จอห์น เผ่าเพ็ง เพราะฉะนั้น
  • Blog; journal of life
  • Daddy Diary
  • Investment Diary
  • Business Tips and Tricks
  • ข้างขอบเตียง Cancer
  • ครูไทยในต่างแดน
  • ebooks
  • About
  • กราบขอบคุณ

เพื่อนคนไทย; UOW

31/10/2021

Comments

 
วันก่อนที่เราเขียน blog เกี่ยวกับชีวิตเราตอนเรียนที่ UOW
แรงจุงใจก็มาจากเพื่อนคนนี้

เอาจริง ๆ นะ คนไทยที่มาเรียน UOW ด้วยกันปีนั้น ยอมรับเลยว่าเรา "เป็นเพื่อนที่ไม่ดี" เพราะไม่อินังขังขอบกับใคร เพื่อนที่สนิทก็จะเป็นเพื่อนที่เรียนด้วยกันใน class มากกว่า ก็เป็นคนไทยคนเดียวในคณะ (ของรุ่นนั้น ปีนั้น, แต่ก่อนจบก็มีน้องคนไทยย้ายมาจาก Canberra มาเรียน Computer Science อีก 1 หนึ่งคน ทั้ง 3-4 ปีคนไทยแค่ 2 คน) เพื่อนเราจึงเป็นเพื่อนชาวต่างชาติมากกว่า และก็เพื่อน ๆ จากกลุ่ม OCF; Overseas Christ Fellowship 

ใน facebook ส่วนตัว (อันที่ส่วนตัวจริง ๆ นะ อันที่ไม่เปิด public) ก็จะเพื่อนที่เป็นคนไทยไม่กี่คน เพิ่งกลับมา reconnect กับเพื่อนที่เป็นคนไทยสมัยเรียน UOW ปีเดียวกันเมื่อ 1-2 ปีมานี้เอง เพราะตอนเรียนจบสมัยโน้น มันก็ยังไม่มีสื่อ social พอเรียนจบต่างคนก็ออกไปมีชีวิตของใครมัน เราก็จะยังติดต่อเฉพาะเพื่อนที่เรียน Computer Science มาด้วยกัน เพราะหลาย ๆ คนยังอยู่ที่นี่และนัดทานข้าวด้วยกันนาน ๆ ที

จากที่ขาดการติดต่อกันตั้งแต่เรียนจบ เพื่อนคนไทยคนนี้ตอนนี้มีอะไรที่พิเศษมาก ที่ทำให้เราประทับใจ

แต่ขอ flahs back ไปเมื่อสมัยเมื่อครั้งกระโน้นก่อนนะ สมัย UOW
ปีที่เราเรียน UOW จะนักเรียนคนไทยเรียนสายวิทย์กันอยู่ 5 คน
เราเรียน Computer Science x 1 คน
Engineering x 3 คน แต่จบแค่ 1 คน เรียนเมืองนอกถ้าไม่ตั้งใจเรียน มันก็จบยากอยู่เน้อ
Science; Chemistry x 1 คน

มันก็จะมีกันแค่นี้ทั้งมหาลัยปีนั้น ที่เรียนสายวิทย์
นอกนั้นก็เป็นลูกท่านหลานเธอ ลูกคนใหญ่คนโตที่เขามาเรียน commerce กัน
ไม่ได้ anti คนเรียน commerce 
แต่ที่ UOW มันก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ สมัยนั้นนะ
สมัยนี้ไม่รู้

ในบรรดาเด็กที่มาเรียนสายวิทย์กันปีนั้น
ที่เด่น ๆ หน่อยก็มีเรา และเพื่อนอีกคนที่เรียนวิทยาศาสตร์เคมี; Chemistry 

เพื่อนคนที่เรียน Chemistry เป็นคนเรียนเก่งมาก
ผลการเรียนดีตลอด
เดินเข้าไปในห้องนอน ก็จะเห็นตารางธาตุและสูตรเคมีต่าง ๆ เต็มพนัง
และเพื่อนเองก็ "หน้าหม้อ" มาก
มีความเจ้าชู้เป็นเลิศ
จีบผู้หญิงทุกคนที่เข้ามาใกล้ แต่ก็ไม่มีแฟนซักที ก็เพราะเขาจีบดะ จีบไปเรื่อย ไม่จริงจังกับใครซักคน

แต่เรื่องการเรียน เพื่อนคนนี้ "ชนะเลิศ"
พอเรียนจบ เราไม่ได้ติดต่อเพื่อนคนไทยรุ่นเดียวกันเลย ต่างคนต่างไปมีชีวิตของใครมัน และสมัยก่อนมันก็ไม่ได้ social media อะไรแบบนี้
แต่เดาเอาว่าเพื่อนต้องมีการงานที่ดีแน่นอน
เป็นพนักวิทยาศาสตร์
จบเคมี
จบเมืองนอก

เราเดาเอาว่าเพื่อนก็คงมีชีวิตงานการที่ดีแหละ ช่วงจบใหม่ ๆ 20 ต้น ๆ
พอเพื่อน add facebook เข้ามาก็เห็น facebook feed ของเพื่อนที่มีแต่ธรรชาติ ท้องทุ่ง กบ เขียด หอย ปลา ปู

เราก็งง
เอ๊ะ เพื่อนต้องทำงานเป็นนักวิทยาศาสตร์สิ 
แต่ชีวิตของเพื่อนที่ผ่านมาเราก็ไม่ได้ถาม ไม่ได้ละลาบละล้วง เพราะเป็นเรื่องส่วนตัว ก็เราเพิ่งจะกลับมา reconnect กันตั้งแต่แยกย้ายกันไปตอนเรียนจบ

เพื่อนกลับไปใช้ชีวิตที่เรียบง่ายอยู่กับคุณแม่
เพราะคุณแม่แก่แล้ว
และเหลือคุณแม่แค่คนเดียว
และเพื่อนตอนนี้ก็โสด เราก็ไม่กล้าถามนะว่าที่ผ่านมาได้แต่งงานมีฝั่งมีฝาอะไรกับเขาหรือเปล่า หรือว่าโสดมาโดยตลอด เพราะนิสัยตอนที่เรียนมหาลัย เขาไม่น่าจะโสดมาจนถึงปัจจุบัน อาจจะแต่งแล้วหย่าหรือเปล่า เราไม่แน่ใจ แต่ก็ไม่กล้าถาม แต่คือไม่มีลูก ไม่มีแฟน

แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น

ประเด็นคือ
เพื่อนกลับมาใช้ชีวิตที่เรียบง่ายกับคุณแม่
ดูแลคุณแม่
เพื่อนตัวคนเดียว เราคิดว่าเพื่อนไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินแหละ ถ้าทำงานมาในสายวิทยาศาสตร์มา เพื่อนก็น่าจะมีเงินเก็บอยู่พอสมควร

บ้านหลังใหญ่โต เพื่อนอยู่กัน 2 คนกับคุณแม่

ทุกวันนี้เพื่อนดูมีความสุขมาก อาจจะเหงา อาจจะไม่ได้เมา
แต่เพื่อนดู "เต็มอิ่ม" มาจากข้างใน
กลับมาอยู่กับธรรมชาติ
กลับมาดูแลคุณแม่
นาน ๆ ทีเขาก็จะพูดเรื่องปุ๋ย แล้วก็โยงเข้ากับวิชาเคมี
คนเคยเป็นนักเคมี ยังไงก็ยังเป็นนักเคมีอยู่วันยังค่ำ

ดูเหมือนว่าเพื่อนได้เจอความสุขที่แท้จริง
ได้เจอสัจธรรมของชีวิต
ใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายของจริง
เห็นแล้วเราก็พลอยมีความสุขไปด้วย

เราดีใจที่เห็นเพื่อนมีความสุขในแบบนั้น ที่เรียบง่าย
Retire Young เป็น concept ที่อธิบายให้คนอื่นเข้าใจยาก
แต่ก็ช่างเขาเถอะ หลาย ๆ คนอาจจะไม่เข้าใจ
คนส่วนใหญ่ชอบคิดว่า "ยังหนุ่มยังแน่น ก็ทำไปสิ ก็หาไปสิ อย่าเพิ่งเลิกทำงาน"

ยังหนุ่มยังแน่น แต่ถ้าเรารู้สึกว่าเรา "พอแล้ว" "อิ่มแล้ว" หละ
ถ้าเราไม่ได้เดือดร้อนแล้ว
มีพออยู่พอกิน ไม่ก่อหนี้ก่อสิน
และถ้ามี passive income เข้ามาด้วย กันก็ Retire Young ได้ หรือ Semi retire
เราคิดว่ามันเป็น concept ที่ทำได้จริง

เพื่อนเราบอกว่า เขากลับมาใช้ชีวิตอยู่กับคุณแม่ได้ 3 ปีแล้ว
ดีใจที่เห็นเพื่อนได้ retire ตัวเองเร็วมาก
เราก็เองก็คงต้องจัดการกับชีวิตตัวเองต่อให้ได้
จะไปทางไหนต่อจากนี้
จริง ๆ เราก็มี plan แหละ เขียนใส่สมุดโน๊ตทุก ๆ เช้า

จริง ๆ แล้วชีวิตคนเรา ถ้าเงินไม่ใช่ที่ตั้งของชีวิต
เราสามารถมีความสุขอยู่กับอะไรง่าย ๆ ก็ได้นะ
เราดูเพื่อนถ่ายรูปต้นไม้ ต้นหญ้า ธรรมชาติ นั่น นี่ โน่น
ดูแล้วมีความสุขจัง
เออ... เราก็อยากทำมั่งนะ

เดี๋ยวเสร็จเรื่องบ้านแล้ว ชีวิตก็น่าจะเริ่มเข้ารูปเข้ารอย
​เราต้องทำได้สิ

Note: เพื่อนที่ UOW เรามี 2 รุ่น รุ่นแรกคือ Computer Science รุ่นที่ 2 คืออักษรญี่ปุ่น มันก็จะคนละอารมรณ์กัน วันหน้าฟ้าใหม่ ก็จะทยอยเล่าไปเรื่อย... :)

Comments

    Author

    John Paopeng

    Archives

    February 2023
    January 2023
    December 2022
    November 2022
    October 2022
    September 2022
    August 2022
    July 2022
    June 2022
    May 2022
    April 2022
    January 2022
    December 2021
    November 2021
    October 2021
    September 2021
    August 2021
    July 2021
    June 2021
    March 2021
    January 2021
    December 2020
    November 2020
    October 2020
    September 2020
    August 2020
    July 2020
    June 2020
    May 2020
    April 2020
    March 2020
    February 2020
    December 2019
    November 2019
    October 2019
    September 2019
    August 2019
    July 2019
    June 2019
    May 2019
    April 2019
    March 2019
    February 2019
    January 2019
    December 2018
    November 2018
    October 2018

    Categories

    All

    RSS Feed


  • Blog; journal of life
  • Daddy Diary
  • Investment Diary
  • Business Tips and Tricks
  • ข้างขอบเตียง Cancer
  • ครูไทยในต่างแดน
  • ebooks
  • About
  • กราบขอบคุณ