จอห์น เผ่าเพ็ง เพราะฉะนั้น
  • Blog; journal of life
  • Daddy Diary
  • Investment Diary
  • Business Tips and Tricks
  • ข้างขอบเตียง Cancer
  • ครูไทยในต่างแดน
  • ebooks
  • About
  • กราบขอบคุณ

Discretionary Trust

31/5/2020

 
ในวันที่เรายังเบี้ยน้อย หอยน้อย ทุกอย่างก็ต้องค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไป
ทุกอย่างต้องมีจุดเริ่มต้น
เราต้องหัดเดินก่อน ก่อนที่จะวิ่ง

property หลังแรกที่เราซื้อ เราซื้อเป็นชื่อเราคนเดียว เพื่อที่จะได้ขอ First Home Buyer grant เพื่อที่จะได้ไม่ต้องจ่ายค่า stamp duty fee (ที่ NSW, รัฐอื่นมิทราบ)

ตอนนั้นเราไม่ได้คิดอะไรมาก แค่มีบ้าน มี apartment เป็นของตัวเองหลังแรกโดยที่ไม่ต้องไปเดือดร้อนครอบครัวที่เมืองไทย หรือที่ไหนเราก็ภูมิใจแล้ว

หลังจากนั้นเราค่อยมาคิดเรื่อง investment property ทีหลัง
เราก็มี family trust หรือ discretionary trust มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว แต่ trust อันนั้นเราเอาไว้ทำธุรกิจอย่างอื่น พอตอนนี้เริ่มเข้ามาวางแผนทำเรื่อง investment property และก็วางแผนเรื่อง passive income และ semi-retire อย่างเป็นเรื่องเป็นราว เราก็เลย set up family trust ของเราขึ้นมาใหม่

accountant เราคิดไม่แพง; $1,500 ต่อ 1 discretionary trust
เราเป็นลูกค้าเขามาตั้งแต่ 2003 เขาก็เลยคิดไม่แพงหรือเปล่านะ

เพื่อให้ทุกอย่างง่ายต่อการ manage ดูและและจัดการ
บ้านหลังแรกที่เราซื้อเป็นชื่อเราคนเดียว บ้านชายโสด เราก็กำลังให้ทนาย transfer จากชื่อเราเข้ามาอยู่ใน trust

มันก็เหมือนการซื้อขายหนะแหละ
ประมาณว่าเราขายบ้านให้กับ trust ของเราเองนะ อะไรประมาณนี้

แน่นอนมันก็ต้องมี stamp duty เพราะว่าบ้านมีการเปลี่ยน owner เปลี่ยนจากชื่อเรา เป็น discretionary trust เออ สรุปก็ต้องจ่าย stamp duty อยู่ดี... no choice

ทนายของเราก็เริ่มดำเนินเรื่องแล้ว ตั้งแต่ week ที่แล้ว
ทุกอย่างเราปล่อยให้ทนายของเราจัดการ
ตอนนี้ก็ให้ valuer มาประเมินราคาบ้าน เพื่อที่จะทางรัฐบาลก็จะได้คำนวณค่า stamp duty ออกมาได้

valuer ก็โทรหาเราแล้วหละ เขาถามว่านี่แค่เปลี่ยน titile จากชื่อเธอ มาเป็น family trust ใช่มั้ย เราก็บอกไปว่าใช่ เพราะเขาจะได้ไม่ประเมินราคาให้มันสูงมาก เขาบอกจะเอาแค่ soft soft เพราะถ้าประเมินราคาสูงเกิน นอกจากเราต้องจ่าย stamp duty แล้ว เราจะต้องเสียภาษีในส่วนของ capital gain ด้วย เพราะถือว่าเราขายบ้านแล้วได้กำไร อย่างเช่นถ้าซื้อมา $250,000.00 แล้วขาย $280,000.00 ส่วนต่าง $30,000.00 หรือกำไรก็ต้องโดนภาษี capital gain หนะจ๊ะ เราก็ต้องพยายามเลี่ยงให้ได้มากที่สุด แต่ถ้าจะเสีย มันก็ต้องเสีย เพราะเราต้องการเอาทุกสิ่งอย่างเข้ามาใน family turst (discretionary trust) ให้หมด

ทีแรกทนายเราก็ถามว่าจะทำไปเพื่ออะไร เพื่อลดภาษีหรือเปล่า นั่น นี่ โน่น
เราบอกว่า ทำไปเพื่อเป็น asset protection
เราไม่ต้องการมีอะไรเป็นชื่อของเรา
ทรัพย์สินทุกอย่างจะอยู่ในรูปแบบของ trust หมด
เราบอกให้ทนายของเราจัดการให้หมด... at all cost (ฟังดูเหมือน Winston Churchill นะ)

เพื่อความปลอดภัย อนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอน
asset ทุกอย่างไม่ควรเป็นชื่อเรา

ใครอยากรู้เรื่อง asset protection ก็ลองหาหนังสือเกี่ยวกับ personal finace มาลองอ่านดูนะครับ แต่ถ้าจะให้ดี ปรึกษา accountant ส่วนตัวของเรา ถ้าเขาวาดรูปเรื่อง structure ของ trust ออกมาแล้ว เราจะถึงบ้างอ้อเลยทันทีแหละ มันไม่ได้ซับซ้อนอะไรมาก

ถ้า Kerry Packer, James Packer และ Robert Kiyosaki own nothing under their name. เราก็ไม่ควรที่จะ own anything under our name ด้วยเช่นเดียวกัน

Comments are closed.

    บันทึกชีวิตการลงทุน เล็ก ๆ น้อย ๆ เริ่มจากจุดเล็ก ๆ 

    Archives

    February 2023
    January 2023
    December 2022
    October 2022
    September 2022
    May 2022
    April 2022
    March 2022
    September 2021
    August 2021
    March 2021
    January 2021
    September 2020
    June 2020
    May 2020
    April 2020
    March 2020
    January 2020
    December 2019
    November 2019
    October 2019
    September 2019
    August 2019
    July 2019
    June 2019
    May 2019
    April 2019
    March 2019
    February 2019
    January 2019
    December 2018
    November 2018
    October 2018
    September 2018

    RSS Feed


  • Blog; journal of life
  • Daddy Diary
  • Investment Diary
  • Business Tips and Tricks
  • ข้างขอบเตียง Cancer
  • ครูไทยในต่างแดน
  • ebooks
  • About
  • กราบขอบคุณ