ครอบครัวถือว่าโชคดี
พวกเราอยู่ที่ Wollongong กันมานาน ครอบครัวที่สนิท ๆ กันก็จะเป็นพ่อ ๆ แม่ ๆ ของเพื่อนลูก ๆ ที่โรงเรียน หรือไม่ก็ dance mums แม่ ๆ ของเพื่อนลูกลิงที่ไปเรียน dance ที่ studio เดียวกัน dance mums บางคนก็เคยมีประสบการณ์กับโรคร้ายนี้มาก่อน เขาก็มีการแชร์ข้อมูลกัน นั่น นี่ โน่น นัดไปทาน lunch นัดไปทาน dinner ก่อนที่จะผ่าตัด อย่างน้อย ๆ เรียมเองก็พอมีความรู้เกี่ยวกับโรคนี้ขึ้นมาบ้าง What to expect after this... and that... ต่าง ๆ นานา ครอบครัวเราโชคดีที่หนึ่งใน dance mums ที่ครอบครัวสนิทนั้นเป็น registered nurse เขาก็ยังมีใบประกอบวิชาชีพอยู่ ต่อใบประกอบวิชาชีพอยู่ตลอดเวลา แต่เขาเลิกเป็น registered nurse แล้ว เพราะฐานะทางบ้านค่อนข้างอู่ฟู่พอตัว สรุปคือไม่ต้องทำงานก็ได้ เพื่อน dance mums ที่เป็น registered nurse คนนี้ก็จะมาที่บ้านก่อนที่เรียมจะไปผ่าตัด เขาก็เอานั่น นี่ โน่น มาให้เพราะเขารู้ว่าคนไข้หลังผ่าตัดต้องการอะไร ด้วยที่ความเป็น registered nurse เขาก็จะอธิบายอะไรได้ detailed มาก ๆ ซึ่งเป็นอะไรที่มีดีมากสำหรับพวกเราในการเตรียมตัวและเตรียมใจ ที่ peak ไปกว่านั้นบ้านเขาอยู่ห่างจากบ้านเราไม่กี่ไฟแดง 10-15 นาทีถึงกันได้ หลังจากผ่าตัด เรียมกลับมาที่บ้าน 2-3 วันแรก เขากังวลเรื่องแผลผ่าตัดตอน 3 ทุ่ม (9pm) ก็โทรหาเพื่อนคนนี้ เพื่อนคนนี้ก็บึ่งรถมาหาพวกเราที่บ้านเลยทันที (ไม่มีอะไรในกอไผ่ เรียมแค่วิตกกังวลไปเอง) แต่นี่คือ 9pm นะ ถ้าเราไม่มีเพื่อนที่เป็น registered nurse คนนี้ ลองคิดดูซิว่าอะไรจะเกิดขึ้น ก็คงต้องไปนั่งรอหมอที่ Emergency Ward ที่โรงพยาบาล พอวันรุ่งขึ้น 9am เรียมรู้สึกแปลก ๆ กับแผล รู้สึกคัน ๆ แผล เรียมก็โทรหาเพื่อน registered nurse คนนี้ ภายใน 10 นาทีเพื่อนก็มาถึงบ้าน มาช่วยดูแผล นั่น นี่ โน่น เช่นเดียวกัน ไม่มีอะไรในกอไผ่ เรียมแค่วิตกกังวลไปเอง imagine ถ้าเราไม่มีเพื่อนที่เป็น registered nurse คนนี้ เราก็คงต้องไปนั่งรอหมอที่ Emergency Ward ที่โรงพยาบาล เนื่องด้วยเรียมเป็นคนสิงคโปร์ ถ้าใครเคยอยู่สิงคโปร์มาก่อนจะรู้ว่า Singaporean "ส่วนมาก" จะเป็นยังไง เดี๋ยวว่าง ๆ วันหลังจะเขียน blog ให้อ่านเรื่อง culture หลายสิ่งอย่างของคน Singaporeans เอาเป็นว่า เรารู้สึก at ease ที่มีเพื่อนแบบนี้ มีอะไรพวกเราก็ speed dial ได้เลย เพื่อน ๆ ทุกคนบอกว่าโทรได้ 24 hr บางคนอาจจะบอกว่า ไม่รู้สึกเกรงใจบ้างเหรอ hmmm.... พวกเรารู้จักกันมานาน จนมันเลยจุดนั้นไปแล้วหนะจ๊ะ เราก็พอจะรู้ว่าคนไหนที่เราสามารถโทรได้เวลาต้องการความช่วยเหลือ ที่เขียนมาทั้งหมด ก็แค่อยากจะบอกว่า ในยามยาก มันทำให้เรารู้ว่า "มิตรที่ดี ไม่จำเป็นต้องมีเยอะ" จริง ๆ มันทำให้เราไม่รู้สึกโดดเดี่ยว ทุกวันนี้พวกเราก็เลย focus ไปที่ครอบครัว และคนที่อยู่ใน "inner circle" เท่านั้น ใครที่ outer หน่อย เราก็จะไม่ค่อยอีนังขังขอบกับใคร ถึงทุกคนที่อ่าน blog นี้ post นี้ ขอให้ทุกคนได้เจอ "มิตรที่ดี" นะครับ หากยังไม่เจอ ขอให้เจอภายในเร็ววัน สำหรับใครที่เจอแล้ว ขอให้รักษาพวกเราเอาไว้นาน ๆ เพราะมันทำให้เราชุ่มฉ่ำหัวใจได้
0 Comments
Leave a Reply. |
AuthorWrite something about yourself. No need to be fancy, just an overview. Archives
August 2024
Categories |