จ๊ะข้ามประเทศไปทานข้าวกันเลย ไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับคนที่ประเทศสิงคโปร์ สมัยตอนที่เราอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์มาก่อน เราก็เคยพักอยู่ใกล้ ๆ แม่น้ำที่กั้นระหว่าง 2 ประเทศ จากห้องนอนเรา มองไปเห็นประเทศมาเลเซีย เราก็เคยพักแบบนั้นมาแล้ว ช่วงนี้ลูกลิงก็ไปลั๊ลล่ากันไปก่อน คนทำงานหาเงินก็ทำหน้าที่ของตัวเองไป ทุกคนมีหน้ที่ความรับผิดชอบที่แตกต่าง ทุกคนก็ต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้เต็มที่ ตอนนี้ลูกลิงยังเด็ก เราปล่อยให้พวกเขาสนุกไปก่อน แต่เราก็คอยระมัดระวังไม่ให้ลูกลิง take verything for granted เพราะการไปอยู่ที่สิงคโปร์นั้นชีวิตสบายเกินไป สะดวกเกินไป (สิงคโปร์เป็นประเทศที่ high tech มาก ก้าวหน้าไปหลาย ๆ ก้าวกว่าประเทศออสเตรเลียเยอะ เชื่อสิประเทศออสเตรเลียยังล้าหลังมากในเรื่องของเทคโนโลยี นี่คือพูดในฐานะของเด็ก IT; computer progammer เก่า) เราอยากให้ลูกลิงได้เจอความลำบากบ้าง เจอปัญหาก็ต้อง suck it up บ้าง สิ่งที่ลูกลิงต้องเรียนรู้ก็คือ มันยังมีหลาย ๆ ชีวิตที่เขาเดือดร้อน มันยังมีหลาย ๆ ชีวิตที่เขาไม่ได้เดินทางต่างประเทศ เดินทางต่างรัฐ เที่ยวกันแทบทุกปิดเทอมอย่างที่ลูกลิงเป็น เราก็พร่ำสอนเสมอ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเข้าไปในหัวลูกลิงได้สักกี่เปอร์เซ็นต์นะ แต่เราพูดบ่อย ๆ พร่ำสอนบ่อย ๆ เราก็ได้แต่หวังว่าลูกลิงจะซึมซับอะไรเหล่านี้เข้าไปบ้าง ไม่ take life for granted ไม่คิดว่าชีวิตนี้ได้อะไรมาง่าย ๆ แต่ตอนนี้เราปล่อยให้พวกเขาลั๊ลล๊ากันที่อยู่ประเทศสิงคโปร์ก่อน เราก็ทำงาน ทำหน้าที่ของเราไป ฟังแล้วดูดีน๊อ แต่มันก็คือความจริงจ๊ะ หัวหน้าครอบครัว... หน้าที่มันมาเป็น package พร้อมกับความรับผิดชอบ Comments are closed.
|
บันทึกเรื่องราวต่าง ๆ ของคุณพ่อลูก 2 Archives
January 2025
|