|
conversation ภายในรถกับพี่ ๆ น้อง ๆ "ครอบครัว J" ที่ Gold Coast; จากที่พักไปสนามบิน
น้องถามว่าเราจะ retire เมื่อไร เราบอกว่า November 2025 นี้ครับ เพราะลูกสาวเรียนจบ high school แล้ว สอบ HSC เดือน November ก็คือหมดภาระแล้ว ของเรา คำว่า "retire" ไม่มีอยู่จริงหรอกครับ น่าจะเป็น semi-retire มากกว่า คือใช้ชีวิตแบบสบาย ๆ ไม่ต้องเร่งรีบมาก หลัก ๆ ก็คือ เรากับภรรยาก็อยากใช้ชีวิตอยู่ 3 ประเทศ: - เมืองไทย - สิงคโปร์ - ออสเตรเลีย ideally ก็คือ เมืองไทย 3 เดือน สิงคโปร์ 3 เดือน ออสเตรเลีย 3 เดือน แล้วล่องลอยไปเรื่อย ๆ อีก 3 เดือน เพราะเรากับภรรยาทำงานที่ไหนก็ได้ เวลาต้องเจอลูกค้า face-to-face consultation หรือต้องไปศาลอุทธรณ์ ART เราสามารถบินมาได้เลยทันทีครับ การเงินเรา OK ในการซื้อตั๋วเดินทางได้เลยทันที ไม่ต้องมารอ high season, low season หรือรอตั๋วลดราคา เพราะทุกอย่างเรา claim เป็นค่าใช้จ่ายของบริษัทได้ ถ้าเดินทางเกี่ยวกับการทำงาน ส่วนบริษัท "J Migration Team" ถ้าเสร็จจากการ settlement บ้านที่ Sydney (end 2026 or early 2027) เราก็น่าจะเปิดเป็นบริษัท offshore ไม่เมืองไทยก็สิงคโปร์ เพื่อเป็นการลดภาษี ลดภาษีนะครับ ไม่ใช่เลี่ยงหรือหนีภาษี!!! น้องถามต่อว่าระหว่าง 3 นี้; ออสเตรเลีย, สิงคโปร์ และเมืองไทย เราอยากอยู่ที่ไหนมากที่สุด เราก็ตอบแบบไม่คิดเลยว่า "เมืองไทยกับสิงคโปร์" คือชอบพอ ๆ กัน เพราะมันสะดวกเรื่องของกิน ส่วนออสเตรเลียก็ OK แหละ ธุรกิจเราอยู่ที่นี่ ลูกค้าเราอยู่ที่นี่ เราก็ยังต้องไป ๆ มา ๆ อย่างที่บอกไปว่า "หนาวนี้ หนาวสุดท้ายที่ NSW" ก็คงจะเป็นแบบนั้นจริง ๆ ชีวิตหลังจากนี้ก็คงค่อย ๆ ได้เริ่มทำในสิ่งที่อยากจะทำ Financially พวกเรา OK แล้วตั้งแต่ 01 July 2020 ที่รอจนถึงปีนี้ก็เพื่อรอให้ลูกสาวจบ Year 12 (ม.6) ชีวิตที่เหลือก็คงคอย support ลูก ๆ ทั้ง 2 อยู่ห่าง ๆ ครอบครัวเรา: 1. เรียน ป.ตรี ต้องใช้ HECS เราไม่จ่ายค่าเทอมให้ 2. ถ้าไปเรียนต่างเมือง เราจะดูแลค่าเช่าให้ และ pocket money 3. "ถ้า" ใครจะต่อ ป.โท daddy จะจ่ายค่าเทอมให้ (แนะนำให้เรียน part-time ทำงานไปด้วย เรียนไปด้วย ถึงตอนนั้นก็คงไม่ช่วยเรื่องค่าเช่าและไม่มี pocket money จะช่วยแค่ค่าเทอม) Note: คุณรู้หรือไม่ว่าครอบครัวเรา ไม่มี pocket money ให้ลูก ๆ ไปโรงเรียนช่วงเรียน primary school และ high school ลูกทั้ง 2 ห่อข้าวไปกินที่โรงเรียนครับ ไม่มีซื้อกินที่โรงเรียน ลูกสาวตอนเรียนอยู่ที่ primary school อาจมีซื้อของที่ canteen บ้างปีละ 2-3 ครั้ง ต้องสั่งล่วงหน้า 1 วันกับ P&C ซึ่งแม่เขาก็จะเตรียมเงินใส่ซองไป order ที่ canteen แค่นั้นเอง high school ไม่ต้องพูดถึง ลูก ๆ ขี้เกียจเข้าแถวรอซื้ออาหารที่ canteen ดังนั้นครอบครัวเราไม่เคยเปลืองเรื่องค่าอาหารลูกไปโรงเรียนเลยครับ kindy - primary - high school ไม่ว่าลูกเราจะเรียนอะไร สุดท้ายแล้วเราก็อยากให้เขาทั้ง 2 ออกมาทำอะไรของเขาเอง เป็นเจ้าของธุรกิจ เอาความรู้ที่เรียนมาประกอบการ ไม่อยากให้เป็นลูกจ้าง สำหรับครอบครัวเรา เมื่อลูกจบ Year 12 นั่นคือลูกเป็นอิสระแล้วในการอยากจะทำอะไรก็ได้กับชีวิต ขอให้มีความสุขก็พอ คนเป็นพ่อเป็นแม่ก็แค่คอย support อยู่ห่าง ๆ ชีวิตคนเรา... มันก็แค่นี้แหละครับ 27/09/2025 💕💕💕 |
AuthorJohn Paopeng Archives
November 2025
Categories |
RSS Feed