หลาย ๆ คนอาจจะงงว่าเอ๊ะ ทำไมช่วงนี้อาจารย์ post รูปอะไรเนี๊ยะ มีแต่ไปทานข้าว
เผอิญว่าช่วงนี้มหาวิทลัยเพิ่งจะเปิดเทอม ถ้าเราอยากจะเจอกลูกศิษย์เก่า เราก็ต้องนัดเจอพวกเขาช่วงนี้ ก่อนที่พวกเขาจะยุ่งและ busy ไม่มีเวลาเจอกันหลังจากนั้น ไม่ง่ายนะ ชีวิตของลูกศิษย์แต่ละคน ลูกศิษย์จากเมืองชนบท จากเมืองรอบนอก มาใช้ชีวิตอยู่ในเมืองใหญ่ อย่าง Wollongong หลาย ๆ คนอาจะจคิดว่าชีวิตของฝรั่งนั้นสวยหรู แต่พอเรามาได้เป็นอาจารย์ และยิ่งมาสอนโรงเรียนที่อยู่เมืองรอบนอกด้วยแล้ว มันทำให้เรารู้ว่า ชีวิตฝรั่งหลาย ๆ คน เขาก็ไม่ได้สบายกันเลย มันมีความเหลื่อมล้ำกันทางสังคมอยู่ เราใช้ชีวิตส่วนมาเติบโตมาในสังคมเมืองใหญ่ อย่าง Wollongong พอเราได้มาสัมผัสชีวิตของลูกศิษย์หลาย ๆ คน มันก็ทำให้เราเข้าใจสัจธรรมของชีวิตมากขึ้น เราคิดว่าเราเป็นอาจารย์แค่คนเดียวในโรงเรียนที่ยังติดต่อและ keep in touch กับลูกศิษย์เราหลาย ๆ คน ก็เฉพาะที่เราสนิท เพราะลูกศิษย์หลาย ๆ คน เรารู้จักทั้งคุณพ่อและคุณแม่ของเขา สอนพวกนี้มาตั้งแต่เด็ก ๆ ตอนนี้เข้ามหาวิทยาลัยกันแล้ว กับชีวิตลูกศิษย์บางคน เขาอาจจะไม่ได้มาจากครอบครัวที่สมบูรณ์นัก พ่อเป็นเกษตรกรเลี้ยงวัวเนื้อ แม่เป็นคนทำความสะอาดตามโรงแรม หรือบางคนพ่อก็เป็นภารโรง หรือทำงานงานในโรงฆ่าวสัตว์ เงินเดือนไม่เท่าไหร่เอง ก็มีเยอะแยะ ลูกศิษย์บางคน เขาบอกว่าเขาจะเป็นคนแรกของตระกูลที่จบปริญญาตรี ที่เรียนมหาวิทยาลัย สังคมเมืองรอบนอก สังคมชนบท พ่อแม่หลาย ๆ คนก็เกิดที่นั่น โตที่นั่น เรียนกันอย่างมากก็แค่ year 10 (กฏหมายที่ NSW สมัยก่อน ภาคการศึกษาแค่ year 10) แล้วก็ออกมาทำงานรับจ้างกัน พวกเขาไม่ได้ต่อยอดชีวิตอะไรมากมาย เราดีใจที่เราได้เป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางของลูกศิษย์หลาย ๆ คน ลูกศิษย์ผู้ชายที่เห็นในรูป ตอนนี้ก็เรียน ปี 2 ของ Engineering แล้ว อีกคนก็เรียนพวก Meidical Science อะไรสักอย่างนี่แหละ เราจำไม่ได้ ทั้ง 2 คนเรียนเก่งคณิตศาสตร์ เป็นตัวเก็งที่กะจะได้ band 6 ของปีนั้น แต่ก็น่าเสียดาย ได้มาแค่ band 5 แต่ก็เป็น band 5 ที่สูงพอสมควร เด็กผู้ชายก็ชอบวิชาคอมพิวเตอร์และฟิสิกส์เป็นชีวิตจิตใจ สมัยที่เขาเรียน high school อาจารย์ก็จะชอบเรียกใช้เขาและเพื่อนอีกคน ทำนั่น นี่ โน่น ให้ตลอด ลูกศิษย์ year 12 ทุกปี อาจารย์จะสอนทำข้อสอบ และติวกันหลังเลิกเรียนทุกปีอยู่แล้ว ตลอดทั้งเทอม 3 เป็นเวลา 1 เทอม มันจึงทำให้เราสนิทกับลูกศิษย์เหล่านี้ และคุณพ่อคุณแม่ของลูกศิษย์เองก็รู้สึกขอบคุณเราที่เราทุ่มเทในการสอนให้กับลูก ๆ เขาด้วย ทุกครั้งที่เราเห็นความสำเร็จ หรือเห็นลูกศิษย์กำลังเดินทางไปสู่จุดมุ่งหมายชีวิตที่เขาตั้งใจไว้ มันคือความสุข ชีวิตของการเป็นอาจารย์ นี่แหละความสุข ที่ไม่ต้องไปซื้อหามาด้วยเงินทอง ความสุขของการเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จของพวกเขา แค่เขาบอกว่า เขาเป็นคนแรกของตระกูลที่เรียนมหาวิทยาลัย แค่เขาบอกว่าเขาเป็นคนแรกของตระกูลที่จะได้รับปริญญา แค่นี้เราก็ภูมิใจแล้ว บางทีการเข้าเรียนมหาวิทยาลัยหรือการรับปริญญาสำหรับเรา มันเป็นเรื่องปรกติ หลาย ๆ คน take it for granted แต่สำหรับเด็กที่มาจากสังคมชนบท สังคมเมืองรอบนอก สำหรับพวกเขาแล้ว มันคืออะไรที่ยิ่งใหญ่มาก สำหรับเขาและครอบครัวของพวกเขา ...ตั้งใจเรียนนะเด็ก ๆ ... วันนี้เปิดเทอมวันแรกของ UOW; Autumn session
เมื่อวานเราเลยชวนลูกศิษย์ไปทานข้าวด้วยกันซะหน่อย ลูกศิษย์โต ๆ กันแล้ว ปีนี้อยู่ปี 2 กันแล้ว เผลอแป๊บเดียว ลูกศิษย์ทั้ง 3 คนของอาจารย์ เรียนคณะ Computer Science ที่ University of Wollongong เป็นคณะเดียวกันกับอาจารย์เลย หลาย ๆ วิชาที่อาจารย์เคยเรียน ตอนนี้ลูกศิษย์เราก็จะได้มีโอกาสเรียนกับสิ่งที่เราเคยเรียนมาแล้วสินะ ลูกศิษย์เป็นเด็กมาจากเมืองรอบนอก การที่พวกเขาได้มาใช้ชีวิตในเมืองแบบนี้ อาจารย์คิดว่ามันเป็นประสบการณ์ชีวิตที่ดีของนักเรียน เราบ่มพร่ำสอนนักเรียนชุดนี้มาตั้งแต่ year 8 ตั้งแต่ตัวยังกะเปี๊ยกอยู่เลย ตอนนี้นักเรียนโตเป็นหนุ่มแล้ว เริ่มดูแลตัวเองในเรื่องของภาพลักษณ์และการแต่งตัวด้วย เออ ไม่ใช่เรียนเก่งแล้วเป็นเด็ก nerd อย่างเดียว ตอนนี้มีการระวังเรื่องอาหารการกิน และน้ำหนักด้วย เธอเปลี่ยนไปนะ เธอเปลี่ยนไป นักเรียนฝรั่ง แต่มีอาจารย์เป็นคนเอเชีย เราก็ต้องพาไปทานอาหารเอชียนี่แหละ ให้ลูกศิษย์ได้กินอะไรเปลก ๆ บ้าง ที่เมืองรอบนอกที่พวกเขาอยู่ ไม่มีอะไรแบบนี้ซักเท่าไหร่ ลูกศิษย์บอกว่าเราไปทานอาหารไทยกันบ่อยแล้วนะครับ งั้นคราวนี้อาจารย์พาไปทานอาหารญี่ปุ่นก็แล้วกัน เป็น sushi train เพราะลูกศิษย์ก็ยังไม่เคยทานอาหารแบบนี้ซะที เราเป็นอาจารย์เราก็พยายามทำอะไรเพื่อลูกศิษย์ ประสบการณ์ชีวิตบางสิ่งบางอย่าง เราก็อยากจะหยิบยื่นให้พวกเขา มันไม่จำเป็นต้องเป็นเฉพาะประสบการณ์ในห้องเรียน มันไม่จำเป็นต้องเป็นเนื้อหาสาระที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์เท่านั้น แต่แน่นอน อาจารย์สอนคอมพิวเตอร์ และนักเรียนกลุ่มนี้ก็ชอบคอมพิวเตอร์เป็นชีวิตจิตใจอยู่แล้ว เราก็จะคุยกันแต่เรื่องคอมพิวเตอร์และการเขียนโปรแกรมมากกว่า นักเรียนทุกคนได้เกรดออกมาดีมาก เมื่อปีที่แล้ว เพราะนักเรียนกลุ่มนี้มีพื้นฐานการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์อยู่แล้ว นักเรียนกลุ่มนี้ได้เปรียบนักเรียน high school คนอื่น ๆ ที่ไม่เคยเรียนวิชาคอมพิวเตอร์มาก่อนเลย เราดีใจและภูมิใจที่เราเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จในการเรียนของนักเรียนกลุ่มนี้ นักเรียนกลุ่มนี้บอกว่า วิชาของปี 1 ที่มหาลัยเรียนง่าย เพราะเขามีพื้นฐานมาแล้วตอนที่เรียนกับเราที่ high school เป็นไงหละ แสดงว่าอาจารย์ปูพื้นฐานพวกเขามาดี ถึงแม้ว่านักเรียนกลุ่มนี้จะเรียนจบกันไปแล้ว ตอนนี้เรียนกันที่มหาลัยกันแล้ว เราก็ยังติดต่อและเช็คความก้าวหน้าของการเรียนของนักเรียนทุกคน (ที่เราสนิท) การเป็นอาจารย์ การเป็นลูกศิษย์ มันคือการเป็นอาจารย์และลูกศิษย์กันไปตลอดชีวิต อาจารย์เองก็เฝ้ารอวันที่ลูกศิษย์กลุ่มนี้จะรับปริญญา ไม่นานเกินรอ... The HSCS results were out yesterday.
I do believe that I have yet another strong result. Software Design & Development is one of the hardest IT subjects of all. It’s not easy for high school students to learn programming languages; Python or Java. Let’s alone the OOP (Object Oriented Programming) concept. It is damn hard even for me when I was at Uni. I think I have done a good job as a teacher. I have given those rare opportunities for students in the remote area to have a taste of IT… and of course, it has been taught by one of the capable and competence teachers; me!!! Out of 6 students this year, we have got 2 of 86 in HSC. 86 for Software Design & Development, that is very good. I am proud of them. I am proud of myself. I am proud of us. I have done my job well...indeed. I love them all, just like my own children. They will achieve whatever things they dream of in life. I will miss them… always. Things that only teachers will understand. ผล HSC ออกมาแล้ว เป็นอีกหนึ่งปีที่เราประทับใจกับความสำเร็จของลูกศิษย์ วิชา Software Design & Development คือวิชาปราบเซียน เป็นวิชาคอมพิวเตอร์ที่ยากที่สุด ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับนักเรียน high school ที่ต้องเรียนเขียนโปรแกรม เรียนเขียน Python เรียนเขียน Java ทั้งรัฐ NSW ก็มีนักเรียนแค่ไม่ถึง 2,500 คนด้วยซ้ำ (จำตัวเลขจริง ๆ ไม่ได้ แต่ก็ประมาณนี้แหละ) เราภูมิใจกับลูกศิษย์กลุ่มนี้จริง ๆ จาก 6 คน เรามี 2 คนได้ 86% ได้ band 5 ถึงแม้ปีนี้เราจะไม่ได้ band 6 (90% ขึ้นไป) แต่นี่ได้ band 5 มา 2 คนก็ถือว่าหรูแล้วสำหรับวิชา Software Design & Development มันทำให้เรารู้ว่า สิ่งที่เราทุ่มเทลงไปนั้น มันไม่สูญเปล่าเลยจริง ๆ มันไม่สูญเปล่าที่บางทีเราต้องอยู่หลังเลิกเรียน มาติวข้อสอบกัน มาทำอะไรต่าง ๆ นานา เพื่อเตรียมความพร้อมกัน ตอนนี้ลูกศิษย์ก็พร้อมที่จะโบยบินไปสู่โลกกว้างแล้วนะ ทุก ๆ ปี การที่เราได้ถ่ายรูปร่วมกับลูกศิษย์ year 12 มันคือความสุข
จากลูกศิษย์ที่ตัวกะเปี๊ยกตอน year 7 จนถึง year 12 เราก็ไม่เรียกว่าหนุ่มหรอกนะ เราจะเรียกลูกศิษย์ว่า "young adult" เสมอ เป็นคำวิชาการที่ต้องใช้ในโรงเรียนและใช้ในห้องเรียนด้วย เราดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตลูกศิษย์รุ่นนี้ หลาย ๆ คนเราสอนเขามา 5 ปีเต็ม ๆ รุ่นนี้เราไม่ได้สอนพวกเขาตอน year 8 เพราะไม่มีวิชาให้ลงสอนตอน year 8 เนื่องด้วยเราเป็นอาจารย์สอนวิชาคอมพิวเตอร์คนเดียวของโรงเรียน วิชาที่เราสอนก็จะเน้นพวก senior year มากกว่า พวก year 11 และ year 12 เราสอนลูกศิษย์กลุ่มนี้ครั้งแรกตอนปี 2012, year 7 ปี 2013, year 8 เราไม่ได้สอนพวกเขา ปี 2014 - 2018, เราสอนลูกศิษย์กลุ่มนี้มาโดยตลอดเลย ปูพื้นฐานทางด้านคอมพิวเตอร์และการเขียนโปรแกรมกันมาตั้งแต่เนิ่น ๆ เลย พอถึงปี 2017 และปีนี้ 2018, ตอนที่ลูกศิษย์กลุ่มนี้เลือกเรียนวิชาของ senior วิชา Software Design & Development ซึ่งเป็นวิชาที่ยากมาก วิชาปราบเซียน Standard ของเราเป็นอะไรที่ง่าย ๆ เราบอกลูกศิษย์เสมอว่า คะแนนอะไรก็ตามแต่สำหรับ "Mr. Paopeng" แล้ว ถ้าได้ต่ำ 80% ถือว่าไม่นับ... ลูกศิษย์ที่เลือกเรียนวิชาคอมพิวเตอร์ช่วง senior year โดยส่วนมากแล้วจะเป็นลูกศิษย์กลุ่มหัวกะทิอยู่แล้ว เราไม่ค่อย worry เรื่องนี้เท่าไหร่ ถ้าลูกศิษย์ได้ 89% อาจารย์จะถามว่า "Why not 90%?" นี่คือ standard ของเราที่ลูกศิษย์ทุกคนรู้ดี รู้ถึง high expectation ของอาจารย์ เพราะถ้าเป็นนักเรียน senior year แล้วจะมาเรียนเล่น ๆ ไปวัน ๆ ก็ไม่รู้จะมาเรียนไปทำไม ไปทำอย่างอื่นดีกว่า มันจะได้ไม่เสียเวลาซึ่งกันและกัน เราบอกกับลูกศิษย์เสอว่า ถ้าอยากอยู่บนที่สูงที่ต้องทนความหนาวให้ได้ แต่เราก็เอาใจใส่กับลูกศิษย์ year 11 และ year 12 ดีเสมอ เราคิดว่าไม่มีอาจารย์คนไหนในโรงเรียนที่ควักตังค์ตัวเองซื้อนั่น นี่ โน่น ให้ลูกศิษย์เยอะเท่าเราแล้ว เดี๋ยวก็ซื้อ Korean instant noodle มั่งหละ ทำเสื้อ t-shirt แจกมั่งหละ เดี๋ยวก็ติวกันหลังเลิกเรียนมั่งหละ ของกินก็ต้องพร้อม อาจารย์จัดแจง ออกเองทุกอย่าง อาจารย์สอน high school ข้าราชการประจำ พวกเราเงินเดือนต่ำต้อยจ๊ะ แต่ที่ทำอยู่ทุกวันนี้ก็เพราะเรารู้ว่าเราสามารถเปลี่ยนชีวิตลูกศิษย์เหล่านี้และครอบครัวของพวกเขาได้อย่างไร โดยเฉพาะโรงเรียนที่อยู่แถวเมืองรอบนอก ยากมากที่จะหาอาจารย์สอนวิชาคอมพิวเตอร์ คนที่เขาจบ IT จบ Computer Science เขาก็อยากไปทำงานกับบริษัท IT ใหญ่ ๆ เงินเดือนเยอะ ๆ จะมีสักกี่คนที่จะมาเป็นอาจารย์ เงินเดือนไม่เท่าไหร่ แต่มันก็มีความสุข มีความสุขที่ได้ทำ รูปที่เราถ่ายกันปีนี้ เป็นรูป formal ของปีนี้ ปรกติทุกปี เราก็มีถ่ายกันนอกสถานที่ด้วย ที่ park ปีนี้น่าเสียดายมากเลย เรามาไม่ทันถ่ายรูปกับลูกศิษย์ที่ park กัน เพราะลูกศิษย์กลุ่มนี้ ก็เป็นกลุ่มที่สนิทกับเรามาก วันนั้นลูกศิษย์ก็พากันมองหา "Mr. Paopeng" เอ๊ะ ทำไมไม่เห็นมา อ๋อ เรามัวแต่ clear โต๊ะทำงานอยู่จนค่ำวันนั้น ทำอะไรก็ไม่ทัน กว่าจะมาถึง ก็ได้เวลางาน formal แล้ว ก็เลยได้แต่ถ่ายรูปกันที่ studio แบบนี้ เสียดาย แต่ก็ย้อนเวลากลับไปไม่ได้ เราก็มีรูปที่พวกเราถ่ายกันหน้าโรงเรียน หรือในห้องเรียน แต่มันก็ไม่เหมือนกับถ่ายกันในวันงาน formal เพราะแต่ละคนก็จะแต่งตัวกันดูดี ลูกศิษย์กลุ่มนี้ ก็จะแตกต่างจากลูกศิษย์ของกลุ่มที่แล้ว ปีที่แล้ว ทุก ๆ ปี ลูกศิษย์ก็จะแตกต่างกันออกไป ลูกศิษย์ year 12 ปีนี้จะเป็นกลุ่มเล็กกว่าปีที่แล้ว ความสนิทและเรื่องของการเรียนก็จะแตกต่างจากกลุ่มปีที่แล้วด้วย ในเรื่องของ academic, ลูกศิษย์กลุ่มนี้ก็คงจะสู้ลูกศิษย์กลุ่มของปีที่แล้วไม่ได้ แต่เราก็เชื่อว่าพวกเขาจะทำได้ดี เรามั่นใจว่าลูกศิษย์ทุกคนของเราจะสามาถสอบเข้าเรียนในมหาลัย สาขาที่เขาต้องการได้ นักเรียนกลุ่มนี้เลือกลงคณะคอมพิวเตอร์ หรือไม่ก็วิศวะ กันเป็นส่วนใหญ่ มีคนเดียวที่เลือกวิทยาศาสตร์การแพทย์ เรารู้ศักยภาพของลูกศิษย์เรา เพราะเราคลุกคลีกันมาหลายปี เรารู้ว่าพวกเขาทำได้ ตอนนี้ก็แค่รอผล ATAR; The Australian Tertiary Admission Rank เดือนหน้า และจดหมายตอบรับจากทางมหาลัยตอนเดือน Jan กับลูกศิษย์ที่เราสอนมาหลาย ๆ ปีแบบนี้ เราก็จะรู้จักพ่อแม่ หรือผู้ปกครองเขาเป็นอย่างดี เพราะทุกปีพวกเขาก็จะเข้ามาคุยถึง progress ของลูก ๆ ของพวกเขาอยู่แล้ว ทุกครั้งที่ได้คุยกับพ่อแม่ของลูกศิษย์บางคน เราสามารถสัมผัสได้ถึงความเคารพ และ respect ที่เราได้รับมาจากพ่อแม่ของลูกศิษย์ทุกคน พวกเรารู้สึก appreciate ที่เราไปสอนโรงเรียนที่ห่างไกลตัวเมือง ทำให้ลูก ๆ ของพวกเราได้มีโอกาสได้เรียนวิชาคอมพิวเตอร์ซึ่งโรงเรียนรอบนอกไม่ค่อยมีใครอยากไปสอน เราสอนที่โรงเรียนนี้มาก็หลายปีแล้ว ลูกศิษย์ส่วนมากจะเลือกเรียนต่อกันที่: UOW; University of Wollongong ANU; Australian National University UC; University of Canberra สำหรับลูกศิษย์กลุ่มนี้ เดี๋ยวเราก็จะมาลุ้นกัน ว่าใครจะไปเรียนต่อที่ไหน อะไร ยังไง เราก็จะรอดูการเติบโตของลูกศิษย์กลุ่มนี้ต่อไป |
Archives |